[รีวิว] Chupa : เด็กชายกับสัตว์ลึกลับเรื่องที่ร้อยกว่าของฮอลลีวูด

Release Date

07/04/2023

Rate : PG

1h 35m

Action Adventure Drama

Director : Jonás Cuarón

Writers : Sean Kennedy, MooreJoe Barnathan, Marcus Rinehart

Stars : Demián Bichir, Christian Slater, Evan Whitten

[รีวิว] Chupa : เด็กชายกับสัตว์ลึกลับเรื่องที่ร้อยกว่าของฮอลลีวูด
Our score
6.6

[รีวิว] Chupa : เด็กชายกับสัตว์ลึกลับเรื่องที่ร้อยกว่าของฮอลลีวูด

จุดเด่น

  1. ออกแบบตัวชูปาน้อยได้น่ารัก
  2. พยายามหาความแตกต่างให้กับหนังประเภทนี้
  3. บรรดานักแสดงเด็ก แสดงกันได้ดี แม้จะประสบการณ์น้อย
  4. ไม่ได้ออกแบบตัวชูปาให้ดูเป็นสัตว์ใสซื่อจนเกินไป แต่ยังใส่เขี้ยวเล็บให้ดูมีความดุร้ายเป็นสัตว์ป่า

จุดสังเกต

  1. เวลาที่อเล็กซ์ได้อยู่กับชูปามีน้อยเกินไป ทำให้ความผูกพัน
  2. ไม่เห็นความจำเป็นของเรื่องราวมวยปล้ำ และการวางโครงเรื่องให้เกิดในยุค 90's
  • โปรดักชัน

    6.5

  • บทภาพยนตร์

    6.0

  • นักแสดง

    7.0

  • ความบันเทิงตามแนวหนัง

    6.5

  • คุ้มค่าเวลารับชม

    7.0

หนังในแนว ‘เด็กชายกับสิ่งมีชีวิตลึกลับ’ เป็นอีกแนวที่ฮอลลีวูดนิยมสร้างออกมาเนือง ๆ เรื่องที่ดัง ๆ ก็มี E.T.(1982), The Water Horse (2007), Good Boy! (2003) และล่าสุดกำ Chupa นี่ละ ที่เพิ่งปล่อยสตรีมมิงทาง Netflix หนังเป็นผลงานกำกับของ โยนาส กัวรอน (Jonás Cuarón) ลูกชายของ อัลฟองโซ กัวรอน (Alfonso Cuaron) ผู้กำกับรางวัลออสการ์จาก Roma และ Gravity

ผู้กำกับ โยนาส กัวรอน

ซึ่งทางผู้สร้างก็น่าจะรู้ตัวดีละว่าฮอลลีวูดมีหนังแนวนี้ออกมาเยอะมาก ก็เลยพยายามปรับเปลี่ยนบรรยากาศหนังให้เรื่องราวของ Chupa ไปเกิดในเม็กซิโก ประเทศบ้านเกิดของผู้กำกับเอง โดยเล่าเรื่องราวของ chupacabra สัตว์ในตำนานของชาวเม็กซิกัน ที่เกิดมีตัวตนขึ้นมาจริง ๆ ผ่านตัวละคร ริชาร์ด ควินน์ นักวิจัยค้นคว้าที่รับบทโดย คริสเตียน สเลเตอร์ (Christian Slator) นักแสดงชื่อดังที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของหนังเกรด B ไปแล้วในทุกวันนี้ ควินน์ทำงานให้บริษัทยายักษ์ใหญ่ ที่ต้องการตัว chupacabra ไปทำยามหัศจรรย์ แล้วควินน์ค้นพบ chupacabra แม่ลูกตั้งแต่ 5 นาทีแรกของหนังเลย ก็นับว่าเป็นการเดินเรื่องที่ฉีกจากขนบหนังแนวนี้ ให้เห็นตัวกันชัด ๆ ตั้งแต่ต้นไม่ต้องแอบซ่อนกันนาน ๆ

คริสเตียน สเลเตอร์ รอบนี้มารับบทตัวร้ายของเรื่อง

chupacabra แม่ลูกหนีการตามล่าของควินน์และพรรคพวก ตัวแม่โดนรถชนบาดเจ็บ ไม่สามารถบินหนีได้ เลยเสียสละล่อให้กลุ่มมนุษย์ไล่ตามตัวเอง เพราะหวังว่าลูกน้อยจะปลอดภัยจากการตาล่าของเหล่ามนุษย์ ทำให้ chupacabra ตัวลูก ไปแอบอยู่ในโรงนาของครอบครัวของ ชาวา คุณปู่อดีตนักมวยปล้ำในตำนานที่อยู่กับ ลูนา และ เมโม หลานสาวและหลานชาย ตัวละครหลักของเรื่องคือ อเล็กซ์ หลานชายของชาวาที่บินมาเยี่ยมคุณปู่ในช่วงนั้นพอดี เรื่องราวจากนั้นก็ดำเนินไปตามสูตรที่เดากันได้แล้ว อเล็กซ์ได้พบกับ chupacabra ตัวน้อยแล้วตั้งชื่อมันว่า Chupa ควินน์และพวกตามรอยมาเจอ ครอบครัวชาวาต้องช่วยกันปกป้องชูปาน้อย เกิดฉากแอ็กชันเล็ก ๆ นำไปสู่บทสรุปของเรื่องราว ที่จบในเวลา 95 นาทีพอดิบพอดี

หนังถูกสร้างออกมาอย่างขาวสะอาดมาก ไม่มีภาพรุนแรง ภาษาหยาบคาย จนได้เรต PG แปลว่าไม่จำกัดวัยผู้ชมเลย ดูเจตนาแล้ว ผู้สร้างก็น่าจะมุ่งหวังไปที่กลุ่มผู้ชมรุ่นเล็กนั่นแหละ ที่น่าจะพออกพอใจกับภาพลักษณ์ของเจ้าชูปาน้อย ที่ถูกออกแบบมาได้น่ารักน่าชัง ที่ดึงเอาความน่ารักของลูกหมาลูกแมวมาผสมรวมกัน แล้วใส่ปีกเข้าไปหน่อย ใส่เสียงร้องให้ฟังดูเป็นลูกสัตว์มีความน่าสงสาร อย่าว่าแต่เด็ก ๆ เลย ผู้ใหญ่เองก็สัมผัสได้ถึงความน่ารักของเจ้าชูปาน้อย ในเรื่องภาพลักษ์ของเจ้าชูปานี้ ก็ต้องชื่นชมทีมงานนะครับ ที่ดูมีความตั้งใจลงรายละเอียดให้ชนดูมีความหยาบกระด้างให้สมกับเป็นสัตว์ป่า มีฟันแหลมคมไว้ป้องกันตัว เพราะหนังก็ปูความมาแล้วว่า Chupa ค่อนข้างเป็นสัตว์ที่มีความดุร้าย ฆ่าและดื่มเลือดแพะเป็นอาหาร งบสร้าง 27 ล้าน ก็น่าจะลงไปกับงาน CGI เสียมาก เพราะหนังทั้งเรื่องใช้นักแสดงหลักเพียงแค่ 5 คนเท่านั้น แล้ว 4 คนก็โนเนมล้วน ๆ แล้วตัวชูปาน้อยก็ออกมาค่อนข้างเนียนตา เคลื่อนไหวนุ่มนวล กลมกลืนไปกับนักแสดงและบรรยากาศรอบข้าง ไม่ดูเป็นตัวการ์ตูนจนเกินไปนัก

