ในจำนวนมนุษย์กลายพันธุ์ทั้งหมดในจักรวาล X-Men นั้น ต้องยกให้ วูลฟ์เวอรีน (Wolverine) เป็นมนุษย์กลายพันธุ์รายที่มีพิษสงมากสุดและเป็นอมตะที่สุด เพราะความสามารถในการรักษาและฟื้นคืนสภาพร่างกายตัวเองได้นั่นเอง บวกกับการมีกรงเล็บอะดาแมนเทียมที่เป็นอาวุธทรงพลัง ทั้งแข็งแกร่งและมีความคบกริบ ตัดทุกสิ่งทุกอย่างได้ขาดหมด แต่แล้ว เนื้อหาในหนังสือการ์ตูน ‘Wolverine’ เล่มหนึ่งก็ได้เผยจุดอ่อนของเขา ที่ช่างดูธรรมดาเสียจนใคร ๆ ก็สามารถกำราบเขาลงได้

วูล์ฟเวอรีน หรือชื่อจริงว่า ‘เจมส์ โลแกน ฮาวเลตต์’ เป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่มีความสามารถพิเศษมากมาย แต่จุดเด่นที่สุดที่ทุกคนนึกออกเมื่อเอ่ยถึงชื่อ วูล์ฟเวอรีน ขึ้นมา นั่นก็คือกรงเล็บอะดาแมนเทียม ที่กล่าวได้ว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขาเลยก็ว่าได้ แต่กระนั้นความสามารถพิเศษที่มีคุณประโยชน์กับตัวเขาเองมากที่สุด ก็คือความสามารถในการเยียวยาร่างกายตัวเองได้ ไม่ว่าเขาจะบาดเจ็บรุนแรงเพียงใด ก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่นอกเหนือจากนี้แล้ว อีกความสามารถพิเศษหนึ่งของวูล์ฟเวอรีนที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงนักก็คือ การมีประสาทสัมผัสที่ดีเยี่ยมเหนือมนุษย์ และตรงจุดนี้ล่ะที่บางครั้งก็กลับมาเป็นภัยต่อตัวเขาเอง เสียจนพลังในการรักษาตัวเองก็ยังไม่สามารถฟื้นฟูสภาพร่างกายเขาได้ทัน กลายเป็นจุดอ่อนรุนแรงที่ไม่น่าเชื่อ

Wolverine Vol. 3 #4

จุดอ่อนของวูล์ฟเวอรีนนี้ถูกเปิดเผยในหนังสือการ์ตูน ‘Wolverine Vol. 3 #4’ เขียนโดย เกร็ก รักคา และ แดริค โรเบิร์ตสัน วางแผงเมื่อปี 2003 เนื้อหาในเล่มนี้ เล่าเหตุการณ์ตอนที่วูล์ฟเวอรีนกำลังตามสอดแนมพวกลัทธิโฉดที่ลักพาตัวผู้หญิงคนหนึ่งไปและบังคับให้เธอมีเพศสัมพันธ์กับผู้นำลัทธิ ถ้าเธอไม่ยินยอมก็จะถูกทำร้ายให้เสียโฉมหรือไม่ก็ถูกฆ่าทิ้ง เหตุที่วูล์ฟเวอรีนตามสังเกตพฤติกรรมของชาวลัทธินี้ เพราะคนสำคัญของเขาคนหนึ่งถูกคนของลัทธินี้ฆ่าตาย และวูล์ฟเวอรีนต้องการแก้แค้นเอาคืน วูล์ฟเวอรีนเริ่มด้วยการไปยังเมืองเล็ก ๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งของลิทธินี้ เขาเข้าไปติดต่อที่สำนักงานนายอำเภอเป็นอันดับแรก เพราะระแคะระคายว่านายอำเภอมีส่วนรู้เห็นกับลิทธินี้ด้วย แต่ขณะที่เขาเข้าไปในสำนักงานนายอำเภอนั้น มีใครคนหนึ่งเพิ่งฉีดสเปรย์พริกไทยที่ห้องด้านหลังอาคารสำนักงาน

พอวูล์ฟเวอรีนก้าวเข้าไปยังสำนักงานนายอำเภอ น้ำตาเขาก็เริ่มไหลพรากออกมา และทั้งใบหน้าของเขาก็เริ่มรู้สึกระคายเคือง ตอนนั้นล่ะที่วูล์ฟเวอรีนเริ่มรู้ตัวแล้วว่าร่างกายเขาเริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสเปรย์พริกไทยป้องกันตัว แม้จะมีเพียงปริมาณน้อยนิดก็ตาม พอเขาเข้าไปในห้องทำงานนายอำเภอได้ เขาก็เริ่มขยี้ตาด้วยความเจ็บปวดแล้วเอ่ยขึ้นมา “เพื่อน……ฉันเกลียดไอ้ของพรรณนี้มากเลย” วูล์ฟเวอรีนทนความปวดแสบปวดร้อนไม่ไหวจนต้องรุดออกมาจากอาคารโดยเร็ว พอพ้นออกจากอาคารมาได้ ร่างกายของเขาได้ถึงเริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

นี่เป็นครั้งแรกที่วูล์ฟเวอรีนได้สัมผัสถึงผลกระทบอันรุนแรงของสเปรย์พริกไทย ความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่เขาได้รับนั้นอยู่ในระดับเดียวกับที่คนธรรมดาทั่วไปโดนฉีดเข้าใส่หน้าโดยตรงขนาดนั้นเลย นั่นเป็นเพราะเขามีประสาทสัมผัสพิเศษเหนือมนุษย์ จึงสัมผัสได้ถึงละอองสเปรย์พริกไทยอันน้อยนิดที่ลอยอยู่ในอากาศหลังจากมีคนฉีดไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อน และฉีดในพื้นที่อาคารคนละส่วนกับที่วูล์ฟเวอรีนเข้าไปเสียด้วย เราลองจินตนาการดูได้ว่า นี่แค่ละอองเพียงน้อยนิดเขายังทนไม่ได้จนต้องหนีออกมาจากตัวอาคาร แล้วถ้าเขามีใครฉีดสเปรย์พริกไทยใส่เข้าตรง ๆ เลยล่ะ รับรองว่าวูล์ฟเวอรีนผู้แข็งแกร่งได้ร่วงผล็อยลงไปชักดิ้นชักงอกับพื้นเป็นแน่ กรณีนี้ชี้ชัดว่า ประสาทสัมผัสพิเศษในการรับกลิ่นของวูล์ฟเวอรีนนั้นทำงานได้ดีมากเสียจนความสามารถในส่วนฟื้นฟูร่างกายยังตามไม่ทัน ทำให้เขาต้องเผชิญความเจ็บปวดของสเปรย์พริกไทยในระดับที่รุนแรงกว่าคนปกติหลายเท่า

แน่นอนว่าพิษสงของสเปรย์พริกไทยไม่ได้รุนแรงถึงขั้นจะฆ่าเขาได้ เพราะอย่างไรก็ตาม ความสามารถในการเรียวยาตัวเองก็จะทำหน้าที่ของมันให้เขาฟื้นตัวได้ในที่สุด เมื่ออยู่ในพื้นที่อากาศปลอดโปร่ง แต่อาจจะต้องใช้เวลานานขึ้นกว่าเดิม แต่เหตุการณ์ในการ์ตูนเล่มนี้ก็ยืนยันได้ว่า ใครก็ตามที่มีสเปรย์พริกไทยก็สามารถโค่นมนุษย์กลายพันธุ์ผู้แข็งแกร่งอย่างวูล์ฟเวอรีนลงได้ง่าย ๆ

ที่มา : screenrant