[รีวิวซีรีส์] สาธุ [Ep.1-4]: วัดครึ่งหนึ่ง กรรมการครึ่งหนึ่ง (ฉบับ Beta) แหกแผลพุทธแบบไทย ๆ ที่แสบใจใครบางคน
Our score
7.9

Release Date

27/03/2024

แนว

ระทึกขวัญ/ดราม่า

ความยาว

1 ซีซัน (9 ตอน)

เรตผู้ชม

16+

ผู้กำกับ

วรรธนพงศ์ วงศ์วรรณ

[รีวิวซีรีส์] สาธุ [Ep.1-4]: วัดครึ่งหนึ่ง กรรมการครึ่งหนึ่ง (ฉบับ Beta) แหกแผลพุทธแบบไทย ๆ ที่แสบใจใครบางคน
Our score
7.9

สาธุ | The Believers

จุดเด่น

  1. ตัวหนังไม่ได้แค่มีเนื้อหาชำแหละพุทธพาณิชย์ แต่ยังชำแหละไปถึงองคาพยพของความเป็นพุทธแบบไทย ๆ ที่ชวนให้ทัวร์ลง+สำนักพุทธฯ หงุดหงิด
  2. ตีแผ่ความเป็นพุทธพาณิชย์ และแสกหน้าวิถีพุทธแบบไทย ๆ ปัญหาและความเสื่อมโทรมของพุทธศาสนาออกมาได้เข้าใจง่ายและเห็นภาพ
  3. การแสดงของนักแสดงเล่นถึง เจมส์+พีช ทำถึง แอลลี่คือความเซอร์ไพรส์ ส่วนน้าติ๊ก กลิ่นสีคือ MVP พระดล เข้าใจเลยว่าทำไมต้องพี่ปั๊บ
  4. เนื้อเรื่องมีความเป็นมีมสูงมาก แคปเจอร์เอาไปเล่นไปแซวได้เพียบ

จุดสังเกต

  1. กลยุทธ์ธุรกิจที่ตัวละครสร้างขึ้นไม่ได้ถือว่าเป็น Business Model หรือนวัตกรรมที่แปลกใหม่หรือชวนว้าวเสียทีเดียวในสายตาชาวพุทธ เป็นสิ่งที่กรรมการวัดทำกันเป็นปกติอยู่แล้ว แอบอยากเห็นนวัตกรรมที่มีความ Startup มากกว่านี้
  2. ในมุมมองของชาวพุทธที่คลุกคลีกับเรื่องนี้อาจไม่รู้สึกแปลกใจกับเรื่องราวเท่าที่ควร
  • คุณภาพด้านการแสดง

    8.5

  • คุณภาพโปรดักชัน

    6.8

  • คุณภาพของบทภาพยนตร์

    8.4

  • ความบันเทิง

    8.0

  • ความคุ้มค่าเวลาในการรับชม

    8.0



เมื่อปีที่แล้ว ถือเป็นปีแรกที่ Netflix ประเทศไทย ได้ฤกษ์เดินหน้าออริจินัลคอนเทนต์ไทย ๆ ภายใต้ไลน์อัปที่ใช้ชื่อว่า ‘ทีไทย ทีมันส์’ ซึ่งปีที่ผ่านมา คอนเทนต์ทั้งหนังและซีรีส์ในไลน์อัปนี้ก็เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น ทั้งในแง่คุณภาพโปรดักชัน บท ความแปลกใหม่ในการนำเสนอความเป็นไทย และมียอดผู้ชมจำนวนมาก

มาถึงปีนี้ ไลน์อัป ‘ทีไทย ทีมันส์’ กลับมาอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเปิดตัวรายชื่คอนเทนต์ในไลน์อัปของปีนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้ก็มาถึงคิวของซีรีส์ ‘สาธุ’ ที่หยิบเอาเรื่องราวของธุรกิจ และพุทธพาณิชย์ในศาสนาพุทธมาเล่า และได้ วรรธนพงศ์ วงศ์วรรณ มาทำหน้าที่กำกับครั้งแรกครับ

The Believers 2024 Courtesy of NETFLIX

เรื่องราวของ ‘สาธุ’ เล่าเรื่องของ 3 เพื่อนสนิท วิน (ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ) เด็กหนุ่มที่เรียนไม่จบด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เกม (พชร จิราธิวัฒน์) วัยรุ่นบ้านรวยผู้เป็นนายทุนคนสำคัญ และ เดียร์ (อชิรญา นิติพน) ดีไซเนอร์สาวมากฝีมือผู้เชี่ยวชาญการทำกราฟิกและออแกไนซ์ ที่ได้จับมือร่วมกันทำธุรกิจสตาร์ตอัปเกม DeFi แต่ธุรกิจของพวกเขากลับล้มละลายจนกลายเป็นหนี้มหาศาล

พวกเขาจึงจับช่องว่างทางธุรกิจ ด้วยการเข้าไปรีโนเวตและรีแบรนด์วัดภุมราม วัดบ้านที่เคยรกร้าง ให้กลายเป็นแหล่งทำเงินจากความศรัทธา โดยมีน้าแต๋ง (ชาญณรงค์ ขันทีท้าว) มรรคนายกเก่าแก่ของวัดเป็นที่ปรึกษา, พระดล (พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข) พระสงฆ์สายวัดป่าที่ต้องรับหน้าที่เป็น KOL ของวัด รวมทั้งพระเอกชัย (เผ่าเพชร เจริญสุข) พระเลขาคนสนิทของเจ้าอาวาส วิน เกม และเดียร์ต้องดำเนินธุรกิจเพื่อหาทางปลดหนี้จำนวนมหาศาล ก่อนจะถูกเพ่งเล็งว่ากำลังหากินกับศาสนา

The Believers 2024 Courtesy of NETFLIX

ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือตั้งใจนะครับ ที่ทีมงาน Netflix ดันมาเลือกปล่อยซีรีส์ตอนช่วงนี้ เพราะจะว่าไป ช่วงมีนาคม-เมษายนคือช่วงที่หลาย ๆ วัด (โดยเฉพาะวัดตามต่างจังหวัด) มักจะมีการจัดงานประจำปี ซึ่งถ้าพูดกันแบบตรง ๆ ก็คือนี่คือฤดูกาลแห่งพุทธพาณิชย์ประจำปีเลยก็ว่าได้ เพราะปกติวัดต่าง ๆ ก็พยายามสรรหาวิธีให้ผู้มีจิตศรัทธาเข้ามาทำบุญด้วยวิธีการต่าง ๆ (ตั้งแต่ปกติไปจนถึงพิสดาร) อยู่แล้ว และแน่นอน ทองคำเปลว 1 แผ่น ซองผ้าป่า 1 ซอง พระเครื่อง 1 องค์ พื้นที่ขายของตลาดนัด/งานประจำปี เวทีรำวง ชิงช้าสวรรค์ และหนังกลางแปลง ล้วนแต่เป็นเงินเป็นทองทั้งนั้นแหละ กลุ่มบุคคลที่เรียกว่า ‘คณะกรรมการวัด’ เพื่อจัดการเงิน ๆ ทอง ๆ ของวัดแทนพระสงฆ์ (ที่มองว่าผิดวินัยสงฆ์) จึงไม่ใช่เรื่องที่ลับแลหรือห่างไกลไปจากสายตาของคนไทย เหมือนที่ ยอดรัก สลักใจ เคยขับร้องเพลง “แบ่งคนละครึ่ง” ที่มีเนื้อเพลง “ครึ่งหนึ่ง ครึ่งหนึ่ง วัดครึ่งหนึ่งกรรมการครึ่งหนึ่ง…” วิจารณ์เอาไว้แบบแสบ ๆ คัน ๆ มานานแล้ว

คนไทยมีเรื่องนี้แทรกซึมในสายเลือดครับ แต่บางทีเราก็แกล้งหลับตาข้างเดียวแล้วหย่อนธนบัตรลงกล่องเพื่อหวังจะได้บุญและความสบายอกสบายใจต่าง ๆ นานา ในขณะที่สารคดี ‘เอหิปัสสิโก’ (2564) เองก็เคยสะท้อนเรื่องนี้ผ่านวัดพระธรรมกายไว้แล้วบางส่วน (เพียงแต่อันนั้นจะดูพุทธพาณิชย์แบบ Extreme สุดทางมาก) โจทย์ของ ‘สาธุ’ จึงไม่ง่ายเลยที่จะเล่าเรื่องพุทธพาณิชย์ออกมาให้ไม่ซีเรียส แต่ยังพอเข้าใจระบบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ออกมามีทั้งการรื้อสร้างมโนทัศน์เกี่ยวกับภาพที่คนส่วนใหญ่มองศาสนาพุทธ แต่ก็ทำให้ออกมาบันเทิงได้โดยที่ต้องพยายามไม่ให้ทัวร์ลง หรือถูกมองว่าเป็นการโจมตีศาสนาพุทธด้วย โจทย์นำของ ‘สาธุ’ ที่ต้องการตีแผ่ความเป็นพุทธพาณิชย์นั้นก็ถือว่าเป็นอะไรที่ไม่ง่ายเลย

The Believers 2024 Courtesy of NETFLIX

สิ่งที่ซึรีส์เรื่องนี้ทำได้อย่างเฉียบคมจากการชม 4 ตอนแรก (จากทั้งหมด 9 ตอน) ก็คือ การเอากลไกของพุทธพาณิชย์ที่จริง ๆ แล้วมีความซับซ้อนอยู่ระดับหนึ่ง มีคน (และพระ) เข้าไปโยงใยอยู่ในนั้นเป็นจำนวนมากได้ออกมาค่อนข้างดูง่าย แน่นอนว่าการกระทำของวัยรุ่นทั้ง 3 คนอาจจะไม่ได้ครบถ้วนกระบวนความในแง่ของการเป็นคณะกรรมการวัดได้เท่ากับที่คณะกรรมการวัดจริง ๆ เขาทำกัน เพราะจริง ๆ แล้วคณะกรรมการวัดส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่กว้างขวางภายในชุมชนรอบวัดนั่นแหละ แล้วก็มักจะมีการดูแลกันเป็นกลุ่มเฉพาะ (มีพรรคพวก) โดยที่ไม่ได้มีระบบธุรกิจมารองรับ พอไม่มีรองรับ การทำระบบบัญชี ภาษี เงินหล่นเงินทอนต่าง ๆ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่ใครจะล่วงรู้ที่มาที่ไป การจะมานั่งเพ่งเล็งว่าเงินของเรามันไหลไปไหนกันแน่ ก็ดูจะเป็นการทำลายเจตนาอยากทำบุญให้กับวัดตามจิตศรัทธาไปอีก การหลับตาข้างเดียวแล้วหยอดตู้บริจาคให้จบ ๆ จึงง่ายและอิ่มบุญกว่ามาก

ถ้าถามว่าสิ่งที่ วิน เกม และเดียร์ ทำใน ‘สาธุ’ หรือสิ่งที่ผู้กำกับทำการบ้านมานานกว่า 5 ปีเป็นของใหม่ไหม ก็ต้องใช้คำว่าไม่เชิงล่ะครับ แต่สิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้ทำได้อย่างน่าสนใจก็คือ การจับเอาของที่ไม่ใหม่มานำเสนอด้วยวิธีการที่สดใหม่ โดยเฉพาะการจับเอากลิ่นอายความเป็นหนังธุรกิจมาเสนอ ตัวหนังจึงค่อนข้างจะนำเสนอเรื่องราวนี้ผ่านเลนส์ของความเป็นธุรกิจ (ผสมหนังอาชญากรรมนิดหน่อย) โดยเฉพาะธุรกิจสตาร์ตอัป ตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์สร้างวัดด้วยหลักการตลาด การทำโซเชียลมีเดียและทำคอนเทนต์ของวัด การเอาดีไซน์มาแก้ปัญหาสิ่งปลูกสร้างวัด หรือที่เรียกว่าคาดไม่ถึง และหนังเรื่องนี้ตีแผ่ได้น่าสนใจก็คือ การใช้การเจรจาและการต่อรองทางธุรกิจมาสร้างความได้เปรียบให้กับวัด หรือแม้แต่การมองหา KOL (Key Opinion Leader) ที่มีภาพลักษณ์ดีมาช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับวัด หรือแม้แต่การโยกเงินวัดไปลงทุนเพื่อสร้างเม็ดเงินเพิ่ม ซึ่งก็นับได้ว่าแปลกใหม่พอสมควร และที่สำคัญคือมันนำเสนอออกมาได้อย่างดูสนุกและมีมุกให้แคปเจอร์เอาไปทำมีมได้เพียบเลยแหละ

The Believers 2024 Courtesy of NETFLIX

สำหรับผู้เขียน สิ่งที่น่าประทับใจมากกว่าการชำแหละระบบพุทธพาณิชย์ผ่าน Business Model ที่ย่อยให้ดูง่ายและน่าติดตาม ก็คงหนีไม่พ้นการชำแหละความเป็น ‘ศาสนาพุทธแบบไทย ๆ ‘ ที่ล้วนแล้วแต่มีความเทา ๆ เต็มไปหมด ซึ่ง ณ จุดนี้ผู้เขียนก็แอบกลัวทัวร์จะลงมาก ๆ เพราะซีรีส์เลือกนำเสนอพุทธศาสนาที่เรียกได้ว่าช็อตฟีลจากความเป็นวัดและพระในอุดมคติ (ของทางการ+ผู้มีจิตศรัทธา) มากพอสมควร

คือถ้าใครที่คิดว่าศาสนาคือยูโทเปียที่เต็มไปด้วยความสงบร่มเย็น ภาพของพระสงฆ์ที่ยึดมั่นในพระธรรมวินัย ดูจบแล้วอาจจะช็อกแตกไปเลยก็ได้ ที่ได้เห็นพระทำอะไรที่ปกติไม่พึงกระทำ ความแตกต่างทางวินัยและ Vibe ของพระวัดบ้านและพระวัดป่า พุทธพาณิชย์ที่มุ่งเน้นการหากินและกอบโกยจากความศรัทธาของคน (ที่บางทีก็มีพระเข้าไปร่วมวงด้วย) การหลงไหลรูปลักษณ์น้ำเสียงของพระบางรูปมากกว่าจะมุ่งไปที่ธรรมะ อิทธิพลและเส้นสายภายในองค์กรสงฆ์ การแย่งชิงเจ้าภาพในวัดสายเดียวกันเอง หรือแม้แต่พระบัณเฑาะก์ที่แอบมีนอกมีใน พระที่ขายของผ่านโซเชียลกันโต้ง ๆ ฯลฯ ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่ผู้เขียนทึ่งมากว่า ตัวซีรีส์กล้ามาก แต่ก็แอบเสียวชวนให้ทัวร์ลงเหมือนกันนะครับ

The Believers 2024 Courtesy of NETFLIX

อีกสิ่งที่ผู้เขียนรู้สึกชอบในการนำเสนอก็คือ การนำเสนอเรื่องราวอันแสนจะเปราะบางและย้อนแย้งของศาสนาในบางมุมที่ถ่ายทอดออกมาได้น่าสนใจครับ ตั้งแต่การเล่นกับมุมมองของความย้อนแย้งเกี่ยวกับพุทธพาณิชย์ เพราะปกติการจับต้องหรือใช้จ่ายเงินถือเป็นเรื่องที่ผิดวินัยสงฆ์ พระจึงไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้เท่าไหร่ แม้ว่าจะมีพระเลขาเจ้าระเบียบคอยสอดส่องอยู่ แต่ก็ทำได้แค่ฝากฝังให้ฆราวาส (คณะกรรมการวัด) ไปจัดการแทน หรือมุมมองของศาสนาที่ตัดสินว่าอะไรบาป อะไรไม่บาปด้วยการมองไปที่เจตนา ซึ่งในความเป็นจริง เจตนาเป็นอะไรที่พิสูจน์ได้ยากมาก สิ่งเหล่านี้แหละจึงเป็นช่องว่างทำมาหากินด้วยการเอาเจตนาดีเป็นเกราะกำบัง ซึ่งในหนังไม่ได้เสนอออกมาตรง ๆ แต่ก็แฝงเอาไว้ให้เห็นได้ค่อนข้างชัดเจน

ความน่าสนใจอีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือวิธีการเล่าเรื่องที่มีความเป็นหนังจารกรรมเจือปนอยู่มากพอสมควร โดยเฉพาะการเซ็ตแบ็กกราวน์และคาแรกเตอร์ของตัวละครให้มีความเทา ๆ และจวนเจียนหมิ่นเหม่จะออกนอกลู่นอกทางอยู่ตลอดเวลา จนไม่รู้จะไปจบเรื่องตรงไหน ตั้งแต่วัยรุ่น Tech Nerd ที่มีหัวด้านธุรกิจและการตลาด, วัยรุ่นบ้านรวยที่พยายามใช้เงินแก้ปัญหา, วัยรุ่นสายครีเอทีฟที่พยายามเอาการออกแบบเข้ามาจัดการดูแลวัดบ้าน ๆ

The Believers 2024 Courtesy of NETFLIX

หรือแม้แต่พระดล พระวัดป่าที่ดันมาอยู่ท่ามกลาง Vibe ของพระบ้าน ซึ่งผู้เขียนอยากให้จับตาเป็นพิเศษเลยครับ เพราะดันเป็นตัวละครที่มีความหมิ่นเหม่มาก ๆ ซะด้วยสิ และถ้าดูไปก็จะเข้าใจเลยว่าทำไมต้องเป็นพี่ปั๊บ เพราะคาแรกเตอร์พระดลเป็นอะไรที่เหมาะกับพี่เขามาก ๆ อีกตัวละครที่ผู้เขียนชอบมากคือ น้าติ๊ก กลิ่นสี และน้องแอลลี่ ที่แอบเซอร์ไพรส์ในการแสดงมาก ๆ อยู่เหมือนกัน และมุกของทั้งคู่นี่ก็แคปเจอร์เอาไปทำมีมได้เลย

จริง ๆ แอบเสียดายนิด ๆ ที่ตัวหนังยังไม่ได้เสนออีกประเด็นที่ถือว่าเป็นแก่นอีกอย่างของความเป็นศาสนาพุทธแบบไทย ๆ ก็คือ ความเป็น ‘พุทธ พราหมณ์ ผี’ (ตามที่ อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ เคยนิยามเอาไว้) ซึ่งเอาจริง ๆ ถ้าตัวบทลงลึกและกล้าหยิบประเด็นนี้เอามาเล่นได้อย่างจริงจังกว่านี้ ก็เรียกได้ว่าจะเป็นการเล่นที่เรียกว่าไปเบอร์แรงแบบเผ็ด x2 แน่นอน เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า ศาสนาพุทธแบบไทย ๆ มันคือความกลมกลืนจนแยกไม่ออกระหว่างความเป็นพุทธศาสนา พิธีการทางพราหมณ์ และความเชื่อที่เกี่ยวเนื่องกับผี ซึ่งมันก็จะไปสุดทางมาก ๆ แต่ก็อาจจะบันเทิงน้อยหน่อย (และเรียกทัวร์มาลงได้ง่ายกว่าเดิมอีก) การละประเด็นนี้ไปของซีรีส์จึงไม่ใช่ความผิดบาปร้ายแรงนัก

The Believers 2024 Courtesy of NETFLIX

แม้สิ่งที่เกิดขึ้นใน ‘สาธุ’ จะไม่ได้ถึงขั้นสดใหม่เป็นนวัตกรรม แต่อย่างน้อย ๆ นี่คือหนังที่วาดภาพพุทธศาสนาแบบไทย ๆ ออกมาได้สนุก ตื่นเต้นตามสไตล์หนังธุรกิจ/จารกรรม และสะท้อนความเป็นพุทธแบบไทย ๆ ได้แสบใจใครบางคนมากที่สุดครั้งหนึ่งแล้วล่ะ คือถ้าในที่สุดทัวร์จะไม่ลงก็ถือว่าดีที่สุดแล้วล่ะนะครับ แต่ถ้าทัวร์ลงจริง ๆ ก็น่าสนใจว่าประเด็นไหนในซีรีส์ที่จะเชื้อเชิญรถทัวร์ให้มาจอดแวะได้ก่อนกัน ระหว่างคนที่เชื่อว่าศาสนาพุทธคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ควรไปแตะต้องหรือฟื้นฝอยหาตะเข็บโดยไม่มีเหตุอันควร บรรดาท่าน ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในวงการพุทธศาสนาของไทย หรือใครก็ตามที่มองว่าซีรีส์เรื่องนี้กำลังเซาะกร่อนบ่อนทำลายศาสนาพุทธอันดีงาม

แต่ถ้าคุณเปิดใจกว้าง ๆ และดูซีรีส์เรื่องนี้ก็จะพบเลยว่า นี่คือการรื้อความเป็นพุทธแบบไทย ๆ ตั้งแต่ความเป็น ‘วัดครึ่งหนึ่ง กรรมการครึ่งหนึ่ง’ และความอาบัติของพระสงฆ์ออกมาให้ได้เห็นกันแบบชัด ๆ กันไปเลย ซึ่งผู้เขียนมองว่าซีรีส์เรื่องนี้คงไม่ได้บ่อนทำลายอะไรหรอก แต่มุมมองที่มีต่อศาสนาไทย ๆ จะเปลี่ยนไปสิ้นเชิงแน่ ๆ และแน่นอนว่า ครั้งต่อไปที่คุณหยอดเงินทำบุญใส่ตู้ ความคิดในหัวของคุณ (และผู้เขียน) อาจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปก็ได้นะ


The Believers 2024 Courtesy of NETFLIX