เท็ด ซาแรนดอส (Ted Sarandos) ผู้ดำรงตำแหน่งซีอีโอของ Netflix ได้ให้สัมภาษณ์กับ Times โดยเขาได้กล่าวถึงมุมมองของ เกรต้า เกอร์วิค (Greta Gerwig) ผู้กำกับหญิงมาแรงจาก ‘Barbie’ (2023) และ ‘Little Women’ (2019) ในการสร้างภาพยนตร์ในแฟรนไชส์ ‘The Chronicles of Narnia’ ของ Netflix

เขาได้ชื่นชมว่าเกอร์วิคนั้น “มีวิสัยทัศน์อย่างน่าเหลือเชื่อ” และภาพยนตร์ในแฟนไชส์นี้จะ “ยิ่งใหญ่และโดเด่นมากขึ้น” กว่าที่ผู้ชมเคยจินตนาการไว้ โดยจะมีความใกล้เคียงกับนิยายชุดต้นฉบับของ ซี. เอส. ลิวอิส (C.S. Lewis) และเป็นการวางรากฐานต่อแฟรนไชน์นี้ด้วยความศรัทธา

“ผมจะไม่คิดจะโต้แย้งต่อสิ่งที่ผู้ชมจินตนาการถึงโลกเหล่านั้นของ ‘Narnia’ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีความยิ่งใหญ่และโดดเด่นมากขึ้นกว่าที่พวกเขาคิด”

ทางได้เกอร์วิคได้อธิบายว่ากำลังวางโครงเรื่องให้เป็นไปตามธีมของเรื่องราวโลกแห่งความฝันอย่างที่นิยายต้นฉบับได้บรรยายไว้

“มันเชื่อมโยงเรื่องราวเทพนิยายและนิทานพื้นบ้านของอังกฤษเอาไว้ และผสมผสานประเพณีต่าง ๆ เอาไว้ด้วยกัน หากเป็นเด็ก คุณจะยอมรับโลกของ ‘Narnia’ ที่มีสัตว์ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ฉันสนใจอย่างมากในประเด็นความย้อนแย้งในโลกที่ลิวอิสสร้างขึ้น”

Narnia

เกอร์วิคสร้างชื่อจากการกำกับภาพยนตร์อิสระที่ได้รับคำชื่นชมสูงอย่าง ‘Lady Bird’ (2017) และเฉิดฉายมาก ๆ กับการร่วมเขียนบทและกำกับ ‘Barbie’ ที่กลายเป็นภาพยนตร์วิพากษ์วิจารณ์จิกกัดสังคมอเมริกันอย่างเจ็บแสบที่สุดในยุคนี้ โดยเธอได้ประกาศว่าจะกำกับภาพยนตร์ 2 เรื่องแรก ในแฟรนไชส์ ‘The Chronicles of Narnia’ ให้แก่ Netflix

เธอได้แสดงให้เห็นทักษะการสร้างพื้นฐานตัวละครที่น่าสนใจในผลงานที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลดีอย่างมากต่อการสร้างพื้นฐานของโลกแห่ง ‘Narnia’ ที่มีตัวละครหลักเป็นเด็กให้มีความจริงจังและจับต้องได้มากขึ้นกว่าเวอร์ชันภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ โดยเธออาจนำเสนอรายละเอียดเชิงลึกของเหล่าเด็ก ๆ ที่เริ่มก้าวย่างสู่ช่วงวัยรุ่นออกมาได้มากขึ้น ดังที่เธอเคยได้อย่างยอดเยี่ยมใน ‘Lady Bird’ และ ‘Little Women’

ที่มา : ScreenRant

***