TheWrap รายงานว่า Warner Bros. Discovery มีแผนจะนำภาพยนตร์ผสานแอนิเมชัน เรื่อง ‘Coyote vs. Acme’ เก็บขึ้นหิ้งอย่างถาวร ซึ่งจะเป็นการปิดโอกาสที่ผู้ชมจะได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ จากเดิมที่สตูดิโอมีแผนจะขายสิทธิ์การฉายให้แก่ผู้ที่สนใจด้วยมูลค่า 75 – 80 ล้านเหรียญ แต่การเจรจานั้นได้เกิดความล้มเหลว

รายงานดังกล่าวระบุว่า เดวิด ซาสลาฟ (David Zaslav) ซีอีโอของ Warner Bros. Discovery ไม่เคยแสดงความสนใจแม้แต่จะดู ‘Coyote vs. Acme’ แบบเต็ม ๆ เลยสักครั้ง ในขณะที่ แพม แอบดี (Pam Abdy) และ ไมเคิล เดลูก้า (Michael DeLuca) ประธานร่วมของ Warner Bros. Motion Picture Group ได้ชมภาพยนตร์เวอร์ชันผู้กำกับตัดต่อแล้ว

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า สตูดิโอยักษ์ใหญ่อย่าง Paramount ได้แสดงความสนใจจะซื้อสิทธิ์การฉายหลังจากได้ชมภาพยนตร์รอบทดสอบแล้ว และเชื่อว่าจะส่งภาพยนตร์เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ด้วย แต่ Warner Bros. Discovery นั้น ไม่ต้องการปรับลดราคาแต่อย่างใด

Coyote Vs. Acme

‘Coyote vs. Acme’ เป็นภาพยนตร์ผสานแอนิเมชันที่อ้างอิงจากแฟนไชส์ Looney Tunes ว่าด้วยเรื่องราวของ Wile E. Coyote ที่ต้องการฟ้องร้อง Acme จากการผลิตสินค้าด้อยคุณภาพจนทำให้ไม่สามารถไล่จับ Road Runner ได้ทัน โดยตัวภาพยนตร์ได้ถูก Warner Bros. ยกเลิกไปเพื่อแก้ปัญหาหนี้สูญเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านมา แม้ว่าจะถ่ายทำเสร็จแล้วก็ตาม โดยในตอนนี้สตูดิโอมีแผนจะขายสิทธิ์การฉายให้แก่ผู้ให้บริการสตรีมมิงที่สนใจ

เดิมที ‘Coyote vs. Acme’ มีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2023 ก่อนที่จะถูกเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนดเพื่อหลีกทางให้แก่ ‘Barbie’

‘Coyote vs. Acme’ เป็นหนึ่งในหลายโปรเจกต์ที่ Warner Bros. Discovery ได้สั่งยกเลิก รวมถึง ‘Batgirl’ และ ‘Scoob! Holiday Haunt’ ที่ถูกยกเลิกไปเมื่อปี 2022 ทั้งที่ถ่ายทำเกือบเสร็จสมบูรณ์ เพื่อแก้ปัญหาหนี้สูญของบริษัทด้วยเช่นกัน

ที่มา : ScreenRant

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส