[รีวิวละคร] เกมรักทรยศ (EP.1-8) ตีความตัวละครได้สุดลิ่ม ไม่น้อยหน้าเวอร์ชันไหน ๆ
Our score
9.2

ดัดแปลงจาก

ซีรีส์ ดอกเตอร์ฟอสเตอร์ (Doctor Foster) ลิขสิทธิ์จาก BBC Studios

กำกับ

เก้า วิรดา คูหาวันต์ และ เอ้อ บุณณ์ญาณ์ อริยศรีวัฒนา

บทโทรทัศน์

ALLTHIS Team : อภิรักษ์ ชัยปัญหา, ภควดี แสงเพชร, มินตา ภณปฤณ

วันเวลาออกอากาศ

ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3 ดูทีวีกด 33 รับชมย้อนหลังได้ที่ VIU

[รีวิวละคร] เกมรักทรยศ (EP.1-8) ตีความตัวละครได้สุดลิ่ม ไม่น้อยหน้าเวอร์ชันไหน ๆ
Our score
9.2

[รีวิวละคร] เกมรักทรยศ (EP.1-8) ตีความตัวละครได้สุดลิ่ม ไม่น้อยหน้าเวอร์ชันไหน ๆ

จุดเด่น

  1. การเขียนบทที่ลงลึกไปถึงปมของตัวละครแต่ละตัว ทำได้ดี สมจริงและเป็นการสร้างมิติที่ลึกขึ้นให้กับละครทั้งเรื่องและตัวละครทุกตัวอย่างสมเหตุสมผล ทีมเขียนบททีมนี้ใส่ใจมากค่ะ
  2. การแสดงของตัวพ่อ ตัวแม่ แอนและอนันดา ที่ส่องแสงเจิดจ้า แต่ก็ไม่ได้เอาแสงของตัวเองไปกลบรัศมีของตัวละครตัวอื่น เรียกได้ว่ามืออาชีพทุกตัวละคร ชื่นชมค่ะ

จุดสังเกต

  1. อาจจะมีบทบางช่วงบางตอนที่เกือบจะเกินจำเป็นไปสักนิด แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้เกิดแผลที่เห็นชัดได้อยู่ดี
  • บท

    9.0

  • การแสดง

    10.0

  • โปรดักชัน

    8.0

  • การดำเนินเรื่อง

    9.0

  • ความสนุกตามแนวละคร

    10.0

เมื่อใครต่อใครต่างก็นำ ‘Doctor Foster’ ซีรีส์แนวสงครามจิตวิทยาสัญชาติอังกฤษมารีเมกกันให้จ้าละหวั่น มีหรือพี่ไทยอย่างเราจะยอมน้อยหน้า ก็ต้องออกมาวัดฝีมือการรีเมกกันดูสักตั้ง งานนี้ช่อง 3 ก็เลยจัดพระ-นางสายอินเนอร์มาดวลกันให้รู้ดำรู้แดง และจาก 8Ep ที่ผ่านมา ทั้ง ‘แอน ทองประสม’ และ ‘อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม’ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ‘เกมรักทรยศ | The Betrayal’ ซีรีส์รีเมกเวอร์ชันไทยทำออกมาได้ไม่น้อยหน้าชาติใดในโลกจริง ๆ

‘เกมรักทรยศ | The Betrayal’ เล่าเรื่องราวของ ‘หมอเจน เจนพิชชา’ (แอน ทองประสม) จิตแพทย์ชื่อดัง ของโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะภูเก็ต กับ ‘อธิน’ (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) สามีสุดหล่อเจ้าของโรงแรมเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่กำลังตกอยู่ในสภาวะขาดทุน ทั้งคู่มีลูกชายและลูกสาวด้วยกันอย่างละคนคือ ‘พัชร์’ (แม็ค ณัฐพัชร์) และ ‘พลอย’ (มากิ มาชิดา) ใครต่อใครต่างก็มองกันว่าครอบครัวนี้ช่างอบอุ่นและสมบูรณ์พร้อม ซึ่งความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้น แต่ในความสมบูรณ์ที่ว่ากลับมีรอยร้าวเล็ก ๆ แอบซ่อนอยู่โดยที่เจ้าของบ้านอย่างหมอเจนไม่เคยรู้ตัวมาก่อน

จนกระทั่งวันหนึ่งเส้นผมสีทองปริศนาบนผ้าพันคอของอธินเส้นหนึ่ง ก็ได้เข้ามาเปิดช่องให้เห็นรอยร้าวนั้นเข้าจนได้ และรอยร้าวที่ว่าก็คือ ‘เคท คาริสา’ (แพทริเซีย กู๊ด) ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ ‘ท่านบุญณ์ญาณ์’ (เจี๊ยบ ศักราช) กับ ‘คุณหญิงมินตรา’ (ต่าย เพ็ญพักตร์) นักธุรกิจชื่อดังคับเมืองภูเก็ต มากไปกว่านั้นคนรอบตัวของเธอ ทั้ง ‘หมอโรส’ (ต้นหอม ศกุนตลา) หมออายุรเวชที่เป็นเพื่อนสนิท และเพื่อนข้างบ้านอย่าง ‘อันนา’ (จอย รินลณี) ภรรยาของ ‘ชัช’ (ชาย ชาตโยดม) เจ้าของธุรกิจบัญชีที่ดูแลการเงินให้โรงแรมของอธิน ต่างก็รู้เห็นเป็นใจ ไม่เว้นแม้แต่ ‘สร้อยสน’ (นีรนุช ปัทมสูตร) แม่สามีของเธอ

ความจริงนี้สร้างความเจ็บปวดและสั่นคลอนจิตใจของหมอเจนเป็นอย่างมาก จนเธอต้องการหย่าขาดจากเขา และได้ให้ ‘เตย’ (น้ำหนึ่ง สุทธิเดชานัย) คนไข้ของเธอสะกดรอยตามอธินเพื่อเก็บหลักฐาน แลกกับการจ่ายยาคลายเครียดให้และช่วยเตยให้หลุดพ้นจากผัวนักซ้อม และท่ามกลางปัญหาอื่น ๆ ที่กำลังรุมล้อม เธอก็มี ‘ตุลย์’ (จี๋ สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร) คนไข้อีกคนของเธอคอยให้การช่วยเหลือ เธอต้องการเอาคืนคนทั้งคู่อย่างสาสม แต่ความรู้สึกของลูก ๆ ก็มองข้ามไปไม่ได้

การเอาคืนครั้งนี้ ไม่ว่าใครจะแพ้หรือชนะ การเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่เคยสมบูรณ์ของครอบครัวเธอ ก็กำลังคืบคลานเข้ามาแล้ว จากทุกทิศทุกทาง และตั้งเค้าว่าจะปวดจิตปวดใจไม่แพ้เวอร์ชันไหน ๆ แน่นอน

คำเตือน : รีวิวนี้ มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน แต่ไม่มีผลกับอรรถรสในการรับชม

การรีเมกที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก

‘Doctor Foster’ เป็นซีรีส์ที่ออกอากาศในปี 2019 จนได้รับความนิยมและถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปรีเมกในเวอร์ชันต่าง ๆ ถึง 9 ประเทศด้วยกัน และประเทศไทยก็เป็นประเทศที่ 10 ซึ่งก็ยังมีหลายคนเข้าใจผิดกันอยู่ว่า ‘เกมรักทรยศ’ รีเมกมาจาก ‘A World of Married Couple’ ซีรีส์เกาหลีใต้ที่กระแสแรงในบ้านเรา เมื่อปี 2020 ก็ไม่ใช่นะจ๊ะ เกาหลีใต้เขาก็รีเมกมาจากแหล่งเดียวกับเรานี่แหละค่ะ เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่รีเมกกันให้คึกคัก ตั้งแต่ ฝรั่งเศส รัสเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ ตุรกี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เยอรมนี ญี่ปุ่นและสุดท้ายคือไทยแลนด์ แดนนักตบของเรานี่แหละ แล้วทำไมถึงฮิตกันได้ขนาดนี้ล่ะ

เรียงลำดับจาดซ้ายมาขวา : ฝรั่งเศส รัสเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ ตุรกี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เยอรมนี ญี่ปุ่น

เพราะเนื้อหาว่าด้วยเรื่องของ ผัว-เมีย และชู้ที่ไม่ได้อยากเป็นชู้ยังไงล่ะคะ มาถึงจุดนี้เราก็คงต้องยอมรับแล้วว่าเรื่องราวที่มีกลิ่นคาวทำนองนี้ เป็นเรื่องราวที่ขายได้ขายดีกันทุกชนชาติเลยจริง ๆ และเมื่อมาถึงเวอร์ชันไทย ทีมเขียนบทก็ได้มีการเสริมเติมแต่งให้ซีรีส์เรื่องนี้มีอรรถรสมากยิ่งขึ้น ด้วยการถักเส้นใยความสัมพันธ์ให้เกี่ยวรัดกันมากขึ้นไปอีก นำเสนอเหตุและผล ลงลึกไปถึงปมชีวิตของตัวละครที่ส่งผลกับชีวิตของตัวเองและคนรอบข้าง ทำให้คนดูสามารถเข้าใจตัวละครได้มากขึ้น

จนกลายเป็นเรื่องราวรักสามเส้าเคล้าชายโฉดที่ชัดเจนกว่าเวอร์ชันไหน ๆ เมื่อผู้หญิงต้องเป็นเหยื่อของตัณหา ความเห็นแก่ตัวอย่างหน้าไม่อายและความไม่เอาไหน ของผู้ชายที่มีดีแค่หน้าตาคนหนึ่งเพราะสันดานไม่ได้ดีเด่อย่างปากว่า แต่ความหน้าตาดีนั้นก็เป็นหน้าตาที่ชนะทุกเวอร์ชันแบบกินขาดซะด้วยสิ ก็ดูเอาแล้วกันค่ะยืนยันด้วยเบ้าหน้าฟ้าประทานกันไปเลย นี่ไม่ได้อวยอะไรเลยนะ พูดจริง ๆ แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ ความกินขาดของเวอร์ชันไทยที่ผู้เขียนไม่ได้อวยยศจนเกินเบอร์นี้ ไม่ได้จบที่ความหล่อสวยของพระเอก-นางเอก เท่านั้น

แต่มันพิสูจน์กันชัด ๆ แล้วว่า ดาราไทยมีฝีมือไม่แพ้ชาติใดในโลก เมื่อสองพระนางได้สาดพลังที่ถูกผลักออกมาจากการตีความตัวละครที่ถึงแก่น โดยเฉพาะซีนอารมณ์ใน Ep8 ถือเป็นการโชว์อินเนอร์ที่สมจริงจนคนดูสามารถอินไปกับบท และเกิดความรู้สึกคล้อยตามอารมณ์ของตัวละครในเรื่องได้อย่างง่ายดาย จนอดไม่ได้ที่จะภูมิใจในฝีมือการแสดงของผัว-เมีย และเมียน้อยฝั่งเราที่ไม่น้อยหน้าเวอร์ชันเกาหลี และไม่น้อยหน้าแม้กระทั่งเวอร์ชันต้นฉบับอังกฤษเลยด้วยซ้ำ

เพราะสำหรับเรื่องนี้แล้วการรีเมกแต่ละเวอร์ชัน มันก็ต้องสู้กันด้วยบทและการแสดงกันอยู่แล้วละ ก็โครงเรื่องได้ถูกตรึงเอาไว้แล้วด้วยต้นฉบับ ซึ่งผู้เขียนไม่สามารถเอ่ยถึงเวอร์ชันไหน ๆ ได้นอกจากต้นฉบับอังกฤษ และเวอร์ชันเกาหลีนะคะ เพราะดูมาแค่ 2 เวอร์ชันนี้เท่านั้น ส่วนเวอร์ชันอื่น ๆ ก็ตามดูมาแค่ตัวอย่าง แล้วเมื่อนำจุดเล็ก ๆ ของแต่ละเวอร์ชันมาเปรียบเทียบกัน ก็ทำให้เห็นเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้ทำออกมาดีกันทุกประเทศเลยจริง ๆ นั่นแหละ

แต่ถ้าจะพูดถึงเฉพาะต้นฉบับอังกฤษ เกาหลีและไทย ก็จะเห็นความต่างกันอยู่ที่เวอร์ชันอังกฤษมีความดาร์ก และออกแนวทริลเลอร์ ระทึกขวัญแต่ฉาบไว้ด้วยเรื่องราวสุดปวดร้าวของสองหญิงหนึ่งชาย เวอร์ชันเกาหลีมีความป่วนจิตและเป็นสงครามประสาทที่ลับสมองกันเฟี้ยวฟ้าว เป็นการเอาคืนแบบเท่ ๆ ที่นางเอกกำแซ่ลวดหนามไว้ในมืออยู่ตลอดเวลา ส่วนเวอร์ชันไทยที่ผู้เขียนดูมา 8 ตอนถ้วน เป็นละครบรมโศกที่เผยให้เห็นทุก ๆ ด้านภายในใจของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่กำลังจะเดินทางไปถึงจุดพีค

คือเกมเอาคืนอย่างแสบสันตั้งแต่ตอนที่ 9 เป็นต้นไปอย่างแน่นอน และเชื่อว่าการปูความสัมพันธ์ที่ถักทอมาหลายชั้นจะทำให้คนดูอินหนักไม่ต่างจากเวอร์ชันอื่นที่เคยดูมา เพราะทั้งการปรับเปลี่ยนให้หมอเจนและอธิน มีลูกด้วยกัน 2 คน จะทำให้การตัดสินใจของพ่อแม่ที่จะต้องแยกทางกันยากขึ้นไปอีก การเพิ่มปมวัยเด็กของพระเอกด้วยการใส่ดราม่าชีวิตครอบครัวที่แม่ต้องทนทุกข์กับพ่อที่มีบ้านเล็กบ้านน้อย แต่ก็ยังทำเรื่องเดิม ๆ ซ้ำรอยพ่อเพราะแท้ที่จริงแล้วเป็นคนไม่เอาไหน

คือบทมันทำให้รู้สึกกับพระเอกแบบนั้นเลยละค่ะ ปมดราม่านี้แทนที่จะช่วยให้เราสงสารเขา แต่ไม่เลย มันยิ่งตอกย้ำความไม่เอาไหนและสันดานเห็นแก่ตัวที่ไม่ต่างจากพ่อของพระเอกมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจุดนี้ทำให้ละครมีมิติที่ลึกขึ้น และมีเหตุมีผลมารองรับความเลวอย่างไม่น่าให้อภัยมากขึ้นไปอีก บอกเลยว่าผู้เขียนดูไปก็อินตาม จนสามารถนั่งด่าอนันดาได้ ฉันลืมเบ้าหน้าอันหล่อเหลาของเขาไปเลยค่ะ มองเห็นแต่ผู้ชายสารเลวคนหนึ่ง ที่ยืนกระต่ายขาเดียวอยู่ได้ แถมยังจงใจโบ้ยให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายงี่เง่าเอง ตีความตัวละครได้ดีขนาดนี้ คือนักแสดงมืออาชีพเท่านั้นค่ะ

มากไปกว่านั้น การเขียนบทให้พระเอกเป็นไอ้ขี้แพ้โดยสันดานแถมยังเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ ก็ยังส่งมาถึงการรับส่งที่ดีของทั้งหมอเจนและเคท เพราะผู้ชายคนนี้สามารถทำให้เมียที่ฉลาดเป็นกรดสับสนได้ ว่าเอ๊ะตกลงนี่ฉันเข้าใจผิดคิดไปเองใช่ไหม และทำให้ลูกคุณหนูอย่างเคท กลายเป็นผู้หญิงโง่ ๆ ที่ยอมทำเรื่องผิดศีลธรรมโดยไม่สนความรู้สึกของพ่อแม่ แถมยังคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก เพียงเพราะหลงคารมของผู้ชายหน้าตาดีประหนึ่งโดนน้ำมันพรายมาป้ายก็ไม่ปาน

งานนี้แพทริเซียเล่นได้ซื่อตาใสเอามาก ๆ แถมมั่นอกมั่นใจอีกต่างหากว่าสิ่งที่ตัวเองเลือกนั้นถูกแล้ว บทที่เขียนให้และการแสดงของแพทริเซียทำให้เรารู้สึกได้ว่าเธอไม่ใช่เมียน้อย เพราะเธอไม่คิดว่าเธอเป็น แต่เธอรักจริงเพราะถูกหลอกจากความเห็นแก่ตัวของผู้ชายคนหนึ่ง เป็นผู้หญิงอ่อนหัดที่ตั้งใจทำบาปอย่างไม่คิดว่ามันเป็นบาปได้หน้าตาเฉย จนทำให้กลายเป็นเวอร์ชันที่สงสารเมียน้อยไม่ต่างจากสงสารเมียหลวงเลยนะ เอาจริง ๆ

รายละเอียดปลีกย่อย ที่ตั้งใจใส่และโคตรจะมีประโยชน์

ก็เพราะการเขียนบทอีกนั่นแหละที่ทำให้เวอร์ชันนี้มีมิติที่ลึกและแตกต่างจาก 2 เวอร์ชัน (อังกฤษ-เกาหลี) ที่ผ่านมา ส่วนตัวแล้วผู้เขียนชอบมากนะคะกับการใส่รายละเอียดปลีกย่อยตรงนี้ลงมาในบทละคร เพราะนอกจากจะไม่รกจนเกินความจำเป็นแล้ว ยังเอื้อประโยชน์ในการที่จะทำให้คนดูคล้อยตามไปกับชะตากรรมของตัวละครนั้น ๆ ได้ง่าย ๆ เริ่มตั้งแต่การเผยให้เห็นงานอดิเรกของหมอเจน ที่มักจะเข้ามานั่งตอกโป๊ก ๆ ทำแหวนมั่ง ทำจี้มั่งในยามที่เกิดความเครียดเพื่อทำสมาธิ

ฉากเหล่านี้กำลังบอกเราว่า หมอเจนไม่ได้เป็นแค่จิตแพทย์ที่เก่งหาตัวจับยากเท่านั้น แต่ยังมีอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ให้เธอไม่น้อย และอาชีพนั้นยังเป็นเครื่องบำบัดยามเธอเกิดทุกข์ได้เป็นอย่างดี แสดงให้เห็นว่าชีวิตที่ผ่านมาถึงแม้จะดูสมบูรณ์ แต่ความสมบูรณ์ของครอบครัวที่ใคร ๆ เห็นนั้น เกิดจากความทุ่มเทในทุก ๆ ด้านของผู้หญิงคนหนึ่งจริง ๆ แล้วแบบนี้จะไม่ให้เธอปวดร้าวจนต้องเอาคืนให้สาสมได้ยังไง

เป็นการสร้างเหตุผลแห่งการเอาคืนให้ตัวละครตัวนี้ และบอกออกมาชัด ๆ เลยว่า เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่สามารถปล่อยวางกับความทุกข์ที่เกิดจากความผิดหวังได้ จนเอาตัวเองและครอบครัวเข้าไปผจญอยู่ในบ่วงของโศกนาฏกรรมชีวิตในที่สุด มากกว่านั้นบทยังเพิ่มตัวละครที่ไม่มีในเวอร์ชันอื่น ๆ เพิ่มมาอีก 1 ตัวคือ น้องพลอย ลูกสาวคนเล็กที่บทเลือกให้เธอมีโรคประจำตัวและติดพ่อ

ซีนที่น้องพลอยอาการหอบหืดกำเริบและเรียกหาพ่อ อธินรีบทิ้งเคทออกมาเพื่อมากล่อมลูกนอน ก็เปรียบเสมือนเป็นการบอกว่าเกมรักครั้งนี้ทำท่าจะปวดร้าวมากกว่าเดิม เพราะมีหัวใจดวงเล็ก ๆ ถึง 2 ดวงเป็นเดิมพัน หนำซ้ำหัวใจดวงหนึ่งยังอ่อนแอมาก ๆ อีกต่างหาก และเผยให้เห็นด้านที่แสนจะธรรมดาของคนเป็นพ่อที่ไม่ได้เลวจนถึงขนาดแต่ก็ยังเห็นแก่ตัวจนไม่น่าให้อภัย เพราะหลังจากนี้เขาก็พร้อมที่จะทรยศครอบครัวที่เขารักนักรักหนาอยู่ดี

เวอร์ชันนี้ไม่ธรรมดาเลยนะคะ เราสามารถทำได้ไม่แพ้เวอร์ชันอื่น ๆ ด้วยบทที่ลงลึกไปถึงปมเหตุ อาจจะมีอยู่บ้างในบางซีนที่เกือบจะเวิ่นเว้อ แต่ก็สามารถหยุดอยู่แค่นั้นและทำให้ความรู้สึกนั้นหายไปได้โดยเร็ว บวกกับการแสดงของนักแสดงคุณภาพที่ทำการบ้านมาอย่างดี ก็ส่งผลออกมาในรูปแบบของผลงานที่ดีไม่มีที่ติอย่างที่เห็นใน 8 ตอนที่ผ่านมา

คาดหวังเลยค่ะว่าโศกนาฏกรรมชีวิตของครอบครัวตัวอย่างในครั้งนี้ จะโหดร้ายและทำให้เห็นว่า การตัดสินใจที่ผิดของผู้ใหญ่ จะส่งผลกับชีวิตของเด็ก ๆ ขนาดไหน จะดาร์กได้แตกต่างจากต้นฉบับอังกฤษบนความรู้สึกแบบไหนกัน รอดูเลยค่ะ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส