ข่าวล่าสุดจากแหล่งข่าววงในเผยว่า ยูนิเวอร์แซลหั่นทุนสร้างของ ‘Fast & Furious 11’ ลง และจะเป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของ วิน ดีเซล (Vin Diesel) ในแฟรนไชส์นี้ ที่น่าเซอร์ไพรส์ไปกว่านั้นก็คือ เจสัน โมมัว (Jason Momoa) จะไม่กลับมารับบท ดังเต เรเยส วายร้ายตัวเอ้ในภาคต่อ

‘Fast & Furious 11’ อาจจะเป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของ วิน ดีเซล ในแฟรนไชส์ ‘Fast and Furious’ ที่เดินทางมายาวนานกว่า 20 ปี ยังมีข่าวลืออีกด้วยว่า เจสัน โมมัว วายร้ายประจำภาค ‘Fast X’ จะไม่กลับมารับบทเดิมในภาคต่อนี้ ทำให้แฟน ๆ ตั้งข้อสังสัยกันมากมาย เพราะหนังภาคล่าสุดจบแบบทิ้งเรื่องราวไว้ค้างคาและทีมผู้สร้างจะสานต่อเรื่องราวจากฉากจบนี้ไปอย่างไร

ตามแผนการเดิมนั้น ‘Fast X’ จะถูกแบ่งย่อยออกเป็น 3 ภาค เพื่อเป็นการปิดแฟรนไชส์ ‘Fast and Furious’ อย่างยิ่งใหญ่ให้สมศักดิ์ศรี แต่แล้วรายได้ของ ‘Fast X’ กลับไม่น่าพอใจ หนังทำรายได้ทั่วโลกไปที่ 714 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่ระเบิดระเบ้อไปถึง 340 ล้านเหรียญ ทางยูนิเวอร์แซลจึงตัดสินใจใหม่ ให้ ‘Fast & Furious 11’ เป็นหนังปิดฉากแฟรนไชส์นี้

เจฟฟ์ สไนเดอร์ (Jeff Sneider) เผยข่าวนี้ผ่านทาง เว็บไซต์ theinsneider ว่ายูนิเวอร์แซลหั่นทุนสร้าง ‘Fast & Furious 11’ เหลือที่ 200 ล้านเหรียญถ้วน และภาคนี้จะเป็นการ “กลับไปสู่รากเหง้าเดิม ๆ” ของแฟรนไชส์ ซึ่งจะมีทั้งเรื่องราวการปล้นครั้งใหญ่ และการแข่งบนถนน สไนเดอร์รายงานอีกว่า ภาคนี้จะเป็นการปรากฎตัวครั้งสุดท้ายของ วิน ดีเซล ในบทบาท โดมินิค โทเร็ตโต บทดั้งเดิมของเขาตั้งแต่ ‘Fast and Furious’ ภาคแรกเมื่อปี 2001 รวมไปถึงการปรากฎตัวรับเชิญใน ‘Furious: Tokyo Drift'(2006) ในขณะนี้ต้องถือว่า ข่าวดังกล่าวนี้ ยังคงสถานะเป็น “ข่าวลือ” จนกว่าจะมีการยืนยันเป็นทางการจาก ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ หรือผู้กำกับ หลุยส์ เลเทอร์เรียร์ (Louis Leterrier)

เจฟฟ์ สไนเดอร์ ยังเผยอีกว่า ยูนิเวอร์แซลอาจจะไม่เอา เจสัน โมมัว กลับมารับบบท ดังเต เรเยส ในภาคนี้ แต่จะเลือกวายร้ายตัวใหม่ให้กับดอม ข่าวนี้สร้างความฉงนให้กับแฟน ๆ อย่างมาก ว่าถ้ามาทางนี้แล้ว ผู้สร้างจะดำเนินที่จบแบบค้างคาต่อไปโดยที่ไม่มีเรเยสกลับมา

ย้อนไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 หลังจากที่ ‘Fast X’ เปิดตัวได้ไม่ถึง 1 เดือน วิน ดีเซล โพสต์ภาพบนอิสตาแกรมของเขา เป็นภาพตัวเขากับ เจสัน โมมัว พร้อมกับข้อความว่า ‘Fast & Furious 11’ จะมีกำหนดฉายในเดือนเมษายน 2025 แล้วยังกล่าวขอบคุณ เจสัน โมมัว ที่ฝากการแสดงอันโดดเด่นและขโมยซีนได้

เดือนถัดมา มิถุนายน 2023 ยูนิเวอร์แซลประกาศอย่างเป็นทางการว่า ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) จะกลับมารับบท ลุค ฮอบส์ ในหนังภาคแยก ทำให้มีการแก้ไขฉากจบของ ‘Fast X’ หลังจากที่ ดเวย์น จอห์นสัน กลับมาสมานฉันท์กับ วิน ดีเซล อีกครั้ง และกลับมาปรากฎตัวในฉากหลังเอนด์เครดิตของ ‘Fast X’ และหนังภาคแยกในชื่อ ‘Fast & Furious Presents: Hobbs & Reyes’ ก็จะออกฉายก่อน ‘Fast & Furious 11’ เพื่อทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมเรื่องราวระหว่าง Fast 10 และ Fast 11 ซึ่งดีเซลจะทำหน้าที่อำนวยการสร้างร่วม แต่จะไม่มาปรากฎตัวในหนังภาคแยกนี้

ก็ติดตามกันต่อไปว่า ข่าวทั้งหมดนี้จะเป็นจริงมากน้อยเพียงไร แต่อย่างไรก็ตาม ในฐานะคนดู เราก็จะยังได้ดูหนังในแฟรนไชส์นี้อย่างน้อยอีก 2 เรื่อง ก็จะปิดตำนานอย่างเป็นทางการ

ที่มา : Movieweb