การเกิดขึ้นของคอนเสิร์ตที่ยอดเยี่ยม ประกอบไปด้วยหลายปัจจัยหลายองค์ประกอบ สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างโชว์ ไม่ว่าจะเป็นทำนอง เมโลดี้ที่เคลื่อนไหวไปตามเสียงของเครื่องดนตรีต่าง ๆ คิววิชวล ทุกท่วงท่า ทุกจังหวะ ทุกอย่างจะต้องสอดคล้องและมาบรรจบกันในช่วงเวลาที่ลงล็อกกันพอดี ถึงจะออกมาเป็นโชว์ที่สมบูรณ์แบบ

ในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา ประเทศไทยถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายยอดฮิตของศิลปินทั่วโลก ที่ต่างตบเท้าเข้ามาแสดงคอนเสิร์ตในบ้านเรา ไล่ตั้งแต่ศิลปินระดับแกรมมี อะวอร์ด ยันศิลปินอินดี้ที่รอวันผลิดอกออกผล แน่นอนว่าการจะให้เลือกโชว์ที่ประทับใจที่สุดของปี อาจจะเป็นเรื่องยาก แต่หลังจากค่ำคืนของวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ONE OK ROCK กับทัวร์ ‘LUXURY DISEASE ASIA TOUR 2023’ ได้แสดงให้เห็นถึงโชว์ที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในบ้านเรา

เวลาประมาณ 20.00 น. สี่หนุ่มร็อกเกอร์แดนอาทิตย์อุทัย นำโดย ทากะ (ร้องนำ), โทรุ (กีตาร์), เรียวตะ (เบส) และ โทโมยะ (กลอง) ปรากฏตัวต่อหน้าแฟนเพลงชาวไทย ในรอบเกือบ 5 ปี พร้อมกับเพลง “Wonder” ก่อนจะสาดยาวด้วยเพลงฮิตจากอัลบั้มเก่าและใหม่ ไล่ตั้งแต่ “Save Yourself”, “Taking Off”, “Let Me Let You Go”, “Clock Strikes”, “I Was King” และ “Renegades”

ก่อนเข้าเพลง “Neon” สมาชิกทั้งสามอย่าง โทรุ, เรียวตะ และ โทโมยะ ได้โชว์ความเป็นเขยไทยอีกครั้ง โดยการพูดคุยทักทายกับแฟน ๆ เป็นภาษาไทยอย่างเช่น “คิดถึงพวกเราไหมคร้าบ ผมชอบน้ำมะพร้าวมากเลย” และวลีที่เรียกเสียงฮาได้จากคนดูนับหมื่นอย่าง “ไปต่อกันเล้ยยยย”

หลังจากนั้นวงก็กระหน่ำเพลงใส่แฟน ๆ ชนิดแฟน ๆ ร้องกันคอแทบแตก ไม่ว่าจะเป็น “Vandalize”, “Make It Out Alive”, “Your Tears Are Mine” (เวอร์ชันอะคูสติก), “The Beginning”, “We Are”, “Stand Out Fit In” และ “Wasted Nights”

ช่วง Encore วงเลือก 2 เพลงฮิตเอาใจแฟนสุด ๆ อย่าง “Wherever You Are” และ “Kanzen Kankaku Dreamer” เป็นอันรูดม่านคอนเสิร์ตนี้อย่างสมบูรณ์ แน่นอนตามธรรมเนียมของ ONE OK ROCK พวกเขาไม่ยอมลงจากเวทีง่าย ๆ ทั้งสี่เดินแจกของ แจกเสื้อ รับของจากแฟน ๆ ร่วม 10 นาที ก่อนจะถ่ายรูปร่วมกันครั้งสุดท้ายและลงจากเวทีไป

ภาพรวมของโชว์ วันนี้ ONE OK ROCK ได้ทลายข้อจำกัดและขีดจำกัดหลาย ๆ อย่างของการแสดงคอนเสิร์ตในบ้านเรามลายหายไป ที่เห็นได้ชัดเลยคือการทำซาวนด์ออกมาได้สุด ชนิดที่อะคูสติกของฮอลล์ปราบเซียนที่ชื่ออิมแพ็ค อารีน่า ยังต้องยอมแพ้ ซาวนด์ลงตัวตั้งแต่เพลงที่ 2 เป็นต้นไป เสียงกีตาร์ของโทรุหนักแน่น ดุดัน แผ่ซ่านแต่ใสชัดเจน ไม่พร่ามัวเหมือนกับหลาย ๆ โชว์ที่เล่นที่นี่ เสียงเบสของเรียวตะ และเสียงกลองของโทโมยะสอดรับเป็นกระดูกสันหลังของวงที่แข็งแรง และแน่นอนเสียงร้องที่มาพร้อมกับเอเนอร์จีเหลือล้นของทากะ ก็ส่งตรงสุ้มเสียงเหล่านั้นถึงคนดูได้อย่างดี

ด้านงานวิชวล แสง สี ไทม์มิงเป๊ะกับจังหวะของดนตรีและท่าทางของทากะอย่างมาก และที่สำคัญด้านงานภาพน่าสนใจมาก ๆ ครับ วงทำออกมาได้น่าไม่น่าเบื่อเลยสักนิดเดียว ชวนให้คนดูตาสะกดอยู่ที่จอได้ตลอด ภาพที่ขึ้นจอซิงก์กับจังหวะต่าง ๆ เป็นอย่างดี ท่อนไหนใครเด่น กีตาร์สตรัมคอร์ดหนักจุดไหน หรือกลองโชว์ลูกส่งเท่ ๆ เมื่อใด กล้องก็รับขึ้นจอได้ทันท่วงทีทั้งหมด มีการใช้เทคนิคถ่ายที่หลากหลายให้อารมณ์เหมือนดูเอ็มวีสด ๆ เลยทีเดียว ซึ่งต่างกับหลาย ๆ โชว์ที่เราได้เห็น บางโชว์ไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดตรงจุดนี้มากนัก ภาพที่ออกมาก็อาจจะเหมือนภาพถ่ายทอดสดกีฬากลางแจ้งอย่างใดอย่างนั้น

อีกเรื่องที่มีหลายคนพูดถึงกันมาก คือความเข้มงวดเรื่องการถ่ายภาพและวิดีโอ ซึ่งตลอดทั้งโชว์จะมีเจ้าหน้าที่คอยเดินเข้ามาชาร์จทันที หากคุณยกมือถือขึ้นมาถ่าย ถ้าพูดถึงกฎห้ามถ่ายระหว่างโชว์ ส่วนตัวผมเห็นด้วยและเข้าใจกับมาตรการที่เข้มงวดนี้ (คาดว่าเป็นคำสั่งจากทางญี่ปุ่น) อันนี้เข้าใจได้ แต่หลังจากจบโชว์แล้ว ช่วงที่ศิลปินเดินมาหาแฟน ๆ ยังมีเจ้าหน้าที่หลายคนเดินเอามือมาปิดกล้องห้ามถ่าย ซึ่งส่วนตัวมองว่าเกินเบอร์ และทำช็อตฟิลไปหน่อย โชว์จบแล้วแถมไม่ได้เป็นการสปอยล์รูปแบบของโชว์แต่อย่างใด การอนุญาตให้คนดูที่ได้มีโอกาสเก็บภาพและโมเมนต์ประทับใจเอาไว้ แม้ช่วงเวลาสั้น ๆ ก็น่าจะพออนุโลมกันได้

คงไม่ผิดแปลกอะไร ถ้าจะบอกว่านี่คือโชว์ที่มงลงอย่างแท้จริง เป็นหนึ่งในโชว์ที่ดีที่สุดในปีนี้ สนุกอย่างน่าเหลือเชื่อ ไร้ซึ่งความไม่ make sense ใด ๆ เดดแอร์ไม่มี ต่อเพลงได้เนียน ที่สำคัญคนดูเอนจอยมาก ๆ ร้องตามกันเสียงดังสุด ๆ ทุกเพลง! นี่คือพลังของคนดูกับพลังของศิลปินมาบรรจบเจอกัน จนเกิดเป็นจุดปะทุความสนุกและสร้างโมเมนต์ต้องมนต์ร่วมกัน ONE OK ROCK เตรียมโชว์มาได้สุดทั้งซาวนด์ สุดทั้งงานภาพวิชวล สุดทั้งด้านการเอนเตอร์เทน นี่คือพลังแห่งบูชิโดขนานแท้! งานดีระดับเวิลด์คลาส การันตีด้วยเครื่องหมาย Made in Japan!

ขอขอบคุณทางผู้จัด Avalon Live สำหรับการอำนวยความสะดวกในโชว์นี้

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส