Samsung Galaxy A Series นั้นเป็นซีรี่ส์รุ่นกลาง สเปคแรงแต่คุ้มค่า ของทางซัมซุงมาอย่างยาวนานกว่า 7 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2015 ที่มีการเปิดตัว Samsung Galaxy A5 และ Galaxy A7 เลย และในวันนี้ แพนก็มาพร้อมนี่ครับ Samsung Galaxy A53 5G สมาร์ตโฟนซีรี่ส์ A รุ่นใหม่ล่าสุดจากทางซัมซุง แล้วรุ่นนี้จะสเปคโหด และคุ้มค่าเหมือนกับที่ผ่าน ๆ มาไหม วันนี้แพนจะมาแบไต๋ให้ทุกคนดูกัน

ดีไซน์

เรามาเริ่มกันที่ดีไซน์รอบตัวเครื่องกันก่อนเลย Samsung Galaxy A53 5G นั้นมีดีไซน์ฝาหลังแบบด้านทั้งแผ่นฝาหลัง โดยมีสโลปตรงบริเวณกล้องถ่ายภาพ ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมมากเลยครับ

สีที่แพนถืออยู่นี้คือสี Awesome Black แต่ไม่ได้มีสีเดียวนะครับ ยังมีสีฟ้า Awesome Blue และสีไฮไลท์ใหม่ล่าสุดอย่าง Awesome Peach สีพีชนวล ๆ อีกด้วย ความบางของตัวเครื่องอยู่ที่ 8.1 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องก็อยู่ที่ กรัม แม้ว่าอาจจะดูหนักไปซักเล็กน้อย แต่จากการจับถือแล้วรู้สึกได้ถึงความหนักแน่นของงานประกอบที่ดี

กล้องถ่ายภาพ

ทางด้านกล้องถ่ายภาพก็เรียกได้ว่ามีการจัดวางตัวกล้องที่ดูดีตามสไตล์ของซัมซุง ซึ่ง Samsung Galaxy A53 5G นั้นมาพร้อมกล้องถ่ายภาพถึง 4 ตัวเลย โดยเลนส์ด้านบนเป็นเลนส์มุมกว้างขนาด 12 ล้านพิกเซล f/2.2 ถัดลงมาเป็นเลนส์หลักขนาด 64 ล้านพิกเซล พร้อมกันสั่น OIS f/1.8 ถัดลงมาด้านล่างเป็นเลนส์วัดระยะ เป็นสีขาว-ดำ และเลนส์สุดท้ายทางขวานี้คือเลนส์มาโครครับ

การถ่ายภาพทั่วไปของ Samsung Galaxy A53 5G นั้นถือว่าทำได้ดีมาก เมื่อตั้งค่าให้ถ่ายอัตโนมัติ พร้อมเปิดฟีเจอร์ Scene Optimizer แล้ว ภาพถ่ายที่ถ่ายออกมาก็จะได้สีที่สวยงามมากเลย และแม้จะถ่ายเข้าไปในดวงไฟตรง ๆ ภาพที่ออกมาก็ยังแสดงภาพที่ชัดเจนเช่นกันครับ

โดยปกติแล้ว ภาพที่ถ่ายมาได้นั้นเป็นภาพที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แต่ถ้าเราอยากจะถ่ายภาพมี่มีรายละเอียดเยอะ ๆ แนะนำให้เปิดโหมดความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ภาพที่ถ่ายมาก็จะมีความละเอียดมากขึ้นด้วย และด้วยกันสั่นที่เป็นแบบ OIS ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาชัดเจน ไม่ต้องกลัวเบลอเลยครับ

มาต่อกันที่การถ่าย Portrait Mode กันบ้างครับ การถ่ายภาพบุคคลนั้นถือว่าทำได้ดีไม่แพ้รุ่นเรือธงเลย มีการตัดพื้นหลังออกมาได้อย่างดี แถมยังสามารถเปลี่ยนเอฟเฟคการเบลอหลังจากถ่ายรูปเสร็จได้หลากหลายรูปแบบอีกด้วย

โดยแต่ละโหมดของการเบลอก็จะให้อารมณ์ที่แตกต่างกันไป เดี๋ยวแพนจะให้ทีมงานโชว์ภาพของการเบลอแต่ละโหมดไว้ให้ดูกันด้วย อย่างเช่น Artistic ที่จะสร้างโบเก้จากไฟบนพื้นหลัง และ Color Point ที่จะแยกตัวคนออกจากพื้นหลัง และทำพื้นหลังเป็นสีขาวดำ

Samsung Galaxy A53 5G มีช่วงซูมเริ่มมุมกว้าง x0.5 เท่า โดยใช้เลนส์มุมกว้าง แม้คุณภาพภาพยังด้อยกว่าเลนส์หลักอยู่บ้าง แต่มีข้อดีที่สีของภาพนั้นออกมาดีเหมือนกัน ทำให้ถ่ายภาพมุมกว้างหวังผลได้เหมือนกล้องหลัก ส่วนการซูม 2 เท่า ใช้การครอปภาพจากกล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล รายละเอียดภาพจึงยังดีอยู่

