Facebook เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 2004 และได้รับความนิยมอย่างก้าวกระโดด ในปี 2008 มีจำนวนผู้ลงทะเบียนสมัครใช้ Facebook เกิน 100 ล้านยูสเซอร์ ทำให้ชื่อของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ในฐานะผู้ก่อตั้งกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

เมื่อมีผู้สนใจมากขึ้น ในปี 2010 ทางโคลัมเบีย พิกเจอร์ จึงตัดสินใจสร้างหนัง ‘The Social Network’ ออกมา ได้ เดวิด ฟินเชอร์ (David Fincher) ผู้กำกับระดับแถวหน้าของฮอลลีวูดมารับหน้าที่ และได้ เจสซี ไอเซนเบิร์ก (Jesse Eisenberg) นักแสดงหนุ่มฝีมือดี มารับบทเป็น มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก

เรื่องราวของ ‘The Social Network’ ดัดแปลงมาจากหนังสือ ‘The Accidental Billionaires’ ตีพิมพ์เมื่อปี 2009 โดยที่เจ้าตัว มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก และ พนักงาน Facebook ต่างก็ยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนร่วมในการให้คำปรึกษาตลอดการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เลย

เนื้อเรื่องย่อใน IMDB เขียนไว้ว่า “ในขณะที่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ได้สร้างเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์กที่รู้จักกันในชื่อ Facebook ขึ้นมา เขาก็ถูกฟ้องโดยฝาแฝดหนุ่มที่อ้างว่ามาร์กขโมยไอเดียของพวกเขาไป และต่อมาเขาก็โดนผู้ร่วมก่อตั้งบีบให้ออกจากบริษัท”

แล้วเรื่องราวของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ที่ถ่ายทอดมาในหนังนั้น ถูกต้องตามความเป็นจริงหรือไม่ ? ก็ต้องย้อนไปถามเจ้าตัวซักเคอร์เบิร์ก ว่าหลังจากที่เขาได้ดูหนังแล้วเขาคิดเห็นอย่างไรกับตัวตนของเขาบนจอภาพยนตร์
ในช่วงที่หนังออกฉายเมื่อปี 2010 นั้น มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ได้ให้สัมภาษณ์กับ Business Insider เขาบอกว่า เรื่องที่หนังถ่ายทอดมาได้ถูกต้องที่สุดก็คือสไตล์การแต่งตัวของเขา

“มันน่าสนใจนะกับเรื่องที่เขามุ่งมั่นตั้งใจจะทำให้มันออกมาถูกต้อง”
“เชิ้ตและแจ็กเก็ตขนแกะทุกตัวที่เห็นในหนังนั่นมันเหมือนกับเชิ้ตและแจ็กเก็ตขนแกะที่ผมมีอยู่จริงเลย”

ซักเคอร์เบิร์กยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า “มันมีรายละเอียดแบบสุ่ม ๆ อีกมากที่หนังทำออกมาได้ถูกต้อง แต่ก็มีอีกหลายจุดที่ผิดพลาด”
และจุดที่ซักเคอร์เบิร์กชี้ว่าผิดพลาดก็คือ “จุดที่น่าสนใจที่สุดก็คือ พวกเขาเข้าใจผิดในประเด็นสำคัญ ตั้งแต่จุดที่หนังเริ่มเรื่องแล้ว ผมอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งไม่มีตัวตนจริง ผู้หญิงคนนี้ทิ้งผม ซึ่งในชีวิตจริงน่ะมีหลายคนเลยล่ะ แล้วมันดันกลายเป็นพื้นฐานของเรื่องราวทั้งหมดว่า นั่นเป็นเหตุผลหลักที่ผมสร้างเฟซบุ๊กขึ้นมาเพราะผมต้องการได้แอ้มสาว หรืออยากจะได้เข้าสังคม”

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ซักเคอร์เบิร์กคบกับแฟนคนเดิมมาตั้งแต่เขาเริ่มก่อตั้งเฟซบุ๊กแล้ว แม้ว่าหนัง ‘The Social Network’ จะมีรายละเอียดบางส่วนที่ถูกต้องตามความเป็นจริง แต่ก็มีหลายส่วนที่ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว

แม้หนังจะเล่าเรื่องไม่ตรงตามความเป็นจริง แต่ อารอน ซอร์กิน ก็คว้าออสการ์

อารอน ซอร์กิน (Aaron Sorkin) ผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ เคยให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้กับ New Yorker ไว้ว่า
“ผมไม่ได้ต้องการเล่าเรื่องอย่างซื่อสัตย์กับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ผมต้องการให้มันเป็นการเล่าเรื่องราวเรื่องหนึ่ง”

แต่ในที่สุดแล้ว อารอน ซอร์กิน ก็คว้ารางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมจากเรื่องนี้

ที่มา : Unilad