[รีวิว] มายาเสน่หา : ต้มยำรวมมิตรน้ำข้น ที่ยิ่งกินยิ่งอร่อย
Our score
8.0

[รีวิว] มายาเสน่หา : ต้มยำรวมมิตรน้ำข้น ที่ยิ่งกินยิ่งอร่อย

จุดเด่น

  1. บทดี แปลกใหม่ ครบรส น่าติดตาม แถมข้อคิดเอาไว้ที่คนมีคู่ควรดู
  2. แอน สิเรียม และ แหม่ม คัทลียา ไม่ได้มาเล่น ๆ จ้ะ กลบรัศมีพระนางซะมิดชิด ชูรสชั้นดีก็สองคนนี้นี่แหละ
  3. เป็นยำใหญ่ที่เหมือนกับรวมรสชาติของละครหลาย ๆ เรื่องมาไว้ด้วยกัน

จุดสังเกต

  1. ปูพื้นเรื่องใน 4 ตอนแรกยาวไปนิด และมีบทฟุ่มเฟืยที่น่าจะตัดออกไปได้ ถ้าหากไม่บอกล่วงหน้าว่าจะมีหักมุม ก็เกือบจะกลายเป็นดราม่าพื้น ๆ ไปซะแล้ว
  • ความสมบูรณ์ของบท

    7.0

  • คุณภาพนักแสดง

    9.0

  • คุณภาพการเล่าเรื่อง

    7.0

  • คุณภาพงานสร้าง

    8.0

  • ความคุ้มค่าในการรับชม

    9.0

เรื่องราวความรักของ ‘ชาครีย์’ (เคน ภูภูมิ) กับ ‘มนสิชา’ (ไอซ์ ปรีชญา) คู่สามีภรรยาที่แต่งงานกันมาได้ 7 ปี แต่ทั้งสองคนไม่มีลูกด้วยกัน เป็นรักซาบซึ้งจริงจัง ท่ามกลางความขัดแย้งของสองแม่มาตั้งแต่ต้น ระหว่าง ‘เมทินี’ (แอน สิเรียม ภักดีดำรงค์ฤทธิ์ ) แม่ของมนสิชา กับ ‘จินตนา’ (แหม่ม คัทลียา แมคอินทอช ) แม่ของชาครีย์ ยิ่งนานวันทั้งคู่ต่างก็อยากจะให้ลูกของตัวเองหย่าขาดจากกัน กลายเป็นความขัดแย้งของ 2 ครอบครัว ที่มนสิชากับชาครีย์พยายามกระชับความสัมพันธ์นี้เอาไว้ให้ได้

มายาเสน่หา

แต่เมื่อเวลาผ่านไป แค่ความรักมันยังไม่พอเมื่อ ‘มะลิ’ (พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา) แม่บ้านของบ้านชาครีย์ พาหลานสาวชื่อ ‘สวรส’ (วาววา ณิชชา โชคประจักษ์ชัด) มาอยู่ด้วย ‘สวรส’ ตกหลุมรัก ‘ชาครีย์’ ตั้งแต่แรกเห็น เป็นรักที่แอบรักแบบแฟนคลับคลั่งรักอปป้า แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นทำให้เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่ และรักที่ไม่เข้าใจกันต่อให้ดูดดื่มกันแค่ไหนก็มักจะร้าวได้ง่าย ๆ

มายาเสน่หา

แต่รักร้าว ๆ ของสองคนก็ไม่สามารถคลี่คลายไปได้เมื่อ ‘ชาครีย์’ ต้องมาประสบอุบัติเหตุทำให้วิญญาณหลุดออกจากร่าง กลายเป็นผักนอนนิ่งติดเตียง จนค้นพบความจริงกับเรื่องราวที่ถูกปิดบังไว้อีกมากมาย ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ ของแท้กันเลยเชียว

พล็อตแนบชิด ที่คนมีคู่ควรดู

เห็นชื่อเรื่องในครั้งแรกก็พาลคิดไปว่า เอาแล้วละครแนวนี้มาอีกแล้ว ฉันต้องได้ดูเมียหลวงตบเมียน้อย ฟาดฟันกันมือไม้สั่นแน่นอน ก็มายาเสน่หามันแปลตรงตัวชัด ๆ ได้เลยว่า ‘กลลวงของความรัก’ ซึ่งในสามสี่ตอนที่ออกอากาศ มันก็ไปในแนวนั้นซะด้วยสิ ยิ่งเห็นหน้า ‘วาววา’ โผล่มาปุ๊ป เอาแล้วนางร้ายหน้าใสมาแล้วไง อย่างนี้จะไม่มี ปะ ฉะ ดะ กันได้ไง ใช่ป่ะล่ะ แต่เรื่องย่อที่เผยเอาไว้ เขาบอกว่าเรื่องนี้มี ‘ผี’ เข้ามาเกี่ยว ยังไงซิ ไหนว่ากันมาซิ!? ผีมาอยู่ในละครผัว-เมีย แบบสุสานคนเป็นงี้เหรอ

มายาเสน่หา

8 ตอนผ่านไปไวเหมือนติดปีก เรียกว่าดูแซบดูเพลินกันยาว ๆ ชนิดที่อยากให้เป็นละครศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ซะจริง ๆ เพราะแค่ 2 วันมันไม่พอ ความครบรสที่ละครเสิร์ฟร้อน ๆ ให้กับผู้ชม กลับสร้างรสชาติให้ละครรักร้าวเป็นละครคุณภาพที่แฝงข้อคิดได้แบบเนียน ๆ ซะด้วยสิ หากสมมติให้เหตุการณ์ต่าง ๆ ในครอบครัวนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับครอบครัวหนึ่งในสังคม ปัญหาที่เราเห็นแต่ตัวละครไม่มีทางเห็น ก็คือความเข้าอกเข้าใจที่สองคนมีให้กัน มันบางเบา

ฝ่ายภรรยาต้องการความรักที่เอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอจากสามี โดยลืมคิดไปว่าการงานที่เขาทำอยู่ช่างหนักหนาและเหน็ดเหนื่อย ฝ่ายสามีต้องการรับผิดชอบหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด จนหอบงานมาทำที่บ้าน โดยลืมนึกถึงความรู้สึกของภรรยาที่ต้องรับศึกหนักจากแม่สามีจอมจุ้น ซึ่งทำให้ภรรยาตกอยู่ในสภาวะเครียดไม่ต่างกัน สองคนเมินเฉยต่อภาระที่อีกฝ่ายแบกรับอยู่ ต่างคนต่างละเลยซึ่งกันและกัน และสนใจแต่ปัญหาที่ตัวเองเผชิญอยู่ตรงหน้าเท่านั้น เมื่อการเข้าไปนั่งอยู่ในใจกันช่างเบาหวิว อะไรสะกิดก็แตกได้ง่าย ๆ แล้วละจ้ะ

มายาเสน่หา

ไหนจะสองแม่ที่จุ้นจ้านกับชีวิตของลูก ๆ ที่ถึงจะทำไปด้วยความรัก แต่ก็เป็นความรักของแม่ที่ยืนอยู่บนบรรทัดฐานของตัวเอง จนลืมนึกถึงหัวใจลูกแบบลืมสนิทชนิดปิดตายกันเลยเชียว ไหนจะเพื่อนรักที่หวังดีจนเกินเบอร์ ข้ามเส้นความเป็นเพื่อนอย่างไม่น่าให้อภัยอย่าง ‘เบญ’ (ชาเคอลีน มึ้นช์) เพราะเผือกกับชีวิตเพื่อนซะเหลือเกิน ชงเก่งชงแรงเกินพอดี จนไปหยิบเอาตัวร้ายอย่าง ‘ภควัต’ (ชนาธิป โพธิ์ทองคำ) มาชงให้เพื่อนแบบไม่รอบคอบซะงั้นน่ะ บวกกับเรื่องของ ‘สวรส’ ที่ทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่เข้าไปอีก พล็อตแตกหักและเพื่อนรักหักเหลี่ยมแสบทำนองนี้ จึงแนบชิดกับชีวิตของใครหลายคู่ และเป็นอุทาหรณ์ชั้นดีหากตั้งใจมองกันจริง ๆ

ยำใหญ่ใส่สารพัด ที่สร้างสีสันไม่น่าเบื่อ

นอกจากพล็อตรักร้าวอันเป็นฉากหน้าของละคร ที่จัดตัวร้ายหน้าใสอย่าง ‘วาววา’ มาเสิร์ฟให้คนดูในรูปแบบที่เกือบจะคุ้นเคยกันแล้ว ละครยังเสริมทัพด้วยความแรงแซงทุกตัวแสดงอย่างสองแม่ มาฟาดฟันกันชนิดที่ต้องเรียกว่า ‘รุ่นเล็กหลบไป รุ่นใหญ่เขาจะเดิน’ จนกลบรัศมีพระ-นาง ซะมิดติดเพดานไปเลยจ้ะ งานนี้ ‘แหม่ม คัทลียา’ กับ ‘แอน สิเรียม’ สวมวิญญาณแม่ที่รักลูกมาก ๆ จนเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตครอบครัวของลูกซะเกินพอดี เพราะดันรักศักดิ์ศรีของตัวเองอย่างออกหน้าออกตาจนเห็นได้ชัดเช่นกัน

มายาเสน่หา

ไอ้รักก็รักแหละ แต่หน้าบาง ๆ ของฉันจะให้ใครมาหยามก็ไม่ได้ การฟาดฝีปากอย่างถึงพริกถึงขิงจึงเกิดขึ้น จนอดสงสัยไม่ได้ว่า สองแม่ต้องกินอาหารจากสำรับเดียวกันเป็นแน่ เพราะวาจาช่างเผ็ดร้อนไม่แพ้กัน พริกสิบเม็ดที่ว่าแน่ยังแพ้แม่เลยจ้ะ ฟาดได้ฟาดแบบไม่มีใครยอมใคร เป็นมวยถูกคู่ที่ขึ้นชกกันอย่างเป็นธรรมชาติ จนอดใจรอคอยที่จะได้เห็นฉากสองแม่ปะทะกันไม่ได้จริง ๆ รอดูกว่าคู่พระนางอีกขอบอกกันไว้ตรงนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดจากแม่ลูกสองคู่ในละครเรื่องนี้ก็คือ ต่างคนต่างปล่อยให้แม่ของตัวเองฟาดฟันกันไปมาโดยไม่มีใครห้ามทัพ ช่างเข้าใจในความรักของแม่กันซะจริง เป็นลูกที่ดีจ้ะ แต่ชีวิตครอบครัวตัวเองพังพินาศ ก็ช่างมันเนอะ

มายาเสน่หา

มากไปกว่านั้นจานยำจานนี้เสริมเครื่องปรุงที่สร้างสีสันให้ละครเปลี่ยนรสมากขึ้นไปอีกด้วย การที่ให้พระเอกวิญญาณออกจากร่างจนไปเจอกับ ‘ผีสามตน’ ที่เข้ามาชูป้ายไฟอยู่ข้างพระเอกเหยง ๆ และจะมาเป็นทั้งตัวไขความลับที่ซ่อนอยู่ของใครบางคนซะอีกด้วย เป็นความเข้มข้นที่ละครใส่เข้ามาและผูกเรื่องโยงเข้ามาเกี่ยวข้องกันได้อย่างลงตัว แถมยังเป็นกุศโลบายอยู่ในที ว่าถ้าหากจะมองเรื่องนี้เป็นชีวิตจริง จะมีไหมที่ใครสักคนวิญญาณออกจากร่างแล้วพบกับความจริงบางอย่าง ที่เรามองข้ามมันไปอย่างน่าเสียดาย

มายาเสน่หา

เรื่องราวหลาย ๆ เรื่องที่เราเมื่อครั้งเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ มีทั้งวิญญาณ ร่างกายและความคิด แต่ไม่เคยฉุกคิดถึงเรื่องนี้ ไม่ว่าจะการเอาใจเขามาใส่ใจเราระหว่างสามีภรรยา การเข้าใจถึงหัวอกคนเป็นแม่ การวิเคราะห์คนข้าง ๆ อย่างรอบคอบและมีสติ ก็อย่าให้เราต้องตายไปก่อนเลยเนอะถึงจะคิดได้ และเมื่อมันเป็นละคร ‘มายาเสน่หา’ ก็เป็นละครที่มีดีและน่าดูกว่าที่คิดเยอะเลย

มายาเสน่หา

  • วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันพุธ-พฤหัสบดีเวลา 20.30 น. ทางช่อง 3 กด 33
  • รับชมย้อนหลังได้ทาง : ch3plus ทุกวันพุธ-พฤหัสบดีเวลา 00:00 น. และ Wetv ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
  • บทประพันธ์โดย : จรสจันทร์
  • บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
  • กำกับการแสดงโดย : กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
  • ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีนแอนด์พิคเจอร์ จำกัด
  • ควบคุมการผลิตโดย : ปิ่น-ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส