แม้ว่าจะออกฉายก่อน Mulan ราว 1 สัปดาห์ สำหรับ Tenet หนังไซไฟที่สร้างกระแสทั้งมึนทั้งมันให้กับแฟนหนังแอ็กชันจารกรรมและแฟนคลับของผู้กำกับ Christopher Nolan ซึ่งกับกระแสที่มีก็ทำให้ผู้บริหารค่าย Warner Brothers ออกมาบอกว่า พอใจกับรายได้ที่สูงกว่าที่คาดไว้ และมองว่าหนังจะต้องเก็บรายได้แบบมาราธอนกันยาว ๆ ด้วยเหตุนี้ค่ายจึงขยับวันฉายของ Wonder Woman 1984 ในเดือนตุลาคมออกไปเป็นคริสต์มาส 25 ธันวาคมเพื่อให้ Tenet ยืนโรงทำเงินต่อไปอีก 2 เดือน

แต่พอถึง ณ ตอนนี้ที่หนังฉายมาได้ราว 2 สัปดาห์ สถิติตัวเลขรายรับที่หนังทำได้ก็เริ่มฟ้องว่า ค่ายหนังน่าจะไม่ได้ทุน 200 ล้านเหรียญฯ คืนเสียแล้ว เพราะรายได้ในทวีปอเมริกาเหนือ (สหรัฐฯ และแคนาดา ซึ่งถือเป็นตลาดฉายหนังที่ใหญ่ที่ที่สุดของโลกสูสีกับตลาดในจีน) เพิ่งทำงานไปได้แค่ 29.5 ล้านเหรียญฯ เท่านั้น โดยสุดสัปดาห์ที่สองทำรายได้ไป 6.7 ล้านเหรียยฯ ลดลง 29% จากสุดสัปดาห์แรก

ปัจจุบันโรงหนังในอเมริกายังกลับมาเปิดแค่ 65-75% โรงหนังในเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์ก ลอสแอนเจลลิส และซานฟรานซิสโกยังคงปิดอยู่ ซึ่งก็เป็นไปตามคาดเพราะโรงภาพยนตร์ในเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์กและลอสแอนเจลิสยังไม่กลับมาเปิดทำการ ส่วนรายได้ในตลาดต่างประเทศรวมถึงที่จีนซึ่งหนังไปเปิดตัวแล้ว ก็ทำเงินไปได้แค่ 177.5 ล้านเหรียญฯ เท่านั้นในตอนนี้

ในเหตุการณ์นี้ Warner Brothers ยังวางกลยุทธ์ไม่รายงานตัวเลขรายได้ของ Tenet ในช่วงคืนวันพฤหัสเป็นต้นมาจนถึงสุดสัปดาห์เช่นเดียวกับในยามปกติ แล้วมารายงานตัวเลขในคืนวันอาทิตย์เลย นักวิเคราะห์มองว่า Warner ไม่อยากรายงานรายวันซึ่งทำให้ตัวเลขดูแย่ไปกันใหญ่ และรายงานผลสุดท้ายเลยจะทำให้สถานการณ์ดูไม่เลวร้ายเกินไปนัก รวมถึงสตูดิโอเองก็ชี้แจงว่า ที่ไม่รายงานตัวเลขรายวันเพราะไม่อยากให้สื่อรวมถึงสตูดิโออื่น ๆ ในฮอลลีวูด (ที่เป็นคู่แข่ง) มองตัวเลขของ Tenet เป็นความล้มเหลว

Tenet

แม้ดูเผิน ๆ จะเห็นว่า รายรับที่หนังทำได้ในขณะนี้จะใกล้ตัวเลขทุนสร้างของหนังที่ 200 ล้านเหรียญฯ เข้าไปทุกที แต่ในความเป็นจริงต้องไม่ลืมว่า รายรับที่หนังทำได้ต้องแบ่งให้กับโรงหนังอีกครั้งนึง นั่นหมายความว่า Tenet ต้องทำรายรับรวมทั่วโลกอยู่ที่ราว 500-550 ล้านเหรียญฯ ถึงจะผ่านจุดคุ้มทุนได้ ซึ่งเมื่อตลาดใหญ่ ๆ เปิดตัวหนังไปหมดแล้ว หนังก็ไม่รู้ว่าจะไปเพิ่มรายได้เป็นกอบเป็นกำระดับ 300 ล้านเหรียญฯ ได้จากที่ไหน?

ส่วนรายได้ของ Tenet ในประเทศไทยตอนนี้ จากการรายงานของชมรมวิจารณ์บันเทิงได้เผยว่า ทำรายได้ไป 46.80 ล้านบาท ตามหลัง Mulan ที่เปิดตัวทีหลังแต่ทำรายได้ไปที่ 51.74 ล้านบาท ซึ่งก็นับว่าไม่เลวร้ายนักในสถานการณ์โควิด-19 แบบนี้ แต่ปกติแล้วหนังฟอร์มยักษ์ก็มีศักยภาพจะทำรายได้ในบ้านเราแตะ 100 ล้านบาทเกือบทุกเรื่อง ส่วนอีกเรื่องที่ก็ทำรายได้ดีในช่วงโควิดก็คือ Peninsula ภาคต่อของ Tran to Busan ที่ทำรายได้ไปแล้ว 52.69 ล้านบาท

Tenet อาจจะทำให้นี่เป็นหนังทุนสูงเรื่องแรกของ Christopher Nolan ที่เจ๊ง หลังจากเขาผลักดันอย่างหนักเพื่อให้ผู้บริหารค่าย Warner Brothers ฉายหนังเพื่อเรียกคนกลับเข้าโรง ต่ออายุผู้ประกอบการโรงหนังที่แทบจะขาดใจตายเพราะมีเงินหมุนไม่พอ ถึงอย่างนั้น Nolan ก็ให้ความมั่นใจกับค่ายว่า หนังของเขาน่าจะทำกำไรหรืออย่างน้อยก็เท่าทุนได้ ซึ่งพอมาถึงจุดนี้ก็เห็นแล้วว่า ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส