หลังจากที่มีกระแสวงไอดอลในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง รายการ ลาสต์ไอดอล ไทยแลนด์ ต้นตำรับจากประเทศญี่ปุ่น จากผู้สร้าง 48Group อันโด่งดัง โดยคุณ Akimoto Yasushi รายการ ลาสต์ไอดอล ไทยแลนด์ ก็กำเนิดเกิดขึ้นในไทย

หลังจากที่ขับเขี้ยวกับผู้ท้าชิงมาต่อเนื่องหลายสัปดาห์ ซึ่งแต่ละคนนั้นล้วนมีเสน่ห์เฉพาะตัว โดยเฉพาะตำแหน่งสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 1 สาวน้อยวัย 14 อย่าง ต้นน้ำ – บัณฑิฏา สันตยารมณ์ต้องปกป้องนั้น เจอแต่ผู้ท้าชิงที่ดีกรีไม่ธรรมดาเลย ล่าสุดผู้ท้าชิงคนที่ 18 ฟ้า – ชุติกาญจน์จูศรีพานิชย์ ก็ดึงดูดใจกรรมการไปเมื่อสัปดาห์ก่อน

สัปดาห์นี้ ต้นน้ำ – บัณฑิฏา ยังคงความเป็นสายซ่า เปิดเวทีด้วยเพลง “จะรักหรือจะร้าย” ของวง “เคลียร์” โชว์ร้องเต้นแบบเต็มที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้ผู้ท้าชิงแม้แต่นิดเดียว และเมื่อถึงเวลาตัดสิน ทางรายการได้กำหนดให้กรรมการที่จับลูกบอลหมายเลข 1 เป็นผู้ชี้ชะตาของ ต้นน้ำและฟ้า ซึ่งหน้าที่ดังกล่าวตกเป็นของ รัฐ แทททู คัลเลอร์ ที่ผ่านมาถึงแม้รัฐจะมาเป็นกรรมการให้กับรายการ “ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์” มาแล้วหลายครั้ง แต่นี่เพิ่งจะเป็นครั้งแรกที่รัฐต้องตัดสินว่าจะให้ใครรอดหรือร่วง งานนี้รัฐตัดสินใจให้สมาชิกชั่วคราวหมายเลข 1 ได้อยู่ในตำแหน่งของเธอต่อไป โดย รัฐ แสดงความเห็นว่า  โชว์ของฟ้าดีมาก มีความสดใส สื่อทางสายตาได้ดี เพียงแต่ว่าต้นน้ำเองก็โชว์แข็งแกร่งจริง  ๆ

ฟ้า – ชุติกาญจน์ เผยว่า “หนูชอบท่าเต้น ท่อนร้อง ชุดและหมวกที่เป็นของเซ็นเตอร์ หนูเลยเลือกที่จะลองท้าดูค่ะ จริง ๆ ก็คิดเอาไว้ว่าถ้าเลือกตำแหน่งอื่นอาจมีโอกาสมากกว่านี้ แต่ใจเราอยากอยู่ตรงนี้ หลังจากศึกษาโชว์ของต้นน้ำ-บัณฑิฏา ก็ไม่เห็นจุดอ่อนของเขาเลย ก็พยายามซ้อมให้หนักขึ้นจนถึงขั้นเสียน้ำตาเลยค่ะ มีทั้งเรื่องการเรียนและการซ้อมที่เราต้องโฟกัส ทำให้รู้สึกเหนื่อยมาก แต่ไม่ถอดใจ เพราะเรามีเป้าหมายที่เราตั้งใจจะไปให้ถึงให้ได้ค่ะ ถึงแม้ครั้งนี้จะต้องแบกรับความผิดหวังเอาไว้ ก็จะมุ่งมั่นที่จะก้าวไปเป็นไอดอลให้ได้ค่ะ”

ด้าน ต้นน้ำ – บัณฑิฏา กล่าวว่า  “หนูคิดเอาไว้ว่าอยู่แล้วว่าต้องโดนสักแมตช์ เพราะหนูเพิ่งแข่งมาแค่ครั้งเดียวเอง หนูก็เตรียมตัวเต็มที่เลยค่ะ ตอนแรกหนูตั้งใจเลือกเพลง “ฝัน หวาน อาย จูบ” แต่พอฝึกไปเรื่อย ๆ ใกล้ถึงโค้งสุดท้าย หนูคิดว่าเอาเพลงสนุกดีกว่า เลยเปลี่ยนเป็นเพลง “จะรักหรือจะร้าย” ค่ะ ถามว่ารู้สึกยังไงกับโชว์ของฟ้า ดีมากเลย เขายิ้มทีหนูเขินเลย เขาน่ารักมาก แต่พอกรรมการ พี่รัฐ แทททู คัลเลอร์ ให้โอกาสหนูได้ยืนอยู่ตรงนี้ต่อ ก็ดีใจค่ะ คิดว่าน่าจะเป็นเพราะความซน ๆ ของหนู และเราไม่เครียดหรือกดดัน พร้อมสู้มาก พี่รัฐอาจสัมผัสถึงความรู้สึกดี ๆ ตรงนั้นได้ เขาเลยอาจชอบตรงนั้นของเราก็ได้ค่ะ”

จากนั้นก็เป็นการปรากฏตัวของผู้ท้าชิงคนที่ 19 พิม – สโรชาสิทธิผลสาวน้อยวัย 20 ปีที่มาพร้อมกับความสูง 171 ซม.  และรอยยิ้มอันแสนอ่อนหวาน สร้างความหวั่นใจให้กับสมาชิกชั่วคราวทั้ง 7 คน ได้แก่ ต้นน้ำ – บัณฑิฏา สันตยารมณ์ ,ม่านมุก – ชดาธาร ด่านกุล,มีมี่ – พิมพ์มาดา ตั้งสี ,รันม่า – แทนทยา ชิชิดะ,ซีโมน-ปุณณาสา ต้นวิชา,เก๋ – พรรณิภา วงษาชัยและไฮเวย์ – ศิรประภา แสงพันตาว่าเธอจะเลือกท้าชิงกับใครและแล้ว พิม – สโรชาก็ชี้เป้าไปที่ตัวแม่อย่าง  ม่านมุก – ชดาธาร สมาชิกชั่วคราวหมายเลข 2 ด้วยสายตาที่มุ่งมั่นและไม่หวั่นเกรงใด ๆ ทั้ง ๆ ที่ตัวเธอเองก็ไม่เคยเรียกร้องเพลงและเต้นมาเลยแม้แต่น้อย

พิม – สโรชา เลือกเพลง “ดาวกระดาษ” ของ ปนัดดา เรืองวุฒิ ซึ่งโชว์เสียงใส ๆ ของเธอได้เป็นอย่างดี แต่แน่นอนว่า ม่านมุก-ชดาธาร เองก็ไม่เคยธรรมดา ร้องเพลง “แสงสุดท้าย “บอดี้สแสลม” ด้วยพลังอันเต็มเปี่ยม แล้วก็ถึงช่วงเวลาที่กรรมการทั้ง 4 คน ได้แก่ โบ ไทรอั้มพ์ คิงดอม,มด-ณปภัช,รัฐ แทททู คัลเลอร์ และ หนึ่ง อีทีซี  ต้องลุ้นระทึกว่าใครจับได้ลูกบอลหมายเลข 2 ที่จะต้องทำหน้าที่ตัดสินอนาคตของเด็กสาวทั้ง 2 คน ซึ่งแจ็คพ็อตตกอยู่ที่ มด ณปภัช  ซึ่งเธอเลือกให้ม่านมุกชนะในศึกครั้งนี้

ม่านมุก เผยว่า “ดีใจและขอบคุณพี่มดที่เลือกหนู สำหรับหนูและน้อง ๆ สมาชิกชั่วคราวผ่านอะไรมาเยอะกว่าจะถึงจุดนี้  ม่านมุกเองต่อสู้มากว่าจะถึงจุดนี้ได้ หนูดีใจและภูมิใจในตัวเองค่ะ จะพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นต่อไป เพื่อให้ทุกคนภูมิใจในตัวหนูค่ะ”

ต่อกันที่ พิม – สโรชา เผยว่า “หลายคนคงสงสัยว่าทำไมหนูไม่เลือกท้าสมาชิกชั่วคราวเบอร์ 6 หรือ 7 หนูคิดว่าถ้าหนูเลือกแข่งกับตำแหน่งเหล่านั้น แล้วแพ้ขึ้นมา ชื่อของหนูอาจจางหายไปเลยก็ได้ แต่ถ้าชนะหนูก็ไม่ได้ไปยืนในมุมที่คนเห็นหนูชัดเจน หนูเลยตัดสินใจท้าพี่ม่านมุก ขอก้าวออกจากเซฟโซน ขอท้าคนที่อยู่สูงกว่า อยากเห็นพี่เขาโชว์สดด้วย ซึ่งพี่เขาโชว์ดีจริง ๆ มีการแปลงเพลงบางท่อนเป็นภาษาญี่ปุ่น เขาเหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากค่ะ ถามว่าเสียใจไหม ก็นิดนึง แต่ก็เป็นการแพ้ที่สมศักดิ์ศรี และพอได้ฟังความเห็นกรรมการอย่างพี่มด-ณปภัช ที่บอกว่าตัดสินยาก หนูก็ดีใจทำให้หนูมีแรงฮึดที่จะเดินในเส้นทางนี้ต่อไปค่ะ”

มด – ณปภัช กรรมการที่รับหน้าที่ตัดสินในแมตช์ที่ 19 กล่าวว่า “แมทช์นี้ยากมาก ก่อนตัดสินใจมานั่งคิดทบทวนว่าเพราะอไรเลือกม่านมุก แต่ไม่ใช่พิมทำไม่ดี ชอบแอดติจูด และเอาแรงผลักดันมาผลักดันตัวเองได้ ไม่อยากให้ใช้คำว่า แพ้ แต่น้องทำได้ดี พยายามพัฒนาตัวเองต่อไป อย่าท้อนะคะ”

ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงในวันอาทิตย์ที่ 26 กันยายนนี้ เวลา 12.30-13.30 น.ทางช่อง 7 HD กับแมตช์สุดท้ายของซีซัน 1 ที่ทุกคนรอคอยว่าใครจะเป็น 7 คนสุดท้ายที่จะได้เป็นสมาชิก “ลาสต์ ไอดอล” ตัวจริง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส