โน้ตบุ๊ก Lenovo Legion นั้นจัดว่าเป็นโน้ตบุ๊กตัวแรงของเกมเมอร์มาโดยตลอด ทางแบไต๋ก็ได้รีวิวมาแล้วทั้ง Lenovo Legion 7i และ Legion Slim 7 คราวนี้เรามาอยู่กับ Lenovo Legion 5 รหัส 82NW0030TA ที่ทั้ง CPU และการ์ดจอเป็นของ AMD ! โอ้โห AMD คู่แบบนี้ก็ต้องเร็วแรงคู่กันไปเลยสิครับ ! แล้วมันจะเร็วแรงขนาดไหน เล่นเกมได้ดีไหม วันนี้ผมหนุ่ย-พงศ์สุข แบไต๋ให้ได้รู้กันทั้งหมดครับ

สเปก

ก่อนจะไปดูประสิทธิภาพของตัวเครื่อง ผมขออธิบายส่วนสำคัญอย่างสเปกกันก่อนเลย เพราะว่าโน้ตบุ๊กเครื่องนี้มีสเปคแบบ A+A กับ CPU AMD Ryzen7 5800H และการ์ดจอ AMD Radeon RX6600M โดยมีแรมในตัวแบบ GDDR6 ให้ถึง 8GB เลย และยังมี MAX TGP หรืออัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าสูงสุด 100W ด้วยนะครับ

เมื่อทั้ง CPU และการ์ดจอของ AMD ได้มารวมกันในเครื่องเดียว ก็จะยิ่งทำให้ประสิทธิภาพนั้นทรงพลังสุด ๆ ด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ AMD Advantage อย่างเช่น

  • AMD Smart Shift : ระบบถ่ายเทพลังงานอัจฉริยะระหว่าง CPU และ การ์ดจอ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานหรือเล่นเกมได้สูงถึง 15%
  • AMD Smart Access Memory : เทคโนโลยีการเข้าถึง RAM ในการ์ดจอได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มเฟรมเรทได้สูงสุด 11-15%
  • Radeon Chill – Feature ช่วยประหยัดพลังงานและควบคุมอุณหภูมิบนตัวการ์ดจอ โดยสามารถล็อคค่า FPS มาก-น้อยได้ตามต้องการ ช่วยยืดอายุการใช้งานของการ์ดจอได้เป็นอย่างดี

โดยผลทดสอบด้านกราฟิกจาก 3DMark ชุด Time Spy ก็ทำคะแนนได้ไป 7,798 คะแนน ส่วนการทดสอบ Ray Tracing ด้วย Port Royal ก็ได้คะแนนไป 3,820 คะแนน เรียกว่าอยู่ในระดับที่สูงพอจะเล่นได้หลาย ๆ เกมเลยครับ

Lenovo Legion 5 เครื่องนี้มีแรมขนาด 16GB DDR4 สามารถอัปเกรดได้สูงสุด 64GB ครับ รวมถึงมี SSD M.2 nVME PCIe 3.0 ขนาด 512 GB มาด้วย ผลการทดสอบจาก CrystalDiskMark ได้คะแนนการเขียนไป 3,590 MB/s และการเขียนที่ 3,062 MB/s และยังมีช่อง M.2 เพิ่มได้อีก 1 ช่อง

ทางด้านหน้าจอก็ถือว่าจัดเต็มมาเช่นเดียวกัน กับจอขนาด 15.6 นิ้วความละเอียดสูงถึง WQHD (2560×1440) หรือ 2K 165 Hz มีการแสดงผลสีแบบ 100% sRGB ซึ่งเหมาะกับการทำกราฟิกด้วย รวมถึงยังมี Dolby Vision และ Dolby Atmos ที่ทำให้ภาพ และเสียงเวลาดูหนังดูดีขึ้นด้วยครับ

เริ่มต้นด้วยเกมที่รองรับฟังก์ชันพิเศษอย่าง AMD FidelityFX™ Super Resolution ที่จะช่วยเพิ่มความละเอียดของภาพ แะช่วยเพิ่ม FPS ได้ อย่างเกม Horizon Zero Dawn กันครับ โดยตั้งค่าปรับสูงสุด Ultimate และเปิด FidelityFX Super Resolution ระดับคุณภาพสูงสุด ที่ความละเอียด 2K จะเล่นได้ประมาณ 60 FPS

ต่อด้วยสุดยอดเกมแห่งปี 2021 กับเกม Resident Evill Village ครับ เกมนี้นอกจากจะรองรับ AMD FidelityFX™ แล้วยังรองรับ AMD FreeSync™ ที่ช่วยให้เล่นเกมได้แบบไม่เกิดอาการ Screen Tearing หรืออาการภาพขาดจากการที่จอรีเฟรชไม่ทันกับเกมนั่นเองครับ โดยเราจะตั้งค่าพรีเซ็ตที่สูงสุด และเปิด FidelityFX Super Resolution ระดับคุณภาพสูงสุดเลยด้วยครับ สามารถเล่นที่ความละเอียด 2K ได้นิ่ง ๆ ที่ 90-110 FPS ครับ

และเกมสุดท้ายที่ค่อนข้างใช้สเปคเครื่องเยอะหน่อยอย่าง Rise of the Tomb Raider ครับ โดยได้ปรับสูงสุด ความละเอียด Full HD สามารถเล่นได้ประมาณ 45-60 fps

จริง ๆ ทางกองบรรณาธิการได้ไปลองเล่นเกมอื่นอย่าง Civilization 6 ที่ขึ้นชื่อว่าจะแลคเมื่อเล่นไปไกล มีเมืองตั้งมาก ๆ แล้ว บอกเลยว่าเล่นได้ลื่นไหลมาก ๆ 60 – 70 FPS

คราวนี้มาลองการใช้งานตัดต่อกันบ้างครับ ไฟล์นี้คือโปรเจกต์ Premiere Pro ความละเอียด 4K 50fps เลยครับ แต่ว่ายังไม่สามารถ playback เต็ม ๆ ได้นะครับ แอบกระตุกอยู่บ้าง ต้องทำการ Proxy ก่อน ส่วนการ Render คลิปนี้ 5 นาทีเศษ ก็จะใช้เวลาประมาณ 8 นาที 22 วินาทีเท่านั้นเองครับ ยังสู้ไหวแม้กระทั่ง 4K เลยนะ !

ดีไซน์

เล่าเรื่องประสิทธิภาพกันเต็ม ๆ ไปแล้วมาดูที่การดีไซน์ของตัวเครื่องกันบ้าง โน้ตบุ๊กเกมมิ่งเครื่องนี้มีดีไซน์ที่เหมาะทั้งสำหรับการทำงานและเล่นเกมเลย ดีไซน์เป็นแบบเรียบหรู สีที่ได้มาเรียกว่าสี Phantom Blue ครับ ส่วนฝาหลังก็ปล่อยโล่ง มีแค่คำว่า Legion ด้านบนซ้าย รุ่นนี้ไม่มีไฟนะครับ และ Lenovo บริเวณด้านล่างขวาเท่านั้น มีช่องปล่อยลมร้อนออกทั้งด้านซ้าย และขวา

แม้ว่าดีไซน์จะไม่ได้แตกต่างจากรุ่นของปีที่แล้วมากนัก แต่ว่าจุดที่แตกต่างชัดเจนคือนี่เลยครับ (สไลด์ปิดกล้อง) แทนที่จะเป็นการสไลด์ปิดกล้องแถวจอ รุ่นนี้สไลด์ปิดจากด้านข้างตัวเครื่องได้เลย สะดวกจริง ๆ (สไลด์เปิดกล้อง) และนี่คือภาพและเสียงจากกล้อง และไมค์ของ Lenovo Legion 5 ครับ จะได้ประมาณนี้เลย

ส่วนบริเวณคีย์บอร์ดก็เป็นแบบ Full Sized หรือมีปุ่มครบทุกปุ่ม รวมถึง Numpad ให้กดใช้ง่าย ๆ ด้วยครับ ส่วนที่ผมชอบมากก็คือ ปุ่มลูกศรเป็นขนาดเต็มเท่ากับปุ่มอื่น ๆ ซึ่งเหมาะกับการเล่นเกมที่ใช้การบังคับด้วยปุ่มลูกศรมากครัีบ

บริเวณท้ายตัวเครื่องก็จะเป็นช่องรับลมเย็นเข้าเพื่อระบายความร้อน จะรับลมเข้าทั้งจากด้านล่างและหลัง ซึ่ง Legion 5 รุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยี Coldfront 3.0 ซึ่งจะช่วยให้เล่นเกมได้ยาวนานมากขึ้นได้โดยไม่ร้อนมากด้วยครับ

มาดูรอบเครื่องกันต่อเลยครับ ส่วนที่ผมชอบที่สุดคงจะเป็นด้านหลังของตัวเครื่องครับ ที่เพียงแค่มองด้านหลังก็จะเห็นพอร์ตสำคัญเขียนเอาไว้หมดเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นช่องสำหรับชาร์จแบต พอร์ต USB USB-A 3.2 Gen 2 ถึง 3 พอร์ต พอร์ต HDMI พอร์ต LAN และ USB-C 3.2 Gen 2 ที่สามารถใช้เป็นทั้ง Display Port และ พอร์ต PD เลย พอร์ตพวกนี้ใช้งานบ่อย เวลาใช้ก็จะไม่รำคาญเวลาใช้เมาส์เลยครับ

ต่อมาก็จะเป็นด้านซ้ายของตัวเครื่อง จะมี พอร์ต USB-C 3.2 Gen 2 1 ช่อง และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ส่วนทางขวาจะมีแค่พอร์ต USB-A 3.2 Gen 2 1 ช่อง ซึ่งเรียกได้ว่าให้กันมาอย่างจุใจเลย ขาดก็เพียงแค่ช่องเสียบ SD Card ก็เท่านั้นเอง แต่ว่าก็หา Dongle มาต่อเพิ่มได้ครับ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สาย ก็เป็น WiFi-6 ของ Realtek พร้อมกับ Bluetooth 5.2 ที่รับส่งข้อมูลได้รวดเร็วด้วย

ซอฟต์แวร์ที่มีมาให้ในเครื่องก็จะเป็น Windows 11 Home เลยครับ มาพร้อมกับโปรแกรม Lenovo Vantage ซึ่งใช้ตรวจสอบการใช้งานเครื่อง รวมถึงตั้งค่าภายในเครื่องได้เลยด้วย มีฟีเจอร์เด็ดก็คือ Hybrid Mode ซึ่งเมื่อปิดแล้ว ก็จะปิดการทำงานการ์ดจอออนบอร์ดในเครื่อง และตัดไปใช้การ์ดจอแยกตัวแรง RX6600M แบบ 100% เลย เปิดแล้วจะเล่นเกมได้ดีขึ้นแน่นอน แต่ต้องแลกมาด้วยแบตเตอรี่หน่อยน้า

ข้อสังเกต

เรามาต่อกันที่ข้อสังเกตกันดีกว่าครับ ต้องบอกเลยว่า Lenovo Legion 5 เครื่องนี้มีความคุ้มค่าอย่างมาก หาข้อสังเกตได้ยากมากเลย น่าเสียดายที่คีย์บอร์ดของ Legion 5 มีแต่ไฟสีขาวอย่างเดียว ถ้าเป็นไฟ RGB น่าจะโดนใจเกมเมอร์มากกว่านะครับ กับอีกเรื่องคือความจุที่มีให้มาแค่ 512GB เท่านั้น แต่ยังดีที่สามารถอัปเกรดได้ในอนาคตครับ

รีวิวที่ดีต้องมีราคา

สำหรับค่าตัวของ Lenovo Legion 5 สเปค AMD Ryzen 7 5800H และการ์ดจอ AMD Radeon RX6600M อยู่ที่ 44,990 บาทครับ ได้ประกันแบบ Onsite 3 ปีด้วย โน้ตบุ๊กเกมมิ่งที่เล่นได้ขนาดนี้ จอดีขาดนี้ แล้วยังมีโปรโมชันมาบอกทุกคนด้วยนะครับ สำหรับ 250 ออเดอร์แรก รับฟรี Super Gaming Pack มูลค่ารวม 6,900 บาท เป็นโต๊ะ และเก้าอี้จากทาง Legion x AMD เลยครับ ได้ครบเซ็ตขนาดนี้จะรออะไรกันละครับ ลุย !