ด้านนักแสดงเด็กทั้ง 3 ที่รับหน้าที่เป็นตัวละครหลักก็ล้วนทำหน้าที่ได้ดี อีวาน วิธเท็น (Evan Whitten) ผู้รับบท อเล็กซ์ ตัวละครหลักของเรื่อง แม้เราจะไม่คุ้นหน้าคุ้นตา แต่น้องก็ผ่านงานแสดงมาโชกโชน สิบกว่าเรื่องแล้ว นิโคลาส เวอร์ดูโก (Nickolas Verdugo) หนูน้อยร่างตุ้ยนุ้ยที่ขโมยซีนไปได้พอควรทุกครั้งที่ออกมา ก็ผ่านงานแสดงมา 3 เรื่อง ยกเว้นแค่ตัว แอชลีย์ เซียร์รา (Ashley Ciarra) สาวน้อยผู้รับบท ลูนา ที่แสดงเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกก็ให้การแสดงที่ดูราบรื่นดี เดเมียน บิชีร์ (Demián Bichir) นักแสดงรุ่นใหญ่ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันพอควร มารับบทเป็นคุณปู่ชาวา ที่แสดงเรื่องนี้เหมือนงานพักผ่อน เล่นเบา ๆ สนุกกับเด็ก ๆ ไป ส่วน คริสเตียน สเลเตอร์ นั้น แม้จะพลิกบทบาทมาเล่นเป็นตัวร้าย แต่ก็เป็นตัวร้ายในหนังเด็กเรต PG บทก็เลยถูกตีกรอบบังคับไว้ ก็เลยไม่ได้ลงไม้ลงมือกับเด็กหรือตัวชูปาน้อย ให้คนดูต้องสาปส่ง

เรื่องนี้ทีมเขียนบทดูจะเน้นเรื่องความเป็นเม็กซิกันมากเป็นพิเศษ ให้ตัวละครพูดภาษาเม็กซิกัน ร้องเพลงเม็กซิกัน พาเดินตลาดแนะนำอาหารเม็กซิกันต่าง ๆ จนดูแทบจะเป็นหนังโปรโมตการท่องเที่ยวเม็กซิกันไปซะแล้ว อีกจุดหนึ่งที่ดูเน้นมากคือเรื่องอดีตของปู่ชาวาที่เป็นนักมวยปล้ำชื่อดัง และส่งอิทธิพลต่อให้เมโม ที่กลายเป็นเด็กคลั่งกีฬามวยปล้ำไปด้วย แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นประโยชน์จากเรื่องมวยปล้ำนี้ ว่าจะมีผลอะไรกับตัวชูปาน้อยแต่อย่างใด รวมไปถึงการกำหนดให้เหตุการณ์เกินในยุค 90’s ที่สื่อผ่านตัว Gameboy และการแต่งกายในยุคนั้น แต่เกือบทั้งเรื่องเหตุการณ์ก็เกิดในบ้านไร่ ซึ่งไม่ว่าเหตุการณ์จะเกิดในปีไหน ก็แทบจะไม่ส่งผลใด ๆ กับเรื่องราวเลย และโดยรวมที่ตัว Chupa ปรากฏตัวมาในเรื่องแต่ละครั้ง ก็ช่างดูขัดกับการปูความว่านี่คือสัตว์ลึกลับของเม็กซิโกที่ไม่มีใครเคยพบเห็น โห บินกันว่อนขนาดนี้ แต่ไม่มีใครเคยเห็นเนี่ยนะ

หนังค่อนข้างสั้น จบในเวลาเพียงแค่ชั่วโมงครึ่ง แม้ตัวชูปาน้อยจะออกมาตั้งแต่ต้นเรื่อง แต่กว่าที่อเล็กซ์จะได้เจอกับชูปาน้อยก็ผ่านไป 30 นาทีแล้ว หนังยังแบ่งเวลาอีกพอควรไปเล่าความสัมพันธ์ในครอบครัว เวลาที่เราได้เห็นอเล็กซ์อยู่กับชูปาน้อย จึงนับรวมแล้วเหลือแค่ไม่กี่นาที ทำให้อารมณ์ร่วมที่จะอินไปกับความผูกพันของอเล็กซ์และชูปาน้อยก็ลดทอนลงไป ส่งผลกับฉากดราม่าในช่วงท้าย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในฉากบังคับของหนังแนวนี้ที่ต้องมีเลยล่ะ

พูดได้ชัดเจนว่า CHUPA คือหนังที่มุ่งหวังกลุ่มผู้ชมรุ่นเล็ก ถ้าผู้ใหญ่จะเลือกดู หรือจำต้องดูกับลูกหลานก็ต้องทำใจไว้ก่อน ว่านี่คือหนังที่เขาตั้งใจสร้างมาให้เด็กดู เปิดโหมดเด็กแล้วดูไปกับเด็กจะรื่นรมย์ครับ