สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า โตโยต้า มอเตอร์ (Toyota Motor) เปิดเผยว่า บริษัทฯ กำลังจะเปิดตัวแบตเตอรี่โซลิดสเตต (Solid-State Battery) ประสิทธิภาพสูงในปี 2026 รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับรถยนต์ไฟฟ้า โดยคาดหวังว่า โตโยต้าจะกลับมาเอาชนะใจผู้บริโภคได้อีกครั้งด้วยรถยนต์ไฟฟ้าที่วิ่งได้ไกลขึ้นและชาร์จได้เร็วขึ้น

แผนการดังกล่าวถูกเปิดเผยภายในงาน Toyota Technical Workshop 2023 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 13 มิถุนายน 2023 ก่อนหน้าการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีของโตโยต้า ซึ่งนับว่ากลยุทธ์หนึ่งด้านการลงทุน เนื่องจากหุ้นของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 4.45% ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2,161 เยน ในวันดังกล่าว

ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นนั้น สะท้อนความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อแบรนด์โตโยต้า รวมถึงรายละเอียดของแผนการดังกล่าวที่นับได้ว่า “มีรายละเอียดมากที่สุด” สำหรับการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของโตโยต้า ท่ามกลางความนิยมของบริษัทฯ ที่ลดลงเรื่อย ๆ เนื่องจากการแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ร้อนแรง และโตโยต้ากำลังถูกมองว่าตามหลังคู่แข่งอยู่หลายก้าว

หนึ่งในไฮไลต์ของงานดังกล่าว คือ “ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี” ซึ่งโตโยต้าเปิดเผยว่า บริษัทฯ กำลังพัฒนาแบตเตอรี่โซลิดสเตตสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าให้มีความทนทานมากขึ้น เพื่อให้สามารถวิ่งได้ไกล 1,200 กม. ต่อการชาร์จ 10 นาที ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ Supercharger ของเทสลา (Tesla) แล้ว การชาร์จ 15 นาที สามารถวิ่งได้ไกล 321 กม. เท่านั้น

Toyota Motor Corporation (Toyota) recently held a technical briefing session, "Toyota Technical Workshop," under the theme "Let's Change the Future of Cars" and announced a variety of new technologies that will support its transformation into a mobility company.
All solid-state batteries / Toyota Motor Corporation

โตโยต้ายังระบุอีกว่า นอกเหนือจากการพัฒนาประสิทธิภาพของแบตเตอรี่โซลิดสเตตแล้ว บริษัทฯ ยังกำลังพัฒนากระบวนการผลิตแบตเตอรี่จำนวนมาก (Mass Production) ด้วย โดยคาดว่าจะมีการเปิดตัวแบตเตอรี่ดังกล่าวภายในปี 2026 และสามารถวางจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2027 – 2028

ปัจจุบัน แบตเตอรี่โซลิดสเตตมีความจุมากกว่าแบตเตอรี่อิเล็กโทรไลต์เหลว แต่แบตเตอรี่ดังกล่าวก็มีราคาสูงกว่าเช่นกัน ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์และนักวิเคราะห์ต่างมองว่า แบตเตอรี่โซลิดสเตต คือ ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเป็นที่แพร่หลาย และขจัดความกังวลหลักของผู้บริโภคในแง่ความเพียงพอของแบตเตอรี่ในการใช้งานระยะทางไกล

นอกเหนือจากความจุของแบตเตอรี่แล้ว ราคา คืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคพิจารณา โดย โตโยต้า ระบุว่า บริษัทฯ จะมุ่งผลิตรถยนต์ไฟฟ้าด้วยสายการประกอบที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง และการหล่อฉีดชิ้นส่วน (Giga Casting) นวัตกรรมการผลิตที่บุกเบิกโดยเทสลา ผู้นำรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ เพื่อลดต้นทุนการผลิตและทำให้มีราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น

Toyota Motor Corporation (Toyota) recently held a technical briefing session, "Toyota Technical Workshop," under the theme "Let's Change the Future of Cars" and announced a variety of new technologies that will support its transformation into a mobility company.
Giga Casting / Toyota Motor Corporation

สำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์นั้น โตโยต้าระบุว่า บริษัทฯ กำลังพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนประสิทธิภาพสูง ซึ่งสามารถวิ่งได้ไกล 1,000 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง โดยระยะทางดังกล่าวนั้นมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าของเทสลา (Tesla) รุ่น Model Y ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลกตอนนี้ และสามารถวิ่งได้ไกล 530 กม. ตามมาตรฐานการทดสอบของสหรัฐอเมริกา

ที่มา : Reuters, Toyota

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส