‘Pet Sematary: Bloodlines’ ทำลายสถิติสตรีมมิงครั้งใหญ่บนช่อง Paramount+ หนังภาคใหม่นี้เป็นภาคต่อจาก ‘Pet Sematary’ เมื่อปี 2019 ซึ่งดัดแปลงมาจากนิยายชื่อเดียวกันมื่อปี 1983 ผลงานประพันธ์ของ สตีเฟน คิง (Stephen King) แต่เนื้อหาในภาคต่อนี้เป็นเรื่องราวก่อนหน้าที่ย้อนไปเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 1969 มีตัวเอกของเรื่องคือเด็กหนุ่มนามว่า จู๊ด แครนดัลล์ เป็นตัวละครที่เคยปรากฎตัวมาแล้วในหนังปี 2019 บทของ จอห์น ลิธโกว์ ส่วนในภาคใหม่นี้รับบทโดย แจ็กสัน ไวต์ (Jackson White)

‘Pet Sematary: Bloodlines’ หลังจากสตรีมมิงทาง Paramount+ ไปเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา หนังก็ได้ทำลายสถิติกลายเป็นภาพยนตร์ต้นฉบับที่มีผู้ชมมากที่สุดในช่วง 30 วันแรกหลังจากเปิดตัว โดยในช่วง 3 สัปดาห์แรก หนังก็ทำลายสถิติ ‘Teen Wolf: The Movie’ที่ครองสถิติมาตั้งแต่เดือนมกราคม ทำให้ ‘Pet Sematary: Bloodlines’ครองแชมป์ภาพยนตร์ที่มียอดผู้ชมสูงสุดบน Paramount+ แม้ว่าตัวหนังจะได้คะแนนจากนักวิจารณ์บนเว็บ Rottentomatoes ไปเพียงแค่ 23% เท่านั้น

ความสำเร็จของ ‘Pet Sematary: Bloodlines’ น่าจะเป็นแนวทางให้ Paramount+ มุ่งหน้าไปทางหนังสยองขวัญนับจากนี้ เพราะที่ผ่านมา Paramount+ ก็ได้ชิมลางไปกับการสร้างหนังของตัวเองหลากหลายประเภททั้งแนว LGBTQ+ ในเรื่อง ‘Three Months’ หรือแอนิเมชัน ‘The SpongeBob Movie: Sponge on the Run’ และ ‘Significant Other’ ที่มาในแนวไซไฟ แต่สุดท้ายแล้ว ทั้ง ‘Teen Wolf: The Movie’ และ ‘Pet Sematary: Bloodlines’ ก็ชี้ชัดแล้วว่า หนังแนวสยองขวัญเป็นแนวที่ประสบความสำเร็จที่สุด

อีกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ ‘Orphan: First Kill’ ที่ทำรายได้ไป 39 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างเพียง 10 ล้านเหรียญ แม้ว่าจะเปิดฉายแบบจำกัดโรงและสตรีมมิงทาง Paramount+ ไปพร้อม ๆ กัน จากความสำเร็จของ ‘Orphan: First Kill’ ก็เป็นไปได้ว่า ‘Pet Sematary: Bloodlines’ อาจจะมีการนำออกฉายตามโรงภาพยนตร์เร็ว ๆ นี้ แต่ที่แน่ ๆ คือ Paramount+ น่าจะต้องสร้างหนังสยองขวัญเพิ่มขึ้นอีกหลายเรื่อง เพราะทาง Paramount ก็มีหนังสยองขวัญของตัวเองอยู่ในมือหลายเรื่อง เอาแค่เส้นเรื่องของ ‘Petsemetary’ เองนั้น ก็เปิดช่องให้ขยายเนื้อหาออกไปได้มากมาย รวมไปถึง ‘Orphan’ และแฟรนไชส์ ‘Paranormal Activity’ ส่วนแฟน ๆ หนังสยองขวัญบ้านเราก็ได้แค่อ่านข่าวตาปริบ ๆ เพราะ Paramount+ ไม่เปิดบริการในบ้านเรา ทั้ง ‘Orphan: First Kill’ และ ‘Pet Sematary: Bloodlines’ ก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้ดูกันผ่านช่องทางไหนได้เลย

ที่มา : screenrant