ส่วนเลนส์มาโคร สามารถถ่ายได้ในระยะ 3 – 5 เซนติเมตร โดยยังมีรายละเอียดที่ดี แต่สีอาจต่างจากกล้องหลักพอสมควร ถ้าต้องการภาพที่สีที่สดใส แพนแนะนำว่าให้ใช้การถ่ายภาพธรรมดาจะดีกว่าครับ

สำหรับการถ่ายภาพกลางคืน สามารถถ่ายภาพเวลากลางคืนผ่านโหมด Night Shot ได้ดีเลย ถ่ายได้สว่าง และเก็บรายละเอียดในที่มืดได้ดี ใช้เวลาในการถ่ายไม่นานด้วยครับ

กล้องหน้า

ส่วนกล้องหน้าของ Galaxy A53 5G นั้นเป็นกล้องหน้าแบบเจาะรูตรงกลางบนของหน้าจอ ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.2 ครับ แต่เวลาถ่ายจะได้ภาพที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่านั้นนะครับ

ภาพถ่ายที่ได้จากกล้องหน้านั้นมีลูกเล่นในโหมด Portrait ที่มากพอ ๆ กับกล้องหลังเลย มีโหมดการเบลอมากถึง 8 แบบ เดี๋ยวแพนจะให้ทีมงานเอาภาพจากกล้องหน้าขึ้นมาด้วยครับ

และ Samsung Galaxy A53 5G นี้ยังเป็น 1 ในสามาร์ตโฟนในเรทราคาหมื่นกลาง ที่สามารถบันทึกภาพถ่ายเป็นไฟล์ HEIF และบันทึกวิดีโอเป็นไฟล์ HEVC ซึ่งเป็นไฟล์แบบเดียวกับใน iPhone ที่ประหยัดพื้นที่ในเครื่องกว่าแบบธรรมดาด้วย แต่บางโปรแกรมจะเปิดไม่ได้นะครับ

ถ่ายวิดีโอ

แต่ก่อนจะไปที่เรื่องของวิดิโอ แพนอยากจะพูดถึงอีก 1 ความสามารถของ Galaxy A53 5G นี้ก่อน เพราะว่ามัน ‘กันน้ำได้ด้วย !’ โดยมีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 หรือสามารถลงน้ำจืดลึกได้ไม่เกิน 1 เมตร นานไม่เกิน 30 นาที

เพื่อที่จะทดสอบทั้งการกันน้ำนี้ และการทดสอบวิดีโอ ในช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์แล้ว แพนขอทดสอบกับสถานการณ์จริงที่จะเกิดในช่วงสงกรานต์เลยก็แล้วกันครับ

มาต่อที่วิดีโอกล้องหน้ากันบ้าง วิดีโอกล้องหน้าที่ความละเอียด 4K 30fps ครับ ซึ่งกล้องหน้าสามารถถ่ายที่ความละเอียด 1080p 60fps ด้วย คุณภาพของภาพก็ตามที่เห็น จะเห็นได้ว่าแม้จะอยู่กลางน้ำขนาดนี้ แต่ก็ยังสามารถถ่ายวิดีโอได้ปกติเลยครับ

หน้าจอ

หลังจากที่เราไปลองเล่นน้ำ เอ้ย ลองถ่ายวิดีโอกันไปแล้ว เครื่องใช้ได้ดีเป็นปกติเลย แต่เปียกน้ำแล้วอย่าลืมทำเครื่องให้แห้งก่อนจะชาร์จแบตด้วยนะ เพื่อความปลอดภัย

มาต่อกันที่เรื่องหน้าจอเลยครับ จอของ Galaxy A53 5G เป็นหน้าจอ Super AMOLED ความละเอียด Full HD+ Refresh Rate 120Hz ขนาด 6.5 นิ้ว ภาพที่แสดงผลในจอสีสันสดใส นุ่มนวลสุด ๆ แถมจอยังเป็นจอแบบเรียบ ขอบจอบางและเสมอกันหมดอีกด้วยครับ ซึ่งจอนี้ก็มาพร้อมกับเซนเซอร์สแกนนิ้วแบบแสงใต้หน้าจอด้วย สแกนนิ้วได้เร็วใช้ได้เลย

ส่วนการแสดงภาพใน Youtube นั้นรองรับแค่ Full HD เท่านั้น ไม่รองรับการแสดงผล HDR นะครับ ใน Netflix ก็เช่นเดียวกัน สามารถรับชมได้แบบ Full HD เท่านั้น

ลำโพง – ช่องหูฟัง

ทีนี้เรามาดูรอบตัวเครื่องกันบ้างครับ Samsung Galaxy A53 5G นั้นมีลำโพงแบบสเตอริโอครับ มีด้านล่างตรงนี้ กับด้านบนครับ ตัวลำโพงจะซ่อนอยู่ในร่องเล็ก ๆ เหนือกล้องนี้ครับ ซึ่งรุ่นนี้มาพร้อมกับ Dolby Atmos ที่จะให้เสียงที่มีมิติมากขึ้น เหมาะกับการดูหนัง ดูคอนเทนต์ของแบไต๋มากเลยครับ

ด้านล่างของตัวเครื่องก็จะมีนี่ครับ ช่องสำหรับใส่ซิมแบบ Hybrid คือใส่ 2 ซิม หรือ 1 ซิมและ SD Card นั่นเองครับ และด้านข้างก็จะเป็นพอร์ต USB Type C ที่สามารถชาร์จได้สูงสูด 25W เลยครับ ด้วยอแดปเตอร์ชาร์จของซัมซุงเอง หรืออแดปเตอร์ชาร์จที่รองรับการชาร์จแบบ PD ก็ได้ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ของ Galaxy A53 5G ทั้ง 5,000 mAh ได้อย่างรวดเร็วเลยครับ แต่ว่าไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม. นะครับ

สเปก

Samsung Galaxy A53 5G มาพร้อม CPU ตัวใหม่ล่าสุดจากทางซัมซุง Exynos 1280 Octa-Core 2.4 Ghz 2 คอร์ และ 2.0 Ghz 6 คอร์ เทคโนโลยี 5nm ประหยัดแบตเตอรี่กว่าเดิม มีแรม 8GB พร้อมฟีเจอร์ Ram Plus ที่เพิ่มแรมได้อีกสูงสุด 8 GB ด้วยนะครับ

ทั้งนี้ เครื่องที่ทางแบไต๋ได้รับมานั้นเป็นเครื่อง Pre-Production ที่มีแรมแค่ 6GB เลยทำให้เพิ่มแรมได้แค่ 6GB และผลคะแนนที่ได้นั้นอาจจะแตกต่างกับเครื่องที่วางขายครับ

โดยผลการทดสอบจาก Geekbench 5 ได้คะแนน Single Core อยู่ที่ 732 คะแนน และ Multi Core ที่ 1829 คะแนน ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงใกล้เคียงกับ Snapdragon 845

ด้านผลการทดสอบกราฟิกด้วย 3Dmark ชุด Wildlife Stress Test ที่ทดสอบต่อเนื่อง 20 นาที ก็ทำคะแนนสูงสุดที่ 2,289 คะแนน และต่ำสุดอยู่ที่ 1,981 คะแนน มีความนิ่งของคะแนนอยู่ที่ 86.5% ซึ่งถือว่านิ่งประมาณนึงเลย

สำหรับการเล่นเกมแล้ว ในเกม PUBG New State สามารถปรับกราฟิคได้สูงสุดที่ Ultra เฟรมเรท Max และยังสามารถเล่นได้แบบชิว ๆ ลื่น ๆ จนจบแมทช์ได้เลยครับ

ส่วนเกมที่ใช้สเปคสูงอย่าง Genshin Impact นั้นปรับสูงสุดแล้ว ยังพอเล่นได้ แต่เฟรมเรทไม่สูงมาก โดยเฉพาะในฉากต่อสู้ที่อาจจะกระตุกจนเราแนะนำให้ปรับคุณภาพภาพเป็นระดับ ต่ำ ก็จะเล่นได้ลื่นกว่าครับ

หลังจากที่ได้ลองเล่นเกมมาแล้ว ก็พบว่าปัญหาเรื่องเครื่องร้อนแล้วทัชจอไม่ติดที่เคยมีคนบ่นกันนั้นหายไปแล้ว นอกจากนี้เครื่องเวลาเล่นเกมก็แค่อุ่น ๆ ด้วยนะครับ ถือเล่นได้ยาว ๆ เลย

ข้อสังเกต

  • ต่อมาจะเป็นข้อสังเกต ที่ทางแบไต๋นำมาฝากคุณผู้ชมเสมอ เริ่มตั้งแต่ด้วยความที่ฝาหลังเป็นพลาสติกเงา ทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย แต่เช็ดออกง่าย และสามารถใส่เคสแก้ได้
  • ภาพถ่าย Portrait Mode นั้นสามารถถ่ายได้ระยะเดียวเท่านั้น และจะต้องจับให้เห็นตัวบุคคลก่อนถึงจะถ่ายได้
  • เนื่องจากใช้ CPU รุ่นใหม่อย่าง Exynos 1280 เลยทำให้ประสิทธิภาพของบางเกมยังไม่ดีมากนัก คาดว่าทางซัมซุงน่าจะมีการแก้ไขเรื่องนี้ในอนาคต

ราคา

และรีวิวที่ดีต้องมี ราคาครับ Samsung Galaxy A53 5G นั้นมีราคาอยู่ที่ 14,499 บาท สำหรับเครื่องแรม 8GB ความจุ 128GB เรียกได้ว่าตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบถ้วนทุกมุม ในราคาที่จับต้องได้ และแพนยังมีโปรโมชันมาบอกทุกคนอีกด้วย ซึ่งเป็นโปรโมชั่นที่คุ้มมากครับ รายละเอียดด้านล่างคลิปเลยครับ !