สำหรับคุณผู้อ่านที่เคยดู Spy x Family คงต้องเคยเห็นเมืองคู่แข่ง ที่เป็นศูนย์กลางของเรื่องราว อย่างเวสทาลิส และออสตาเนียใช่ไหมล่ะ ซึ่งถ้าใครอ่านประวัติศาสตร์อยู่แล้ว ก็คงเดาได้ไม่ยากหรอกว่าเมืองเหล่านี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากประเทศเยอรมนีในช่วงสงครามเย็น

แม้ว่า Spy x Family จะเป็นการ์ตูนที่มีโทนออกไปในเชิงคอมเมดี้ แต่ทว่าในฉากหลังของเนื้อเรื่องกลับถูกตั้งอยู่ในช่วงเวลาอันตึงเครียดทางการเมือง และแฝงด้วยความอันตรายของสงครามเย็นในเยอรมนี เรามาดูกันดีกว่าว่าทำไม Spy X Family ถึงให้ฉากหลังของเรื่องราวตั้งอยู่ในเยอรมนีช่วงสงครามเย็นกันนะ

ต้องบอกก่อนว่า Spy x Family ไม่ได้ให้เรื่องราวเกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริงเหมือนกับพวกการ์ตูนกีฬา แต่มันก็ไม่ใช่อาณาจักรแฟนตาซีที่แปลกใหม่เหมือนอย่างในอนิเมะแนวต่างโลก ซึ่งการแต่งแต้มเบื้องหลังของ Spy x Family ด้วยส่วนผสมของโลกแห่งความจริงนี้ ทำให้ผู้แต่งอย่าง ทัตสึยะ เอ็นโดะ (Tatsuya Endo) สามารถผสมประวัติศาสตร์ที่เราคุ้นเคยกับเรื่องแต่ง มาใช้เป็นไอเดียในการสร้างเรื่องราวได้อย่างดี โดยการหยิบแฟนตาซีมาไว้บนโลกจริง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ทั่วไปที่การ์ตูนโชเน็นต่างใช้กัน

อาจารย์เอ็นโดะได้ใส่บริบทที่น่าสนใจสำหรับสงครามเย็นที่เขาสร้างขึ้น โดยฉากหลังของเรื่องราวใน Spy x Family เกี่ยวข้องกับความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศเพื่อนบ้านสองประเทศคือเวสทาลิส และออสตาเนีย

แม้ว่าในทางเทคนิคแล้ว ทั้งเวสทาลิสกับออสตาเนียก็ไม่ได้ระบุว่าตัวเองว่าเป็นเยอรมนีโดยตรง ทว่าในเนื้อเรื่องกลับมีสิ่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเยอรมนีในช่วงสงครามเย็นอยู่เต็มไปหมด ซึ่งสิ่งที่ชี้ชัดประการแรกคือเวสทาลิสและออสตาเนียถูกวางในช่วงเวลาเดียวกับตอนที่ที่เยอรมนีถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเทศ

ตามประวัติศาสตร์จริง ในช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น ในตอนที่นาซีเยอรมนีพ่ายแพ้สงคราม สิ่งนี้ได้นำไปสู่การแยกเยอรมนีออกเป็น 2 ประเทศคือ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนี โดยสหพันธ์สาธารณรัฐ (เยอรมนีตะวันตก) อยู่ภายใต้การบริหารของสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส ทว่าสาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนี (เยอรมนีตะวันออก) กลับดำเนินการโดยสหภาพโซเวียต ในฐานะส่วนหนึ่งของคอมมิวนิสต์กลุ่มตะวันออก

เมื่อมาดูที่บริบทของเวสทาลิสกับออสตาเนียแล้ว เราจะเห็นได้ว่าเวสทาลิส สื่อถึงการเป็นเมืองที่อยู่ฝั่งตะวันตก (เพราะมีคำว่า Wes แปลว่าตะวันตก) และออสตาเนียสื่อถึงการเป็นประเทศที่อยู่ฝั่งตะวันออก (คำว่า Ost. ใน Ostania เป็นภาษาเยอรมันที่แปลว่าตะวันออก) 

ไม่เพียงแค่นี้ อีกสิ่งที่ชี้ชัดคือลักษณะหลายอย่างของออสตาเนียนั้น สอดคล้องกับเยอรมนีตะวันออกในขณะนั้น อาทิ การที่การ์ตูนใช้เครื่องแบบที่มีความคล้ายคลึงของเยอรมนีตะวันออก และชื่ออย่างเป็นทางการของประเทศที่อยู่ในกลุ่มออสตาเนีย ก็มีความคล้ายคลึงกับรัฐคอมมิวนิสต์หลายแห่ง

ดังที่เราใน Spy x Family ความตึงเครียดระหว่างเวสทาลิสกับออสตาเนียนั้นมีอยู่สูงมาก เนื่องจากเป็นช่วงคุกรุ่นระหว่างสงคราม ทำให้ทั้งสองประเทศ ต่างพยายามดำเนินปฏิบัติการลับเพื่อพยายามก่อสถานการณ์ที่ไม่มั่นคงภายในขึ้นมา

ตัวเอกอย่าง ลอยด์ ฟอร์เจอร์ เป็นสายลับที่ทำงานในออสตาเนียให้กับ WISE กลุ่มข่าวกรองของเวสทาลิส โดยมุ่งมั่นที่จะรักษาสันติภาพอันเปราะบางระหว่างทั้งสองประเทศ ในขณะเดียวกันภรรยาของเขาอย่างยอร์ ฟอร์เจอร์ ก็ทำงานให้กับกลุ่มลอบสังหารที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลเงาของออสตาเนีย นั่นทำให้ตัวตนของลอยด์กับยอร์ไม่เพียงแต่เป็นความลับจากกันเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว พวกเขาอยู่คนละฝั่งกันในสถานการณ์สำคัญระดับนานาชาติ

การนำกรุงเบอร์ลินมาใช้ใน Spy x Family
เบอร์ลินสมมติที่ตั้งอยู่ในออสตาเนีย

เนื้อหาของ Spy x Family มากมายนั้นเกิดขึ้นในเมืองเบอร์ลิน ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศออสตาเนีย แน่นอนว่าเมืองนี้ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกรุงเบอร์ลิน ที่เป็นเมืองหลวงของเยอรมนีอีกที

ในช่วงสงครามเย็นเบอร์ลินถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน โดยมีกำแพงเบอร์ลินอันโด่งดัง ที่แบ่งเยอรมนีตะวันออกกับตะวันตกให้แยกจากกัน สำหรับหลาย ๆ คนแล้ว เบอร์ลินจึงถูกมองว่าเป็นศูนย์กลางของความตึงเครียดในช่วงสงครามเย็น นั่นทำให้กำแพงเบอร์ลินได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความแตกแยก และเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพเมื่อมันถูกทลายลง

เมื่อมองตามในประวัติศาสตร์จริงแล้ว เพราะผลกระทบจากความตึงเครียดในสงคราม ทำให้เบอร์ลินตะวันออกไม่ใช่สถานที่ที่น่าอยู่เสมอไป ดังนั้นแล้ว Spy x Family จึงวางเบอร์ลินไว้ในออสตาเนีย ขณะเดียวกันก็ปรับโฉมใหม่ของเมืองให้มีความหรูหรา ซึ่งช่วยให้เรื่องราวของการ์ตูนมีโทนสว่างมากขึ้น โดยให้มีความแตกต่างจากประวัติศาสตร์อันน่าเศร้าในช่วงนั้นไปเลย

กำแพงเบอร์ลิน

อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดเหล่าก็ยังคงมีอยู่ใน Spy x Family โดยปรับโทนไปลงที่ตัวละครแทน เราจะเห็นว่าเพื่อนร่วมงานของยอร์นั้น ได้เตือนเธอไว้ว่าการไม่มีคู่ครองจะส่งผลเสียมากกว่าที่คิด เพราะคนที่ไม่มีคู่ครอง อาจทำให้ถูกสงสัยว่าเป็นสปายหรือภัยคุกคามในเบอร์ลินตะวันออกได้ ซึ่งนำไปสู่การกล่าวหาที่เป็นเท็จมากมาย เพราะผู้คนต้องปิดบังความลับระหว่างกัน

เมื่อสร้างโลกพื้นหลังของการ์ตูนขึ้นมา ผู้เขียนมักมีทางเลือกกว้าง ๆ 3 ทางในตอนที่สร้างโลก 1. คือสร้างโลกแฟนตาซีที่สมมติขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ต้นแบบ Naruto ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับแฟนตาซี และไซไฟ, 2. ให้ตัวละครอยู่ในโลกความจริงที่คนอ่านสามารถเข้าใจได้ อาทิ Kimetsu no Yaiba หรือ Jujutsu Kaisen , และ 3. คือผสานโลกความจริงกับเรื่องแต่ง ด้วยการใช้โลกความจริงเป็นจุดอ้างอิง อย่าง Spy x Family กับ Fullmetal Alchemist ที่ผสมผสานจุดเด่นของทั้งสองโลกเข้าด้วยกัน จนออกมาเป็นประเทศสมมติที่มีพื้นฐานจากประวัติศาสตร์โลก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ผู้ชมรู้สึกอินกับเรื่องราวมากขึ้น แถมคนแต่งยังทำงานได้ง่าย เนื่องจากนำข้อมูลจริง ๆ มาสร้าง

ด้วยวิธีนี้ ผู้แต่งมังงะอย่างทัตสึยะ เอนโดะ จึงสามารถสร้างฉากที่ทำให้คนอ่านรู้สึกคุ้นเคยได้ใน Spy x Family โดยที่ยังมีเสรีภาพในการสร้างสรรค์เพื่อให้เหมาะกับความต้องการของเรื่องราว 

ที่มา: How Cold War Germany Inspired Spy x Family, Spy x Family: 5 Things You Need To Know About Westalis

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส