แบไต๋พาไปชมงาน ‘GrabNEXT Forum : ยกระดับประเทศไทย เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ โดย Grab เปิดพื้นที่เวทีเสวนาในการหารือเชิงนโยบายอย่างสร้างสรรค์ เพื่อตั้งคำถามถึงรูปแบบการทำงานในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน และคนไทยจะได้ประโยชน์อะไรจากเทคโนโลยีเหล่านี้?

ภายในงานมีการพูดคุยถึงประเด็นเรื่องรูปแบบการทำงานแห่งโลกยุคใหม่ (Future of Work) เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสร้างรายได้ผ่านแพลตฟอร์มของ Grab อย่างเท่าเทียมและยั่งยืน ผ่านโมเดล “5อ.”

  • “อิสระ” ในการจัดสรรเวลาทำงาน เพียงแค่มียานพาหนะ มีใจรักบริการ และพร้อมรับสิ่งใหม่ๆ
  • “อบรม” เพื่อพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ของพาร์ตเนอร์คนขับทุกคน
  • “อยู่ร่วมกัน” บนแพลตฟอร์มของ Grab โดยไม่จำกัดเพศ วัย การศึกษา หรือแม้แต่ผู้ที่มีข้อจำกัดทางด้านร่างกาย เช่น คนพิการทางการได้ยิน ก็สามารถสมัครเป็นพาร์ทเนอร์คนขับได้
  • “อุ่นใจ” สิทธิพิเศษจาก Grab เพื่อให้พาร์ทเนอร์ของเราได้ขับขี่บนท้องถนนอย่างมั่นใจกว่าเคย
  • “อดออม” ส่งเสริมเรื่องการออมให้พาร์ทเนอร์คนขับเติบโตอย่างยั่งยืน

แล้วเทคโนโลยี เข้ามามีบทบาทอย่างไรในการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำธุรกิจ เราเห็นเทคโนโลยีช่วยให้คนไม่ต้องต่อคิวร้านอาหาร เราเห็นเทคโนโลยีช่วยให้การจ่ายเงินง่ายขึ้นโดยไม่ต้องควักกระเป๋าสตางค์ออกมา Grab เองก็เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ใครหลาย ๆ คนเข้าถึงเทคโนโลยี ผ่านแคมเปญต่าง ๆ รวมถึงสอดแทรกความรู้และสนับสนุนเงินทุน เช่น GrabAcademy แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ ที่ช่วยสอนเทคนิคและเคล็บลับให้กับพาร์ทเนอร์คนขับและร้านค้า เพื่อยกระดับการให้บริการดียิ่งขึ้น หรือ Grabการเงิน บริการทางการเงินที่เข้าถึงง่าย เพื่อให้ทุกการเดินทางและการค้าขายราบรื่นยิ่งขึ้นนั่นเองครับ

Grab ยังคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม เพราะถ้าเราไม่รักษาสิ่งแวดล้อม แล้วคนรุ่นหลังจะได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้ได้อย่างไร ซึ่งนวัตกรรมและเทคโนโลยีนี่เอง จะสามารถสร้างทั้งผลกำไรและการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคมที่ยั่งยืนได้ ทั้งนี้ต้องใส่ใจดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่ออนาคตของคนรุ่นต่อไปด้วย

นี่แหละครับอนาคตที่ Grab ตั้งใจอยากจะยกระดับประเทศไทย เพื่อชีวิตคนไทยที่ดีกว่า ติดตามความเคลื่อนไหวของ GrabNEXT ที่เว็บไซต์ https://www.grab.com/th/grabnext/ ได้เลย