ไมเคิล บี.จอร์แดน (Michael B. Jordan) กำลังจะกลับขึ้นสู่สังเวียนผ้าใบและนั่งเก้าอี้ผู้กำกับอีกครั้ง ในเรื่องราวตอนใหม่ของ ‘Creed’ ที่อยู่ในขั้นกำลังพัฒนา ตลอด 3 ภาคที่ผ่านมานั้น จอร์แดน รับบทนำเป็น อะโดนิส ครีด และในภาคที่ 3 เขาก็ขอชิมลางด้วยการควบหน้าที่ผู้กำกับ ซึ่งผลงานของเขาได้รับเสียงตอบรับในทางที่ดี ได้คะแนนจากนักวิจาร์บนเว็บ Rotentomatoes ไปที่ 88% เป็นรองแค่ภาคแรก ‘Creed’ (2015) ที่ได้ไป 95% ทำให้จอร์แดนได้รับการยอมรับและได้กลับมารับหน้าที่กำกับเป็นครั้งที่ 2

ไมเคิล บี.จอร์แดน ขณะทำหน้าที่ผู้กำกับใน ‘Creed III’

ย้อนไปเมื่อปี 1976 ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน (Sylvester Stallone) ได้สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับโลกภาพยนตร์ด้วยการให้กำเนิด ‘Rocky’ หนังที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะกลายเป็นแฟรนไชส์ทีได้รับความนิยมมากที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ฮอลลีวูด ‘Rocky’ สานภาคต่อมาได้ถึงภาคที่ 5 ภาคสุดท้ายออกในชื่อ ‘Rocky Balboa’ เมื่อปี 2006 ซึ่งในวันนั้นก็ดูเหมือนว่าจะเป็นภาคปิดตำนานนักชกผู้นี้ไปเสียแล้ว แต่แล้วในปี 2015 สตอลโลนก็กลับมาในบท ร็อกกี้ บัลโบ อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาพ่วง ไมเคิล บี.จอร์แดน มาด้วย เพื่อสานต่อตำนานเรื่องนี้ ‘Creed’ในฐานะลูกชายของ อะพอลโดล ครีด อีกหนึ่งตัวละครสำคัญในแฟรนไชส์ ผู้เป็นทั้งอดีตคู่ชกและเพื่อนสนิทของร็อกกี้ ‘Creed’ ประสบความสำเร็จดังคาดหมาย หนังได้รับความนิยมจากผู้ชมเช่นดียวกับ ‘Rocky’ หนังได้สานต่อมาอีก 2 ภาค โดยที่ภาคล่าสุด ‘Creed III’ เมื่อต้นปี 2023 ก็ประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ หนังทำรายได้ทั่วโลกไปถึง 275 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่ 75 ล้านเหรียญ ทำให้แฟน ๆ เริ่มคาดเดากันต่อไปว่าจะได้ดู ‘Creed IV’ กันหรือไม่

แล้วความสงสัยก็สิ้นสุดลงในงาน ‘Deadline’s Contenders Film: Los Angeles’ เมื่อ เออร์วิน วิงค์เลอร์ (Irwin Winkler) ผู้อำนวยการสร้างของแฟรนไชส์ ยืนยันว่าโปรเจกต์ ‘Creed IV’ เดินหน้าแล้ว อยู่ในช่วงกำลังพัฒนา และ ไมเคิล บี.จอร์แดน จะกลับมารับหน้าที่กำกับเช่นเดิม
“เรากำลังวางแผนที่จะสร้าง ‘Creed IV’ กันในขณะนี้ เรามีเนื้อหาที่ดีจริง ๆ และพล็อตเรื่องที่ดีมาก ๆ แต่การทำงานของเราล่าช้าออกไปนิดหน่อยสืบเนื่องจากเหตุการณ์สไตรค์ แต่หนึ่งปีจากนี้ไป เราก็จะเข้าสู่ขั้นตอนเตรียมการสร้างแล้ว แล้วจอร์แดนก็จะรับหน้าที่ต่อไป เขาทำผลงานได้ดีมาก เขาดูสบาย ๆ ในการทำงานกับกล้อง”

ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ก็นับได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของ ‘Creed’ ใน 2 ภาคแรก บทบาทร็อกกี้ของเขานั้น ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาที่ยอดเยี่ยมของอะโดนิส และช่วยให้เขาเตรียมพร้อมสำหรับการขึ้นชก แต่เมื่อมาถึงภาคที่ 3 สไลก็หายไปจากหน้าจอ แต่ยังคงสถานะผู้อำนวยการสร้างร่วมอยู่ เนื่องมาจากความขัดแย้งระหว่างเขากับ เออร์วิน วิงค์เลอร์ เมื่อปีที่แล้ว สตอลโลนได้โพสต์ข้อความที่ยาวเหยียดและรุนแรงบนอินสตาแกรมของเขา ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับวิงค์เลอร์และครอบครัวอย่างมาก ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ Rocky ทั้งหมด แม้ว่าสตอลโลนจะเป็นคนสร้างตัวละครและตำนานทั้งหมดของเขาก็ตาม

เออร์วิน วิงค์เลอร์ และ ซิลเวสเตอร์ สตอลโดลน สมัยทำ ‘Rocky’ ภาคแรกด้วยกัน

แต่ถึงแม้ว่าภาคล่าสุดจะไม่มีตัวละครร็อกกี้ แต่เสียงตอบรับจากผู้ชมส่วนใหญ่ก็มองว่าเป็นทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่ดีสำหรับแฟรนไชส์ ‘Creed’เพราะจากนี้ไปเท่ากับ นี่คือเส้นทางการผจญภัยของตัว อะโดนิส ครีด เองแล้ว และเรื่องราวเนื้อหาของ ‘Creed III’ ก็นำเสนอได้ชัดเจนว่าจากนี้ไปทุกอย่างเป็นเรื่องราวของตัวละคร อะโดนิส ครีด คนเดียวเท่านั้น ‘Creed III’ พาเราย้อนไปสำรวจชีวิตในวัยเด็กของอะโดนิส และแนะนำให้เรารู้จักกับ เดเมียน แอนเดอร์สัน บทบาทของ โจนาธาน เมเจอร์ส์ (Jonathan Majors) เพื่อนสนิทในสมัยวัยรุ่นของอะโดนิส ที่เคยมีอดีตอันโชกโชนมาด้วยกัน

เป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาได้ว่า สตอลโลนจะกลับมาปรากฎตัวใน ‘Creed IV’ หรือไม่ เพราะเขาและวิงค์เลอร์ยังคงบาดหมางกันอยู่ แต่ถึงอย่างนั้น ‘Creed III’ ก็ทำหน้าที่เป็นบทพิสูจน์ได้ชัดเจนแล้วว่า ไมเคิล บี.จอร์แดน สามารถผลักดันให้ตัวละคร อะโดนิส ของเขาสามารถเดินหน้าไปอย่างลำพังได้ เป็นเรื่องยากที่จะทราบว่าสตอลโลนจะกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในภาคที่สี่หรือไม่ เพราะแน่นอนว่ามันขึ้นอยู่กับความขัดแย้งระหว่างนักแสดงกับวิงเคลอร์ที่กำลังได้รับการแก้ไข แต่ Creed III ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าตัวละครของจอร์แดนได้รับการยอมรับว่าสามารถดำเนินแฟรนไชส์นี้เพียงลำพังได้

ที่มา : movieweb