Our score
7.5

รถอีวีขนาดเล็ก เหมาะใช้งานทั่วไป คล่องตัวในเมือง

จุดเด่น

  1. รถเล็ก มีความคล่องตัว ขับขี่ง่าย
  2. มี One Paddle
  3. ปรับการควมคุมและการขับขี่ในจอเท่านั้น สะดวกดี

จุดสังเกต

  1. พวงมาลัยมีความหน่วงนิดๆ
  2. ต้องวางรีโมตให้อยู่ในตำแหน่ง ถึงจะเปลี่ยนเกียร์ได้
  • รถอีวีขนาดเล็ก เหมาะใช้งานทั่วไป คล่องตัวในเมือง

    7.5

หลังจาก Zeekr X เปิดราคาเริ่มต้น 1.199 ล้านบาท ลุยตลาดรถคอมแพกต์เอสยูวี EV ที่มีคู่แข่งสำคัญในบริษัทเดียวกัน Volvo EX30 ชูจุดเด่นด้วยการขับขี่ระยะไกล 540 กม. เราเพิ่งได้มีโอกาสขับขี่ ทดลองระบบฟีเจอร์ภายในสั้น ๆ ทั้งรุ่น Standard ขับหลัง และรุ่น Flagship ขับ 4 ล้อ ที่บอกได้เลยว่า สมราคาคำว่าพรีเมียมจริงๆ

Zeekr X ชูจุดเด่นเรื่องการดีไซน์จากการรวมหัวของครีเอทีฟ 500 คน มาช่วยกันออกแบบรถให้มีดีไซน์แตกต่างจากรถ EV จีนรุ่นอื่น ๆ ทั้งยังได้กลิ่นสแกนดิเนเวียนของบริษัทในเครือ พร้อมทั้งชูความพรีเมียมให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกสบายและออปชันจัดเต็ม โดยเฉพาะระบบความปลอดภัยทั้งในรุ่นเริ่มต้นและรุ่นท็อป

รุ่นย่อย

Zeekr X คอมแพกต์เอสยูวี มีขนาดตัวรถ 4,432 x 1,836 x 1,566 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร มีให้เลือก 2 รุ่นย่อยได้แก่ รุ่น Standard ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD กำลังสูงสุด 272 Ps แรงบิด 343 Nm แบตเตอรี่ Lithium-ion NMC ขนาด 67 kWh วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 540 km (มาตรฐาน NEDC) อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 5.6 s ความเร็วสูงสุด 180 km/h ราคา 1,199,000 บาท

รุ่น Flagship ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบปรับเปลี่ยน 4 ล้ออัตโนมัติ AWD ล้อ 20 นิ้ว พละกำลังสูงสุด 428 Ps แรงบิด 543 Nm แบตเตอรี่ Lithium-ion NMC ขนาด 67 kWh วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 470 km อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 3.8 s ความเร็วสูงสุด 180 km/h ราคา 1,349,000 บาท

Feature Mode

เราลองเล่นโหมดในรถ Zeekr X มีให้เลือกทั้ง Pet Mode ที่มีไว้สำหรับผู้ใช้รถที่เดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยง สามารถเปิดโหมดนี้ให้แอร์ทำงาน และแจ้งสถานะให้คนนอกรถรับรู้ว่าภายในรถมีสัตว์เลี้ยงอยู่ด้วย ผ่านจอดิจิทัลบริเวณเสา B กลางรถ ซึ่งจอนี้สามารถแสดงผลการชาร์จ แบตเตอรี่คงเหลือระหว่างชาร์จได้อีกด้วย

นอกจากยังมี Theatre Mode ซึ่งเป็นการปรับเบาะเอนนอนสำหรับรับชมวิดีโอผ่านทางจอดิจิทัลขนาด 14.6 นิ้ว ที่มาพร้อมชิปประมวลผล Snapdragon และระบบเสียง Yamaha กว่า 13 ตัว หลังคาพาโนรามิก พร้อมที่ชาร์จไร้สาย 50W (เฉพาะรุ่น Flagship) ไปจนถึง Car Wash Mode ที่ช่วยปิดระบบต่าง ๆ ในตัวรถ เช่น ล็อกประตูและกระจก ไม่ให้เผลอไปกดระหว่างล้างรถได้ด้วย

การขับขี่

ส่วนเรื่องการขับขี่ เราได้ไปทดสอบในสนามโกคาร์ตขนาดเล็ก ๆ ที่ IMPACT SPEED PARK จึงอาจจะไม่ได้รับรู้ฟิลลิ่งของตัวรถได้ทั้งหมด แต่ก็พอทำให้เห็นว่าการขับขี่ 2 ล้อ และ 4 ล้อของ Zeekr X ตัวรถช่วยผู้ขับขี่มากน้อยแค่ไหน โดยในสนามได้เซตอัปการทดสอบเป็นฐานต่าง ๆ ตั้งแต่ การเปลี่ยนเลนฉุกเฉิน การขับขี่บนพื้นที่เปียก สลาล่อม และการเข้าโค้ง ซึ่งตัวรถ Zeekr X ถือว่าทำได้ดีเลยทั้งรุ่นเริ่มต้นและรุ่น Flagship

หากพูดถึงการใช้งานทั่วไป การใช้ความเร็วและเค้าโค้งในโหมดขับขี่ต่าง ๆ แทบไม่ต่างกัน เรารู้สึกว่าทั้งสองรุ่นพวงมาลัยมีความหน่วงนิดๆ อาจจะไม่เหมาะกับการทดสอบในสนามแคบ ๆ อย่างโกคาร์ต ทำให้ตอบสนองได้ไม่ทันใจเท่ากับรถที่ออกแบบมาเป็นรถแข่ง แต่สำหรับการใช้ทั่วไป ขับขี่ในเมืองค่อนข้างสบายเลย อาจจะต้องปรับความเคยชินกับพวงมาลัยทรงสี่เหลี่ยมนิดหน่อย แต่พอชินแล้วก็สามารถเข้าโค้งได้แม่นยำขึ้น

ส่วนเรื่องระบบการขับขี่รุ่น Flagship จะได้เปรียบในเรื่องการขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในยามเข้าโค้ง ทั้งบนพื้นที่เปียกก็เอาอยู่ หรือเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง (หากเข้าด้วยความเร็วสูงเกินไปตัวรถจะตัดกำลังลงให้สามารถเข้าโค้งได้อย่างปลอดภัย) ซึ่งเราลองทดสอบเติมคันเร่งเข้าไประหว่างเข้าโค้งให้ท้ายปัด ตัวรถก็ตัดกำลังลงจริงๆ แบบเอาอยู่

ส่วนเรื่องฟังก์ชัน Zeekr X จะทำงานคล้าย ๆ Volvo คือยกการควบคุมรถทั้งหมดไปไว้ในจอ รวมถึงมี One Paddle ควบคุมคันเร่งด้วยแป้นเดียว ซึ่งคนที่ชอบก็จะชอบเลย เพราะว่ามันสะดวกดี แต่ถ้าคนที่ไม่เคยใช้อาจจะต้องใช้ความเคยชินสักหน่อย การควมคุมต่าง ๆ ทำได้ง่าย เพียงแค่ปัดหน้าจอลงมาด้านล่าง ก็จะสามารถตั้งค่าของตัวรถได้ หรือกดเข้าไปที่รูปตัวรถด้านขวาล่างของจอก็จะสามารถปรับการขับขี่ของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นโหมดขับขี่ พวงมาลัยหรือช่วงล่างได้ตามต้องการนั่นเอง เ

ราว่า Zeekr X เป็นรถที่ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไป มีความคล่องตัวสมกับขนาดคอมแพค และมีฟีเจอร์ครบครัน ออปชันพรีเมียม เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมาก ๆ ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าตอนนี้เลย