Apple ยังคงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอุปกรณ์เสริมระดับไฮเอนด์เพื่อเสริมความพรีเมียมให้กับ iPhone อย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่งเปิดตัว iPhone Pocket ที่ผสานความร่วมมือกับ ISSEY MIYAKE (อิซเซ มิยาเกะ) แบรนด์แฟชั่นชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นผลิตภัณฑ์ผ้าถัก 3 มิติ ชิ้นเดียว ซึ่งมีคุณสมบัติยืดออกได้คล้ายกับเนื้อผ้า เพื่อให่ใส่ iPhone และ AirPods ได้อย่างมีสไตล์ ในราคาเริ่มต้นที่ 149.99 เหรียญ หรือประมาณ 4,900 บาท
ล่าสุด Apple ได้ร่วมกับดีไซน์เนอร์ Bailey Hikawa (เบลีย์ ฮิคาวะ) ศิลปินนักออกแบบจากลอสแอนเจลิส เปิดตัวอุปกรณ์เสริม เรียกว่า Hikawa Phone Grip & Stand ซึ่งสามารถยึดติดที่ด้านหลังของ iPhone แบบแม่เหล็กด้วย MagSafe โดย Apple เน้นย้ำว่า มีความแตกต่างจากอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ พร้อมเปิดเผยเบื้องหลังการออกแบบที่น่าประทับใจ


Bailey Hikawa ใช้เวลาหลายปีในการออกแบบที่จับและเคส iPhone ที่มีลักษณะเชิงประติมากรรมและสอดคล้องตามหลักสรีรศาสตร์ โดยมิได้มุ่งเน้นที่ความสวยงาม แต่ต้องการสร้างสิ่งที่ช่วยให้มือทุกรูปแบบสามารถหยิบถือได้อย่างง่ายดายที่สุด ซึ่งทำให้ Apple ให้ความสนใจผลงานของเธอเป็นอย่างมาก
Hikawa Phone Grip & Stand นั้น ได้รับการออกแบบเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งการพัฒนาอุปกรณ์เพื่อส่งเสริมการเข้าถึง (Accessibility หมายถึง โรคหรือภาวะที่ส่งผลต่อการออกแรงของกล้ามเนื้อ, ความคล่องแคล่ว และการควบคุมมือ) โดยเป็นอุปกรณ์เสริมที่มุ่งเน้นเพื่อรองรับผู้พิการที่มีปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรง (Muscle Strength), ประสบภาวะความคล่องแคล่วของมือและนิ้วลดลง (Dexterity) และไม่สามารถถือโทรศัพท์มือถือให้นิ่ง ๆ ได้


Hikawa Phone Grip & Stand มีรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างแปลกตา คล้ายกับซิลิโคนเนื้อนุ่มที่มีช่องเว้าตรงกลาง ซึ่งได้รับการออกแบบให้ยืดหยุ่นและมีแรงต้านเล็กน้อย แต่ไม่ถึงขนาดตึงมือ เพื่อให้ผู้ใช้ไม่ต้องออกแรงมากในการหยิบจับ โดยมีสีที่แต่งกัน 2 เวอร์ชัน ได้แก่ สีเขียวนีออน Chartreuse (ชาร์ทรูส: อยู่ตรงกลางระหว่างสีเขียวกับสีเหลือง) สดใส มองเห็นได้ถนัดตา และสี Crater ที่มีโทนเรียบกว่า และดูเหมือนจะผลิตจากวัสดุรีไซเคิล


นอกจากนี้ ฮิคาวะยังได้วางจำหน่าย Phone Grip & Stand ที่มาพร้อมสีพิเศษ อีก 2 เวอร์ชัน ได้แก่ Cobalt Blue และ Blurple Swirl บนเว็บไซต์ของเธอเอง

Hikawa Phone Grip & Stand มีราคาอยู่ที่ 69.95 เหรียญ หรือประมาณ 2,300 บาท โดยรองรับการใช้งานร่วมกับ iPhone 12 เป็นอย่างน้อย และเคสที่รองรับ MagSafe