[รีวิว]เปลือกรักปมลวง|Hangout : เปิดเปลือก ขุดปม สมศักดิ์ศรีบรรดาตัวมัม
Our score
8.5

กำกับ

พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง

จำนวนตอน

16 ตอน

ช่องทางรับชม

MONOMAX ทุกวันศุกร์เวลา 10.00 น.

[รีวิว]เปลือกรักปมลวง|Hangout : เปิดเปลือก ขุดปม สมศักดิ์ศรีบรรดาตัวมัม
Our score
8.5

[รีวิว]เปลือกรักปมลวง|Hangout : เปิดเปลือก ขุดปม สมศักดิ์ศรีบรรดาตัวมัม

จุดเด่น

  1. การแสดงของ 5 สาวที่เอาอยู่ทุกบทบาท แค่นี้ก็คุ้มแล้วที่จะดู
  2. บทกระชับ ดำเนินเรื่องเร็ว น่าติดตามทุกตอนที่ออกอากาศ

จุดสังเกต

  1. พล็อตเรื่องสามารถเดาได้ง่ายไม่พลาดเป้า แต่การดำเนินเรื่องและการกำกับทำให้น่าติดตามได้ซะงั้น
  • บท

    8.0

  • การดำเนินเรื่อง

    8.0

  • โปรดักชัน

    8.5

  • การแสดง

    10.0

  • ความสนุกตามแนวละคร

    8.0

ซีรีส์เเนวชีวิตรักสะท้อนสังคมในยุคปัจจุบัน ที่เปิดเปลือกชีวิตสวยหรูของหลายครอบครัวที่เราเห็นอยู่ตรงหน้า ว่าอาจซุกซ่อนความจริงบางอย่างเอาไว้ และบอกกับเราว่าความทุกข์ไม่แบ่งแยกฐานะ เพราะไม่มีทุกข์ของใครเล็กน้อยไปกว่าใคร เป็นซีรีส์สะท้อนชีวิตที่จะบอกให้เรารู้จักรักษาสิ่งที่ควรค่าแก่การรักษา ในขณะเดียวกันก็รู้จักที่จะปล่อยสิ่งที่ควรจะปล่อย ถ่ายทอดผ่านการแสดงมากฝีมือของ 5 นางเอกที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวแม่แห่งวงการ

เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนสนิทสมัยมัธยมที่มีโอกาสได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง และได้มาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ‘ธาริณี’ (ขวัญ อุษามณี) ศัลยแพทย์ฝีมือดีที่ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงของชีวิตคู่อย่างที่ไม่เคยคาดคิด ‘กันตา’ (โดนัท มนัสนันท์) หญิงสาวที่ต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวด เพื่อรักษาครอบครัวของเธอเอาไว้ ‘โสมสุดา’ (แพนเค้ก เขมนิจ) หญิงสาวที่ฉลาดเฉลียวและเกิดมาอย่างสมบูรณ์พร้อม แต่ความร่ำรวยไม่ได้การันตีว่าปลายทางของเธอจะราบรื่น ‘นภา’ (ชิปปี้ ศิรินทร์) เพื่อนรุ่นน้องในหมู่บ้าน หญิงสาวธรรมดาที่อยากมีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่มันก็ยากซะเหลือเกิน

และคนสุดท้าย ‘ดุจดาว’ (ป๊อก ปิยะธิดา) เจ๊ใหญ่สาวโสดประจำกลุ่ม เจ้าของหมู่บ้านที่ทุกคนอาศัยอยู่ ผู้ซึ่งเปิดประตูต้อนรับกลุ่มเพื่อนสาวให้มาร่วมกิน ดื่ม ในคืน Hangout คืนที่ทุกคนจะแชร์ชีวิตของตัวเอง และทำให้ความหมายของคำว่าเพื่อนชัดเจนขึ้น จนบางครั้งเรื่องราวของพวกเธออาจจะทำให้มุมมองความรักของพวกคุณเปลี่ยนไป ไม่มากก็น้อย

ฝีมือการแสดงไม่เสียราคาตัวแม่

ถ้าจะพูดถึงเรื่องของบทละครเรื่องนี้ สายดราม่าไม่มีทางที่จะเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตของตัวเอกแต่ละคนในเรื่องพลาด แต่ในความเดาได้ก็ได้ถูกจัดการไปแล้วด้วยการดำเนินเรื่องที่กระชับ ฉับไว ไม่เยิ่นเย้อ แต่ยังคงรายละเอียดสำคัญเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน บวกกับฝีมือการแสดงของบรรดาตัวแม่แต่ละคนที่เอาอยู่กับบทบาทของตัวเอง

