ทุกคนคงเคยอ่านตำนานของบริษัท Apple ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 1976 โดยสองผู้ก่อตั้ง สตีฟ จอบส์ (Steve Jobs) และสตีฟ วอซเนียก (Steve Wozniak) แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักชื่อ โรนัลด์ เวย์น (Ronald Wayne) ผู้ร่วมก่อตั้งคนที่ 3 ที่ถอนตัวออกจากบริษัทหลังจากร่วมงานกับจ็อบส์และวอซเนียกได้แค่ 12 วัน พร้อมกับถอนหุ้นออกมาในราคา 800 เหรียญ

“ตอนนั้นผมอายุ 40 และเขาสองคนยังอายุ 20 กว่า ๆ” เวย์นกล่าวถึงจอบส์และวอซเนียกกับเว็บไซต์ Cult of Mac “พวกเขาเก่งมาก เหมือนพายุหมุน แต่เหมือนสิ่งที่พวกเขาคิดมันยากเกินกว่าจะเป็นไปได้ ถ้าผมยังอยู่กับ Apple ป่านนี้ผมคงรวยไปแล้วล่ะ”

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 1 เมษายน 1976 เวย์นเป็นคนพิมพ์ร่างข้อตกลงความรับผิดชอบของแต่ละคน ที่สำคัญเขายังเป็นคนร่างโลโก้แรกของบริษัท Apple อีกด้วย (โลโก้นั้นถูกใช้อยู่ไม่ถึงปีก่อนที่จะถูกเปลี่ยนเป็นโลโก้แบบในปัจจุบัน) ในตอนนั้นทั้งจอบส์และวอซเนียกยังเป็นวัยรุ่นและไม่มีเงินเก็บ เวย์นที่อายุ 40 แล้วจึงเป็นผู้ลงเงินทุน 15,000 เหรียญ เพื่อให้จอบส์สามารถเซ็นสัญญากับร้านคอมพิวเตอร์ The Byte Shop ที่สั่งซื้อคอมพิวเตอร์ถึง 100 เครื่อง แต่ The Byte Shop ยังไม่สามารถจ่ายเงินได้ทั้งหมด

ตามสัญญาที่ร่างไว้ จอบส์และวอซเนียกมีหุ้นเท่ากันคือคนละ 45% ส่วนเวย์นได้หุ้นไป 10% ทว่าเวย์นรู้สึกกังวลว่า Apple จะไม่สามารถคืนทุนได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นบ้านและทรัพย์สินของเขาจะต้องถูกยึด หลังจากร่วมก่อตั้งบริษัทเพียง 12 วัน เวย์นตัดสินใจขอตัดชื่อตัวเองออกจากสัญญา และขายหุ้น 10% ของเขากลับไปจอบส์และวอซเนียกเป็นจำนวนเงิน 800 เหรียญ

ปัจจุบัน มูลค่าของบริษัท Apple พุ่งไปสูงถึง 2 ล้านล้านเหรียญ หากเวย์นยังคงมีชื่อในสัญญาและเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Apple หุ้น 10% ของเขาที่เคยขายคืน 800 เหรียญ จะมีมูลค่าสูงถึง 200,000 ล้านเหรียญในตอนนี้

เวย์นบอกว่าเขาไม่รู้สึกเสียดายที่ตัดสินใจแบบนั้น เพราะเขารู้ดีว่าตัวเขาก็ไม่น่าจะเติบโตที่บริษัท Apple “ผมคงนั่งจมอยู่ในห้องเก็บเอกสาร 20 ปีหลังจากนั้น”

แต่โชคไม่เคยเข้าข้างเวย์น เวย์นเก็บต้นฉบับของสัญญา Apple ในปี 1976 ไว้อยู่นานหลายปี และตัดสินใจขายไปในราคา 500 เหรียญตอนต้นยุค 90s “ผมเก็บสัญญา Apple ไว้ในตู้ เต็มไปด้วยฝุ่นและใยแมงมุม ผมเลยคิดว่า ‘จะเก็บไว้ทำไม’” เวย์นเล่าให้ Cult of Mac ฟัง แต่จากข้อมูลในรายการ ‘The Filthy Rich Guide’ ในปี 2011 บอกว่า สัญญาฉบับนี้ถูกนำไปประมูลขายต่อในราคา 1.59 ล้านเหรียญ!

อ้างอิง
https://rb.gy/gklfvh

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส