[รีวิว] ไรเดอร์ : คนสู้ผีแสนเชย ครึ่งแรกเกรียน ครึ่งหลังกาว แต่ยังดูเอาเพลินได้
Our score
6.6

Release Date

10/12/2024

แนว

ตลก/สยองขวัญ

ความยาว

1.45 ช.ม. (105 นาที)

เรตผู้ชม

15+

ผู้กำกับ

นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ

[รีวิว] ไรเดอร์ : คนสู้ผีแสนเชย ครึ่งแรกเกรียน ครึ่งหลังกาว แต่ยังดูเอาเพลินได้
Our score
6.6

ไรเดอร์ | Rider

จุดเด่น

  1. เนื้อเรื่องดูง่ายเดาง่าย ดูได้เพลิน ไม่ซับซ้อน
  2. งานโปรดักชันถือว่าทำได้ถึง ไม่มีจุดที่เอ๊ะมากนัก
  3. เคมีนักแสดง มาริโอ้-ฟรีน น่ารัก แม้ฟรีนจะยังไม่ค่อยโดดเด่นนัก ส่วนฝั่งตลก เซียนหรั่ง-ดีเจอาร์ต น่าสนใจ

จุดสังเกต

  1. ตรรกะและการกระทำของนักแสดงหลายจุดดูแปลก ๆ ขัดกับความเป็นจริง
  2. ไวยากรณ์หนังที่ไม่แย่ แต่ไม่ค่อยเข้ากับยุคสมัย เสื้อผ้าหน้าผม พรอปแปลก ๆ ทำให้ภาพรวมหนังดูเชยกว่ายุคสมัย
  3. ถ้ามองเป็นหนังเดี่ยว ๆ เป็นหนังที่อยู่ในระดับที่ดูเพลิน ๆ ได้ แต่ถ้ามองเป็นการต่อยอดจากหนังสั้นยังทำได้ไม่ค่อยถูกรสมากนัก
  • คุณภาพด้านการแสดง

    6.7

  • คุณภาพโปรดักชัน

    7.0

  • คุณภาพของบทภาพยนตร์

    6.3

  • ความบันเทิง

    6.6

  • ความคุ้มค่าเวลาในการรับชม

    6.2


Major Cineplex logo
สนับสนุนโดย Major Cineplex

ว่ากันว่า คนขับรถส่งของ หรือที่เรียกกันว่าไรเดอร์ มักจะเป็นอาชีพที่มีโอกาสได้เจอผีบ่อย ๆ และด้วยไอเดียนี้ ในที่สุดก็กลายมาเป็นหนังตลกผีไทยเรื่องล่าสุด ‘ไรเดอร์’ ผลงานการกำกับและเขียนบทร่วมของ กังฟู นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ ผู้กำกับและเขียนบทเจ้าของผลงานในวงการบันเทิงมากมายหลายแขนง ไล่ไปตั้งแต่หนัง ‘กะปิ ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว’ (2553) และ ‘ตีสาม Aftershock’ ตอน กอง-ผี-ปีศาจ (TV Direct) (2561) รวมทั้งกำกับละคร ซีรีส์ รวมทั้งมิวสิกวิดีโออีกนับไม่ถ้วน ซึ่งคราวนี้เขานำเรื่องราวของพี่ ๆ ไรเดอร์ รวมทั้งไอเดียตั้งต้นจาก ‘เทอมสอง สยองขวัญ’ ตอน ‘ตึกวิทย์เก่า’ (2565) หนัง Anthology ของค่ายเดียวกันมาต่อยอดเป็นหนังยาว

‘ไรเดอร์’ เล่าเรื่องราวของแก๊งไรเดอร์เพื่อนซี้ที่ประกอบไปด้วย นัท (มาริโอ้ เมาเร่อ) ไรเดอร์หนุ่มหล่อผู้มีความสามารถในการเห็นผี, น้าไก่ (ภูวเนตร สีชมภู) ไรเดอร์นักไลฟ์ผจญภัยตามสถานที่รกร้าง และ เสือยอด (มารุต ชื่นชมบูรณ์) ไรเดอร์สายมูผู้อาวุโสสุดในกลุ่ม นอกจากทั้ง 3 คนจะมีอาชีพเป็นไรเดอร์สารพัดส่งแล้ว พวกเขายังมีงานอดิเรกรับออร์เดอร์พิเศษให้ไปส่งตามหมุดโลเคชันเฮี้ยน ๆ อยู่เสมอ จนกระทั่งนัทได้รู้จักกับ พาย (สโรชา จันทร์กิมฮะ) สาวเจ้าของร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือ แต่ยังไม่ทันได้อินเลิฟ พายกลับหายตัวไปอย่างลึกลับ ทำให้ 3 ไรเดอร์ต้องออกตามหา และร่วมต่อกรกับบรรดาผี ๆ

RIDER 2024 SAHAMONGKOLFILM INTERNATIONAL

จริงอยู่ที่ไอเดียตั้งต้นของหนังเรื่องนี้คือ ตอน ‘ตึกวิทย์เก่า’ ตอนสุดท้ายของหนัง ‘เทอมสองฯ’ ที่กาว ๆ หน่อย และมีพี่กิต Three Man Down รับบทเป็นไรเดอร์กวน ๆ คนนั้นแหละ แต่สิ่งที่เชื่อมโยงกันของทั้ง 2 เรื่องไม่มีอะไรเกินไปกว่าพล็อตไรเดอร์เจอผี ที่ถูกเอามาขยายต่อในยุคที่อาชีพไรเดอร์กำลังเฟื่องฟูเฉย ๆ นะครับ มีจุดเชื่อมโยงถึงอาชีพไรเดอร์อยู่บ้าง เช่นจังหวะการแย่งกันกดงานในแอปฯ หรือการสื่อสารกับผีด้วย GPS และผ่านโทรศัพท์ที่ดูร่วมสมัยขึ้นมาอีกนิดหน่อย ซึ่งจริง ๆ ถ้าหนังแอบใส่ Insight หรือปูมหลังที่เกี่ยวกับอาชีพนี้เพิ่มอีกสักหน่อยก็จะน่าสนใจขึ้น มากกว่าเป็นแค่แก๊งคนอาชีพเดียวกันที่รวมตัวกันไปเจอผียามว่างงานเฉย ๆ

จะว่าไป ‘ไรเดอร์’ เป็นหนังที่ยอมรับว่ามีองค์ประกอบหลายอย่าง รวมทั้งวัตถุดิบสูตรสำเร็จที่ค่อนข้างดีเลยแหละ ไม่ว่าจะเป็นทีมนักแสดงสายฮาที่ฝีมือไม่ธรรมดา แม้ว่าเพิ่งจะมาร่วมงานกันครั้งแรก มุกตลก รวมทั้งพล็อตหนังที่ถ้าดูแค่ในตัวอย่าง จะรู้สึกเหมือนเป็นหนังผจญภัยล่าท้าผี หรือเป็นหนังผีที่สร้างจากเทรนด์รายการเล่าเรื่องผีที่ฮิตในยุคนี้เฉย ๆ แต่พอดูไปถึงจุดหนึ่งก็จะพอรู้ว่ามันมีอะไรที่เกินไปจากหน้าหนังอยู่พอสมควร

RIDER 2024 SAHAMONGKOLFILM INTERNATIONAL

อันที่ผู้เขียนชอบคือไอเดียการเล่าภาพเพื่อสื่อสารวิชวลของ ‘คนเห็นผี แต่ผีไม่เห็นคน’ ที่เล่นและขยี้ได้สนุกดี ชอบตรงไอเดียของการให้คนสามารถแฝงตัวไปอยู่กับผีได้โดยไม่จำเป็นต้องให้ผีมาเจอก่อน กับองก์ที่ 2 เป็นต้นไปที่ขับเคลื่อนด้วยพล็อตแนวสืบสวนสอบสวน มีพาร์ตดราม่าที่ดาร์กนิดหน่อย ผสานพล็อตไสยศาสตร์แฟนตาซี ที่มี Jump Scare นิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ถึงกับโฉ่งฉ่าง ทำให้ครึ่งหลังของหนังมันออกมากาวแบบไม่อะไรกับใครเลย แต่ก็นับว่าเป็นความกาวที่ดูได้เพลิน ๆ อยู่

ข้อสังเกตอย่างแรกที่จี้ใจผู้เขียนตั้งแต่เปิดเรื่องก็คือ วิชวลและไวยากรณ์แนวถนัดของผู้กำกับครับ คือแน่นอนว่าของแบบนี้ไม่มีถูกผิด แต่การนำเสนอวิชวลผ่านสไตล์ของผู้กำกับ ไม่ว่าจะการใส่คลิปกราฟิกดุ๊กดิ๊ก ใส่ Voiceover เพื่อเล่าเรื่อง หรือการประดิษฐ์พร็อปหรือคอสตูมประหลาดเวอร์ ๆ ที่หวังผลเพื่อความฮา รวมทั้งการการใช้ Transition มุมกล้อง ทางมุกทางพล็อตแบบสูตรสำเร็จหนังผี การวางไดอะล็อกล้น ๆ ที่ดูไม่เข้าปากนักแสดง ฯลฯ ที่มักจะได้เห็นในหนังไทยยุคทศวรรษก่อนหน้า พอมันมาอยู่ใน พ.ศ. นี้ มันก็เลยกลายเป็นความ ‘เชยสะบัด’ ที่โดดเด้งอย่างเห็นได้ชัด (ว่าไม่มีใครใช้กันแล้ว)

RIDER 2024 SAHAMONGKOLFILM INTERNATIONAL

แต่แม้จะมีองค์ประกอบที่ค่อนข้างครบ สิ่งที่เป็นปัญหาก็คงหนีไม่พ้นบทที่ขับเคลื่อนตัวหนังไปด้วยความขาด ๆ เกิน ๆ ครับ ในขณะที่ตัวหนังค่อย ๆ เผยอความล้น ความแฟนตาซี ความมุก 5 บาท 10 บาท ทีเล่นทีจริงออกมาให้คนดูเห็น ตัวหนังก็ยังขาดในหลาย ๆ องค์ประกอบไปอย่างน่าเสียดายเหมือนกัน ไม่ว่าจะเรื่องของตรรกะเหตุผล หรือที่มาที่ไปของสิ่งที่ปรากฏอยู่ในหนัง รวมถึงการกระทำของตัวละครที่หลายครั้งก็ดูงง ๆ ในขณะที่การตัดต่อแบบ Jump Cut ตัดกระโดดเนื้อหาในซีนไปมา ก็มีส่วนทำให้ตัวหนังสร้างความขาดเกินด้านอารมณ์จนกลายเป็นช่องโหว่ของตัวหนังอยู่มากพอสมควร

อีกจุดที่ขาดไปอย่างน่าเสียดายก็คือพาร์ตดราม่า ที่จริง ๆ แล้วจะเล่าให้ดาร์กแบบชนิดชอร์ตฟีลหนัง หักมุมจากกาวไปดาร์กเลยก็ยังได้ หรือลงลึกให้น่าสนใจกว่านี้อีกสักเล็กน้อยก็ยังพอได้ แต่น่าเสียดายตรงที่ตัวหนังกลับจับประเด็นได้แต่เพียงบาง ๆ และตกม้าตายกับตรรกะการกระทำของตัวละครที่ไม่สมเหตุสมผล (อีกแล้ว) ก็เลยทำให้ตัวหนังมันออกทรงทีเล่นทีจริง ดูเหมือนจะกาวแต่ก็จริงจัง ดูเหมือนจะจริงจังแต่ก็ไม่เอาเหตุเอาผล ไม่เอาแก่นแกนอะไรเลยอีก และมันก็ถีบคนดูออกห่างจากพาร์ตดราม่าที่น่าจะต้องชวนให้รู้สึกสงสารตัวละครจับใจ กับพาร์ตโรแมนติกที่หวานซึ้ง กลายเป็นหนังไรเดอร์ไล่จับผีที่อยากใส่อะไรก็ใส่ อยากทำอะไรก็ทำ ภายใต้การผสมองค์ประกอบโดยรวมที่ทำออกมาได้ไม่กลมกล่อมนัก

RIDER 2024 SAHAMONGKOLFILM INTERNATIONAL

อย่างหนึ่งที่ต้องชมก็คือบรรดานักแสดง ที่แม้มุกตลกที่แม้จะโดนเส้นบ้าง ไม่โดนเส้นบ้าง แต่นักแสดงและคาแรกเตอร์ก็ยังช่วยค้ำให้หนังออกมาสนุกได้ ตั้งแต่ดีเจอาร์ต ที่เหมือนเป็น Sidekick ด้านไสยศาสตร์ของมาริโอ้แบบกลาย ๆ ส่วนเซียนหรั่งก็รับหน้าที่เป็นตัวโดน ต่างคนต่างขโมยซีนด้วยมุกจังหวะนรกไม่ดูสี่ดูแปดได้สนุกสนานดีทีเดียว ในขณะที่ฝั่งของมาริโอ้และฟรีนก็มีเคมีโรแมนติกที่น่ารักดี แม้จะมีไม่เยอะเท่าไหร่ และแอบเสียดายที่หนังไม่ได้มีฉากให้ฟรีนปรากฏตัวมากเท่าที่ควร อีกเรื่องคือมุกในหนังถือว่าค่อนข้างคลีนเลยนะครับ คือเรียกว่ายังบันเทิงได้โดยไม่ต้องพึ่งพาคำหยาบคาย ยัดเยียดมุกเหยียดหรือมุกดาร์ก ๆ เพื่อหวังจะล่อฮาแรง ๆ อันนี้น่าชื่นชมครับ

คือถ้ามองหนังเรื่องนี้ในฐานะหนัง Standalone ก็นับว่าเป็นหนังที่มีองค์ประกอบที่ค่อนข้างดีตามมาตรฐานของหนังไทย แม้อะไรต่าง ๆ มันจะดูเชยไปสักหน่อย แต่ก็ยังเป็นหนังที่สามารถชวนเพื่อน ชวนครอบครัวไปดูแบบเพลิน ๆ ได้ เป็นหนังที่สนุกด้วยความเกรียนและเคมีการแสดงของเหล่านักแสดง มีพาร์ตกาว ๆ ที่เชยแต่ก็ยังดูสนุก พาร์ตโรแมนติกที่แม้จะน้อยไปหน่อยแต่ก็น่ารักดี มีพาร์ตดราม่าที่บางเบาแต่ก็ยังถือว่าไม่ย่ำแย่ แต่ถ้ามองในแง่ประสิทธิภาพของการเป็นหนังที่ต่อยอดมาจากตอนสุดท้ายของ ‘เทอมสองฯ’ ก็ยังมีหลายองค์ประกอบที่น่าเสียดายในความกลมกล่อมเข้าที่เข้าทางของตัวหนังที่ยังขาด ๆ เกิน ๆ จนบางทีก็เผลออดคิดไม่ได้ว่า หรือคำตอบที่แท้จริงของการสร้างจักรวาลจะอยู่ใน Easter Egg ท้ายเรื่อง ?


RIDER 2024 SAHAMONGKOLFILM INTERNATIONAL