คือต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าการดำเนินเรื่องของละครเรื่องนี้ จะเป็นการดำเนินเรื่องโดยการเล่าเรื่องจากบุคคลที่ 3 คือ ดุจดาว เจ๊ใหญ่ผู้อยู่ในทุก ๆ เหตุการณ์ของ 4 สาวที่เหลือ เรียกได้ว่ามีเรื่องอะไรใคร ๆ ก็มักจะมาปรึกษาเจ๊ สลับกับการเปิดเปลือกชีวิตของแต่ละคู่ไปตามครรลองที่ควรจะเป็นให้เราเห็นเป็นคู่ ๆ โดยมีการคาบเกี่ยวของช่วงเวลาบ้าง ไม่มากก็น้อย เริ่มจากคู่แรกคือ ธาริณี กับ ชนาธิป (เป๊ก เปรมณัช) ที่ประเดิมการเปิดเปลือกได้ลึกเข้าไปถึงกระดูก

เรียกว่าถลกหนัง ลอกหัวใจของผู้อยู่ในเหตุการณ์ว่างั้นเถอะ แม้แต่คนดูที่สามารถเดาได้ก็ยังอึ้งเล็ก ๆ ว่า คู่แรกก็เล่นแบบนี้กันเลยเหรอวะ แต่ก็สามารถทำให้ละครเรื่องนี้น่าติดตามตั้งแต่ Ep ต้น ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย และเท่านั้นยังไม่พอ คนเขียนบทยังตามขยี้ต่อโดยการจัดคู่สองมาแบบโหดหิน คือกันตา กับ เรวัต (สมาร์ท-กฤษฎา) ทำให้เราได้เห็น โดนัท มนัสนันท์ ในบทบาทที่ไม่ทำให้เราผิดหวัง ได้เห็นอินเนอร์นิ่ม ๆ ที่ส่งออกมาทางแววตา ได้เห็นภาษากายที่ไม่ต้องบ้าระห่ำแต่โคตรช้ำในความรู้สึก

และยิ่งได้เข้าคู่กับสมาร์ท ในบทสามีสุดโหด ก็ยิ่งเสริมพลังให้แก่กันและกันจนเรียกได้ว่า เป็นการถ่ายทอดชีวิตสุดขมขื่น ของผู้หญิงที่ต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของผู้ชายสารเลวได้อย่างสมจริงอะไรอย่างนี้ โดยที่เรื่องราวของแต่ละคู่ถูกจัดมาเสิร์ฟแบบกระชับและน่าติดตาม ผู้เขียนดูมาทั้งหมด 8 ตอน เป็นการดูแบบปกติ 6 ตอนและดูแบบจ่าย Fast Track ไป 2 ตอน หวาน ๆ ไปเลยจ้ะ

ด้วยความอดรนทนไม่ไหว เพราะอยากรู้เรื่องราวในฉากต่อไปของคู่ที่ 3 คือคู่ของ นภา กับ วุธ (ฮัท จิรวิชญ์ ) ว่าตกลงจะอะไรยังไง หวยจะออกไปทางไหนกันแน่สองคนนี้ เมื่อต่างก็รักกันนักหนาแต่ต่างก็โกหกใส่กันเป็นฟืนไฟ ซึ่งชิปปี้ในบทนภา น้องเล็กของกลุ่มก็สามารถยืนอยู่ในดงของบรรดาตัวแม่รุ่นพี่ได้อย่างองอาจอยู่นะ ว่าไม่ได้ เพราะความสามารถส่วนตัวของนางก็มีไม่น้อย เรียกได้ว่าพกมาจากบ้านเต็มกระเป๋า และสามารถแสดงออกมาได้สมบทบาทที่ได้รับ

ซีรีส์มีทั้งหมด 16 ตอนนะคะ ตอนนี้ก็เดินทางมาครึ่งเรื่องแล้ว อีก 2 ตอนเรื่องราวของคู่ชิปปี้ก็จะคลี่คลายและต่อด้วยคู่เด็ดคือคู่ของ โสมสุดา กับ ภาวิช (โอม อัชชา) ซึ่งเราเห็นแววอยู่แล้วละว่าเรื่องราวของคู่นี้จะออกมาแนวไหน แต่สิ่งที่รอคอยคือพลังในการแสดงของแพนเค้กมากกว่า อยากจะรู้ว่าแสงที่ส่องออกมานั้น จะเนียนตาน่าดูในระดับกี่ดาว จากที่เธอคนนี้ทำเอาไว้ในระดับทะลุ 5 ดาวมาแล้วจากละครเรื่องอื่น ๆ

และคนสุดท้ายที่ตั้งใจรอดูการปิดฉากของเรื่องนี้ คือเรื่องราวของ ดุจดาว เจ๊ใหญ่ที่ทำไมเป็นโสด ซึ่งเชื่อว่าเรื่องราวของเธอคนนี้ต้องไม่ธรรมดาและพีคที่สุดในบรรดา 5 สาวพลังหญิงแน่ ๆ เพราะเมื่อผู้ถูกเลือกให้มารับบทนี้คือ ป๊อก ปิยะธิดา มันจะต้องไม่ใช่อะไรที่ธรรมดาแน่นอน

บทกระชับฉับไว สมกับที่ใช้ตัวแม่มาบรรเลง

เราก็มักจะเห็นบทละครทำนองนี้ถูกผลิตออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แทบจะไม่แตกต่างกันเลยแต่มันก็แตกต่างซะได้เมื่อมาอยู่ในมือของ แอค-อาร์ต เจเนเรชั่น ก็ไม่ได้อยากจะอวยพี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ เลยจริง ๆ แต่ก็อดไม่ได้ที่ต้องขอชื่นชมแกซะหน่อย ว่าทีมงานของแกยังคงมาตรฐานการละครเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น และที่สำคัญไม่ทำให้ตัวแสดงเสียของ แถมยังเป็นการใช้คุ้มและมอบรางวัลให้กับคนดูไปในตัว

เราได้เห็นการส่งพลังที่เป็นธรรมชาติของนักแสดงแต่ละคน แถมยังเป็นการรวมตัวของบรรดานักแสดงอิสระมากฝีมือทั้งหลายได้อย่างเข้าขา เป็นการบาลานซ์บทบาทและการแสดงจนไม่สามารถเห็นบทของใครเด่นไปกว่าของใครได้ ทุกตัวละครมีมิติและมีความสำคัญเท่าเทียมกัน แม้แต่นักแสดงสมทบที่ออกมาเพียงไม่กี่ฉาก แต่แสงก็ยังสาดส่องไปถึงพวกเขาให้ได้จดจำและน่าสนใจ

รวมถึงการดำเนินเรื่อง การตัดต่อที่ไม่มีจุดน่าเบื่อ และทำให้ทุกฉากทุกตอนน่าติดตาม เราสามารถลุ้นไปกับชะตากรรมของแต่ละคู่ เดาถูกบ้าง เดาผิดบ้างไปตามประสาแบบป้าข้างบ้านที่แอบดูชีวิตของพวกเขา ได้เห็นความหมายของความรักและมิตรภาพที่ฉายชัดอยู่ในเนื้อหา ได้เห็นสัจธรรมของชีวิตที่สอดแทรกอย่างตั้งใจอยู่ในแต่ละบทแต่ละตอน โดยไม่ต้องมีการตีความ

เป็นการเล่าเรื่องง่าย ๆ ที่คล่องแคล่วว่องไวและย่อยไม่ยาก มากกว่านั้นเรายังได้เห็นคอสตูมที่สมฐานะสมบทบาทอย่างไม่ขัดสายตาเลยสักนิด โดยเฉพาะชุดของโดนัท มนัสนันท์ ที่สีและดีไซน์บ่งบอกถึงความทุกข์ภายในใจแบบไม่ต้องยัดเยียด ชุดของแพนเค้ก ที่สมฐานะนักธุรกิจไฮโซที่ไม่ต้องทำงานทั้งชีวิตก็มีอันจะกิน และการแต่งกายของตัวแสดงอื่น ๆ ที่ถูกดีไซน์มาแล้วอย่างดีจากทีมคอสตูมที่พิถีพิถัน เหมาะสมกับบทบาท ผู้เขียนเห็นการใส่ใจระดับนั้นในละครเรื่องนี้ค่ะ

ชอบและประทับใจที่ได้ดู ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะถ่ายทอดชีวิตของแต่ละคู่ออกมาในทำนอง ‘ทุกข์ของคนรวย’ แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ความทุกข์ไม่เลือกสถานะและไม่มีทุกข์ของใครเล็กน้อยจนน่าเย้ยหยัน แถมเรายังอาจจะได้ข้อคิดจากเรื่องราวเหล่านี้อีกด้วยซ้ำ ละครมี 16 ตอนนะคะ อัปเดต 2 ตอนใหม่ทุกวันศุกร์เวลา 10.00 น. ที่ MONOMAX

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส