[รีวิว] Kingdom of the Planet of the Apes – พิภพวานรฉบับบางเบา แต่พอเอาสาระได้

Release Date

09/05/2024

ความยาวหนัง

145 นาที

แนวหนัง

ผจญภัย แฟนตาซี

ผู้กำกับ

เวส บอล (Wes Ball)

ผลงานผู้กำกับที่ผ่านมา

ไตรภาค The Maze Runners

นักแสดง

เฟรยา อัลลัน (Freya Allan/The Witchers) โอเวน ทีค (Owen Teague/IT ทั้ง 2 ภาค) เควิน ดูแรนด์ (Kevin Durand/Abigail)

[รีวิว] Kingdom of the Planet of the Apes – พิภพวานรฉบับบางเบา แต่พอเอาสาระได้
Our score
7.4

[รีวิว] Kingdom of the Planet of the Apes – พิภพวานรฉบับบางเบา แต่พอเอาสาระได้

พิภพวานรฉบับบางเบาแต่พอเอาสาระได้

ปัญหาสำคัญของหนังก็กลับมาวนเป็นงูกินหางเพราะในขณะที่เรื่องราว 80% ของมันเป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างวานรคือกลุ่มของพร็อกซิมัส ที่เป็นผู้ร้ายหลักของหนังกับ โนอา พระเอกในภาคนี้ แต่ทั้งสองตัวละครกลับไม่ค่อยมีพัฒนาการอะไรเท่าไหร่ ในกรณีของพร็อกซิมัส เป็นตัวร้ายแบน ๆ โหด ๆ ยังพอเข้าใจได้ แต่ โนอา ที่ตัวหนังจะต้องปูพื้นทั้งพื้นฐานครอบครัวหรือหน้าที่ในฐานะผู้นำเผ่า และอาจจะพอพูดได้ว่าจะต้องเป็นตัวละครนำของแฟรนไชส์พิภพวานรต่อจาก ซีซาร์ แต่เรื่องราวในส่วนนี้กลับหายไปเพื่อจะได้ใส่ฉากแอ็กชั่นโชว์วิช่วลเอฟเฟกต์และความตูมตามเข้ามาแทนเพื่อเอาใจคนดูยุคใหม่ที่ไม่ชอบหนังคุยกันเยอะ แต่ถึงจะมีปัญหาด้านพัฒนาการตัวละครไปบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับก็คือประเด็นหลักที่หนังต้องการพูดถึงของหนังในชุดพิภพวานรก็ยังเป็นการสะท้อนโลกแห่งความจริงที่ความขัดแย้งใหม่ ๆ มักเกิดขึ้นได้เสมอ ในขณะเดียวกันหนังยังแอบแฝงเรื่องพลังของ "การสื่อสาร" อีกด้วย

จุดเด่น

  1. ยังคงสานต่อการใช้การเมืองเป็นตัวจุดประเด็นใหม่ ๆ ในเรื่องราวได้ดี
  2. เฟรยา อัลเลน มีเสน่ห์พอให้ผู้ชมอยากติดตามเรื่องราวของเธอไปได้ทั้งเรื่อง
  3. มีการแฝงเรื่องอำนาจในการสื่อสาร และจุดที่จะเชื่อมกับหนังปี 1968 ได้อย่างดี

จุดสังเกต

  1. พัฒนาการตัวละคร วานร ทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คาแรกเตอร์แบนเกินไปเมื่อเทียบกับไตรภาคที่แล้ว
  2. มีการละทิ้งบางปมบางประเด็นทั้งที่ปูมาแล้วไปอย่างน่าเสียดาย
  3. เสียดายเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนของโนอาและเพื่อนวานรอีก 2 ตัวที่ถูกทิ้งไปกลางทาง ซึ่งสามารถพัฒนาไปได้ทั้งการสร้างครอบครัวใหม่หรือการสร้างชุมชนวานรขึ้นใหม่ได้
  • โปรดักชัน

    9.5

  • บทภาพยนตร์

    7.0

  • การแสดง

    6.5

  • ความบันเทิง

    7.0

  • ความคุ้มค่าในการรับชม

    7.0

ทิ้งห่างมา 7 ปีสำหรับภาพยนตร์ชุด ‘พิภพวานร’ หลังจากการเข้าฉายของ ‘War for the Planet of the Apes’ ในปี 2017 และหากนับจากหนังภาคแรกที่ออกฉายในปี 1968 ก็จะทำให้การเข้าฉายของ ‘Kingdom of the Planet of the Apes’ กลายเป็นภาคที่ฉลองครบรอบ 56 ปีของแฟรนไชส์ภาพยนตร์ไซไฟ ดราม่าอิงการเมืองเรื่องนี้พอดี ลำพังเหตุการณ์ในหนังเองก็ดุเดือดเลือดพล่านไม่น้อยอยู่แล้ว นอกจอในงานฉายรอบกาล่าเองก็มีดราม่าเรื่องมุกคุกคามทางเพศที่กำลังเกิดวิวาทะในสื่อโซเชียลมีเดียที่เดือดไม่แพ้กัน

Major Cineplex logo
สนับสนุนโดย Major Cineplex

มาว่ากันที่เรื่องราวในหนังจะพาผู้ชมข้ามเวลาไป 300 ปี หลังการระบาดของเชื้อไวรัสซีเมียนที่ทำให้มนุษย์พูดไม่ได้ และเหล่าวานรพัฒนาตัวเองให้ฉลาดขึ้น และเริ่มรวมกลุ่มเป็นเผ่าต่าง ๆ โดยในหนังจะพาเราไปรู้จักกับตัวละครเผ่าอินทรีที่วานรในเผ่าจะเลี้ยงนกอินทรี และสามารถสั่งการพวกมันได้ โดยมีตัวละครสำคัญคือวานรชื่อ โนอา (รับบทโดย โอเวน ทีก, Owen Teague) ที่หลังจากต้องสูญเสียพ่อและเผ่าอินทรีของเขาที่ถูกวานรกลุ่มใส่หน้ากากจับตัวไป โนอาจำต้องเดินทางไกลเพื่อภารกิจพาครอบครัวกลับบ้าน โดยระหว่างทางเขาได้พบกับรากา (รับบทโดย ปีเตอร์ มาคอน, Peter Macon) อุรังอุตังเฒ่า ผู้พยายามรวบรวมองค์ความรู้ของซีซาร์ ผู้นำเหล่าวานรในอดีต และเม (รับบทโดย เฟรยา อัลลัน, Freya Allan) มนุษย์หญิงสาว พวกเขาต้องรวมตัวกันต่อกรกับพร็อกซิมัส (รับบทโดย เควิน ดูแรนด์, Kevin Durand) วานรจอมเผด็จการที่หมายทำลายมนุษยชาติ และตั้งตนเป็นเจ้าชีวิตเหล่าวานรทั้งปวง

แม้ในข้อมูลของภาพยนตร์ที่หามาได้จะบอกว่า เวส บอล (Wes Ball) ผู้กำกับหนังชุด ‘The Maze Runner’ เสนอไอเดียว่านี่จะเป็น ‘Apocalypto’ ฉบับวานร แต่พอได้ดูจริง ๆ เราจะพบว่าพล็อตเรื่องรวมถึงฉากเปิดที่เป็นการผจญภัยโชว์วิชวลเอฟเฟกต์นี่แทบจะกลายเป็น ‘Avatar’ ซึ่งภาพยิ่งชัดเมื่อมันเล่าถึงว่าวานรตั้งสังคมของตนเป็นเผ่าต่าง ๆ แถมยังพยายามใส่พิธีกรรมความเชื่อเฉพาะเผ่าเข้ามาด้วย แต่ที่สิ่งที่ ‘Kingdom of the Planet of the Apes’ ทำได้ไม่ถึงทั้งการเป็น ‘Apocalypto’ และ ‘Avatar’ ก็คงหนีไม่พ้นตัวบทภาพยนตร์เอง

โดยเฉพาะเหล่าตัวละครที่เราจะเห็นพัฒนาการได้น้อยมาก การเริ่มเรื่องด้วยการปูให้โนอาปีนหน้าผาได้อย่างเก่งกาจ หรือแม้แต่วานรเพื่อนรักอีก 2 ตัวที่สื่อถึงความผูกพันระหว่างเพื่อน ยอมรับว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการเริ่มเรื่องราวใหม่ที่น่าสนใจ เพราะคราวนี้คือสามารถสานต่อเรื่องราวของวานรได้เต็มที่ โดยไม่ต้องสนใจไปเล่าเรื่องราวฝั่งมนุษย์ แต่พอหลังจากผ่านองก์แรก เมื่อปูคอนฟลิกต์เรื่องเผ่าอินทรีถูกจับตัวไปแล้ว ปรากฏว่าหนังพาตัวเองออกทะเลเข้ามหาสมุทรแบบไม่สนใจให้ข้อมูลอะไรเราทั้งสิ้น รวมถึงบทบาทของวานรเพื่อนรักอีก 2 ตัวที่ค่อย ๆ เฟดไปจากหนังและโผล่มาอีกทีตอนท้ายเรื่อง

bt Buzz รีวิว Kingdom for the Planet of the Apes

ส่วนในกรณีของรากายังพอถือว่ายกประโยชน์ให้จำเลยได้ เพราะถือเป็นแค่แฟนคลับของซีซาร์ มาเพื่อเชื่อมโยงหนังภาคนี้กับไตรภาคก่อนหน้า แต่ตัวเมที่เป็นมนุษย์ที่อยู่ ๆ ก็พูดได้ แถมยิ่งพอหนังดำเนินเรื่องไปกลับทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเรียกได้ว่าเป็นกุญแจดอกแรกที่จะเชื่อมหนังในเวอร์ชันใหม่เข้ากับหนังภาคแรกที่ฉายในปี 1968 เลยด้วยซ้ำ หนังกลับให้เธอโผล่มาแบบคนไม่ได้สำคัญในครึ่งเรื่องแรก แต่พอครึ่งเรื่องหลังก็แทบจะกลายเป็นตัวนำของเรื่องราว จนกระทั่งหนังจบและไปบดบังความโดดเด่นของ โนอา ที่ควรจะเป็นพระเอกและมีบทบาทเด่นที่สุดของหนังไปอย่างน่าเสียดาย

และปัญหาสำคัญของหนังก็กลับมาวนเป็นงูกินหาง เพราะในขณะที่เรื่องราว 80% ของมันเป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างวานรคือกลุ่มของพร็อกซิมัส ที่เป็นผู้ร้ายหลักของหนังกับโนอา พระเอกในภาคนี้ แต่ทั้งสองตัวละครกลับไม่ค่อยมีพัฒนาการอะไรเท่าไหร่ ในกรณีของพร็อกซิมัส เป็นตัวร้ายแบน ๆ โหด ๆ ยังพอเข้าใจได้ แต่ โนอา ที่ตัวหนังจะต้องปูพื้นทั้งพื้นฐานครอบครัว หรือหน้าที่ในฐานะผู้นำเผ่า และอาจจะพอพูดได้ว่าจะต้องเป็นตัวละครนำของแฟรนไชส์พิภพวานรต่อจากซีซาร์ แต่เรื่องราวในส่วนนี้กลับหายไป หรือแม้แต่พิธีเชื่อมสัมพันธ์ที่อุตส่าห์ไปเอาไข่นกตอนต้นเรื่องมาอย่างยากลำบากก็ถูกตัดจบหลังจากเผ่าอินทรีถูกบุกทำลาย เพื่อจะได้ใส่ฉากแอ็กชันโชว์วิชวลเอฟเฟกต์ และความตูมตามเข้ามาแทน เพื่อเอาใจคนดูยุคใหม่ที่ไม่ชอบหนังคุยกันเยอะ แม้จะยอมรับว่าเมื่อเทียบกับ ‘Godzilla X Kong The New Empire’ ที่เพิ่งฉายไป หนังอาจจะมีบทพูดและมีการบอกเล่าเรื่องราวมากกว่าก็ตาม (ฮ่าาา)

bt Buzz รีวิว Kingdom for the Planet of the Apes

แต่ถึงจะมีปัญหาด้านพัฒนาการตัวละครไปบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับก็คือ ประเด็นหลักที่ต้องการพูดถึงของหนังในชุดพิภพวานรก็ยังเป็นการสะท้อนโลกแห่งความจริงที่ความขัดแย้งใหม่ ๆ มักเกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งหาก ‘Planet of the Apes’ ปี 1968 ต้องการแสดงความกังวลต่อสถานการณ์สงครามเย็นที่มหาอำนาจต่างขู่ว่าจะใช้นิวเคลียร์ในการห้ำหั่นกัน หรือกระทั่งจุดเริ่มของไตรภาคใหม่อย่าง ‘Rise of the Planet of the Apes’ ในปี 2011 ที่เกิดเหตุการณ์อาหรับสปริง (Arab Spring) โดยให้เหล่าวานรเป็นตัวแทนผู้ไม่เคยมีปากเสียงได้ปลดแอกตัวเองจนกระทั่งมีแต้มต่อเหนือเหล่ามนุษย์ที่เคยทำการทดลองและข่มเหงพวกมัน

ส่วน ‘Kingdom of the Planet of the Apes’ ก็มีประเด็นที่น่าสนใจก็คือ การใช้เชื้อไฟจากความขัดแย้งของสงครามระหว่างอิสราเอล กับปาเลสไตน์ มาสานต่อเรื่องราวด้วยการให้พร็อกซิมัสอ้างคำพูดของซีซาร์ มาใช้ในการก่อสงครามเพื่อขึ้นครองบัลลังก์เหนือเหล่าวานร และต้องการทำลายล้างเหล่ามนุษยชาติ ซึ่งก็ไม่ต่างจากสงครามในโลกจริง ที่เป็นการอ้างอิงทั้งเรื่องความเชื่อและประวัติศาสตร์ เพื่ออ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ไม่ต่างจากที่พร็อกซิมัสพยายามทำ และการเรียกตัวเองโดยต่อท้ายชื่อว่าซีซาร์ก็เป็นการบิดเบือนจากซีซาร์ที่เป็นวานรผู้เสียสละ สู่ซีซาร์หรือตำแหน่งกษัตริย์เพื่อแสดงความบ้าอำนาจ

และในขณะเดียวกันหนังยังแอบแฝงเรื่องพลังของ ‘การสื่อสาร’ ตั้งแต่การที่เมปฏิเสธการพูดออกเสียง เพื่อป้องกันตัวเองไปจนถึงวัตถุประสงค์แท้จริงที่เธอร่วมเดินทางกับโนอาและรากา ก็เพื่ออำนาจดังกล่าวอีกด้วย และในทางกลับกัน เมื่อหนังยกเรื่องอำนาจแห่งการสื่อสารแล้ว พร็อกซิมัสเองก็ดูจะเข้าใจในอำนาจดังกล่าว โดยเฉพาะการนำเอาเรื่องราวของซีซาร์มาบิดเบือน และใช้เป็นกิมมิกเพื่อทำลายมนุษย์ ไปจนถึงพล็อตรองที่หนังเลือกจบได้อย่างทรงพลังก็คือการที่โนอาต้องเรียนรู้เพื่อจะสื่อสารกับนกอินทรีให้ได้อย่างพ่อที่จากไปของเขา

และเมื่อพูดถึงการสื่อสารในหนังแล้ว อย่างที่เรากล่าวไปตอนต้นของรีวิวนี้คือประเด็นดราม่าในรอบกาล่าของหนังเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 ซึ่งพิธีกรน่าจะได้รับการสื่อสารผิดพลาดในตัวหนังจนเกิดซีนน่าอาย อย่างการแซวนักแสดงสาวด้วยการทำเสียงลิงเพื่อสื่อสารว่าอยากได้เธอมาเป็นภรรยา ซึ่งหากจะให้เดาคิดว่าตัวพิธีกรคงเห็นว่าในโปสเตอร์หนังมีตัวละครเมเป็นมนุษย์คนเดียว เลยเข้าใจว่าหนังเล่าเรื่องวานรกำลังหาทางสืบพันธุ์กับมนุษย์หรือเปล่า ? รวมไปถึงมุกตลกที่แซวอินฟลูเอนเซอร์ LGBTQ+ ด้วยการยกสถานการณ์จำลองว่าให้ยิ้มแย้มเหมือนอยากได้ผู้ชายหล่อ ๆ 5-6 คนมาเป็นสามี ในยุคสมัยที่มุกแบบนี้อาจไม่ได้ตลกอีกต่อไป อืม…นี่สินะอำนาจของการสื่อสารที่หนังพยายามจะพูดถึง !

bt Buzz รีวิว Kingdom for the Planet of the Apes
กดที่ภาพเพื่อเช็กรอบฉายและซื้อบัตรชมภาพยนตร์