วันนี้แพนอยู่กับ OnePlus Nord 2T 5G สมาร์ตโฟนรุ่นกลางจาก OnePlus ที่โดดเด่นด้านสเปกที่เร็วแรง ถูกใจเกมเมอร์ ในราคาที่สบายกระเป๋า และวันพลัสเขาก็บอกว่า OnePlus Nord 2T 5G ได้อัปความแรงจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง OnePlus Nord 2 ที่พี่หนุ่ยเคยรีวิวไว้ด้วย แล้วรุ่นนี้จะแรงสมคำร่ำลือหรือไม่ แพนแบไต๋ให้ดูครับ !

สเปก

มาดูสเปกตัวเครื่องกันก่อนเลย OnePlus Nord 2T 5G รุ่นนี้ใช้ CPU MediaTek Dimensity 1300 ซึ่งเป็น CPU ที่รองรับ 5G รุ่นกลางค่อนสูงตัวใหม่ล่าสุดของทาง MediaTek ที่เร็วแรงยิ่งกว่าเดิม แล้วก็ยังมาพร้อมแรม 8 GB และหน่วยความจำ 128 GB ครับ

ทีนี้ ถ้าคุณผู้ชมลองกางสเปกกระดาษมาเทียบกับรุ่นที่แล้ว ปรากฏว่า อ้าว ทั้ง Dimensity 1300 และ Dimensity 1200 – AI ใน OnePlus Nord 2 เขาใช้ CPU สถาปัตยกรรมเดียวกัน เป็น ARM Cortex A78 และ ARM Cortex A55 เหมือนกันเลยนี่นา แล้วยังใช้ GPU Mali-G77 เหมือนกันด้วย แล้วมันดีขึ้นยังไงล่ะเนี่ย คือแบบนี้ครับ CPU Dimensity 1300 เขาใช้เทคโนโลยี MediaTek HyperEngine 5.0 ที่ทำให้เล่นเกมได้ลื่นขึ้น ส่วน Dimensity 1200 ได้แค่เวอร์ชัน 3.0 เท่านั้นครับ

เราลองดูผลคะแนนบ้างครับ เมื่อทดสอบ CPU บน Geekbench 5 ได้คะแนน Single Core อยู่ที่ 752 คะแนน และ Multi Core ที่ 2,719 คะแนน ถ้าเทียบกับ Dimensity 1200 – AI ใน OnePlus Nord 2 แล้วจะได้คะแนน Single Core 803 คะแนน และได้คะแนน Multi Core 2,636 คะแนน แม้คะแนน Single Core จะน้อยกว่าอยู่บ้าง แต่โดยภาพรวมแล้วแรงขึ้นเล็กน้อย ส่วนถ้าเปิด Performance Mode ที่เร่งความเร็วแรงแบบสุด ๆ ผลที่ได้ก็ตามกราฟเลยครับ บอกเลยว่าทำได้ดีกว่า OnePlus Nord รุ่นที่แล้ว ในระดับราคาที่ดีกว่าด้วยนะครับ

ส่วนการทดสอบด้านกราฟิกบน 3Dmark ชุด Wildlife Stress Test ที่ทดสอบกราฟิกต่อเนื่องไป 20 นาที ก็ทำคะแนนสูงสุดที่ 4,601 คะแนน และต่ำสุดอยู่ที่ 4,568 คะแนน ความนิ่งของคะแนนอยู่ที่ 99.3 % ตรงนี้แพนบอกเลยว่านิ่งมากๆ แม้เครื่องจะอุ่น ๆ ร้อน ๆ หน่อย แต่คะแนนยังนิ่งอยู่ครับ ซึ่งถ้าเทียบ OnePlus Nord 2 ทำคะแนนสูงสุดที่ 4,169 คะแนน และต่ำสุดอยู่ที่ 2,895 คะแนน ความนิ่งของคะแนนอยู่ที่ 69.4 % จะเห็นว่ารุ่นใหม่ขยับขึ้นมาพอสมควรเลยครับ แถมยังนิ่งขึ้นด้วย

เมื่อทดสอบการเล่นเกมกับ Genshin Impact เราได้ตั้งค่าสูงสุด และปรับเฟรมเรตไว้ที่ 60 FPS ตัวเครื่องแจ้งว่าสามารถทำเฟรมเรตได้ที่ 40 – 50 FPS เลย แม้เครื่องจะร้อน เฟรมเรตก็จะอยู่ประมาณ 40 แบบไม่ตกครับ สำหรับมือถือรุ่นกลาง ถือว่าอยู่ในระดับที่เล่นได้เลยครับ

นอกจากนั้นยังมี Gaming Mode ที่จะบล็อคการแจ้งเตือนต่าง ๆ ไม่ให้ขึ้นมาบดบังเวลาเล่นเกม และยังได้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีด้วยระบบ Haptics 2.0 ระบบสั่นเบา ๆ เพื่อตอบสนองทั้งการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมให้สนุกขึ้นได้ด้วย

การถ่ายภาพ

สำหรับการถ่ายภาพ OnePlus Nord 2T 5G เครื่องนี้มีเลนส์หลักขนาด 50 ล้านพิกเซล f/1.89 ที่มาพร้อมกันสั่นแบบ OIS เป็นเซนเซอร์ของโซนี่ IMX76689 ครับ ข้าง ๆ ก็จะเป็นไฟแฟลช LED แบบคู่ ส่วนวงกลมถัดลงมานี้จะมีเลนส์มุมกว้างขนาด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 ที่สามารถถ่ายได้มุมกว้างสุด 120˚ และเลนส์วัดระยะขนาด 2 ล้านพิกเซล f/2.2 อันนี้เป็นเลนส์สีขาวดำนะครับ ส่วนกล้องหน้าก็เป็นแบบเจาะรู ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.4 อยู่ด้านมุมบนซ้ายของจอครับ

การถ่ายภาพทั่วไปนั้น สามารถทำได้ค่อนข้างดีเลยครับ โดยเราสามารถเปิด AI Scene Enhancement และ HDR อัตโนมัติเพื่อให้ภาพปรับตามสภาพแสง และวัตถุที่เราถ่ายภาพได้ จะถ่ายอาหาร ถ่ายวิว ถ่ายภาพในอาคาร หรือจะถ่ายพระอาทิตย์ตก ก็บอกได้ครับ ซึ่งภาพที่ได้ แม้จะผ่านการตกแต่งผ่าน AI มา แต่สีก็ยังไม่เว่อเกินความเป็นจริงมากนัก ภาพที่ได้จะมีความละเอียดอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซลครับ

ซึ่งถ้าเราอยากได้ภาพที่มีความละเอียดมาก ๆ ก็สามารถเปิดโหมดความละเอียด 50 ล้านพิกเซลได้นะครับ ผ่านการกดเปิดโหมด 50MP ในกล้องถ่ายรูปได้ง่าย ๆ ภาพที่ได้ก็จะมีการเก็บรายละเอียดของวัตถุ และเงาได้ดีกว่าครับ แต่ก็ไม่สามารถซูม หรือถ่ายในมุมกว้างได้

การถ่ายภาพบุคคล หรือ Portrait ก็สามารถถ่ายภาพ Portrait ได้แบบคนเดียว หรือหลายคนก็ได้ครับ การตัดขอบของคนทำได้ค่อนข้างดีเลยครับ แม้จะใส่แมสแต่ก็ยังจับภาพคนได้อยู่ แต่ถ้าติดแมสอาจจะปรับแสงให้เข้ากับหน้าคนไม่ได้นะครับ

OnePlus Nord 2T 5G สามารถถ่ายภาพมุมกว้าง ได้ถึง 120 องศาเลยครับ ภาพที่ได้ก็จะกว้างอย่างที่เห็นเลย แต่ก็จะไม่มีการปรับสีให้มากนัก ซึ่งก็ทำได้ดีอยู่ ส่วนการซูมก็สามารถซูมแบบดิจิทัลได้ที่ 2 เท่า 5 เท่า และสูงสุดที่ 10 เท่าครับ ตรงนี้แพนมองว่าระยะที่หวังผลได้จะอยู่ที่ไม่เกิน 5 เท่าเท่านั้นครับ แต่รุ่นนี้ถ่ายภาพระยะใกล้มาก หรือมาโครไม่ได้นะครับ

ภาพถ่ายกลางคืน สามารถถ่ายโดยให้ AI Scene Enhancement จับว่าเป็นกลางคืนก็ถ่ายได้ หรือถ้าใช้โหมด Night เพื่อถ่ายภาพก็จะได้ภาพที่สว่างและชัดกว่า ซึ่งบอกได้ว่าสามารถหวังผลได้ทั้งคู่ครับ

นอกจากนั้นก็ยังมีโหมดโปรที่สามารถตั้งค่าได้หลายอย่างมาก ทั้ง iso, Shutter speed, การชดเชยแสง, White Balance รวมถึงสามารถถ่ายภาพเป็นแบบ JPG+RAW หรือถ่ายภาพแล้วจัดเก็บเป็นไฟล์ภาพนามสกุล JPG และ DNG ที่สามารถนำไปแต่งต่อพร้อมกันได้

ส่วนการถ่ายภาพกล้องหน้า ก็สามารถถ่ายแบบธรรมดาและมีโหมดการปรับแต่งใบหน้าในแอปเลย แล้วก็ยังมีโหมด Protrait ที่ปรับการเบลอด้านหลังได้ถึง f/0.95 เลย การละลายหลังทำได้ดีมากครับ แต่อาจจะดูเบลอมากเกินความจำเป็นไปหน่อย ตั้งค่าการเบลอไว้ประมาณ f/2.5 จะกำลังดีเลย แต่ก็มีข้อสังเกตที่ตำแหน่งของกล้องแบบนี้จะทำให้เวลาเราถ่ายเซลฟี่ ตาเราอาจจะมองกล้องไม่ตรงได้ครับ

การถ่ายวิดีโอ

สำหรับการถ่ายวิดีโอกล้องหลัง สามารถถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุดที่ 4K 30 fps ครับ แต่ถ้าถ่ายวิดีโอในความละเอียด 1080p หรือ 720p ก็สามารถถ่ายที่ 60fps ได้ โดยวิดีโอเราสามารถบันทึกเป็นไฟล์ HEVC เพื่อประหยัดพื้นที่เพิ่มได้ด้วย

ส่วนอีกโหมดนี้ ภาพที่ได้ก็จะนิ่งขึ้นมากเลย เพราะว่าได้เปิดโหมด Ultra Steady เอาไว้แล้ว และความละเอียดของคลิปนี้อยู่ที่ 1080P 60 fps นะครับ แม้แพนจะวิ่ง ภาพที่ได้ก็ยังคงนิ่งอยู่ครับ !

ในการถ่ายวิดีโอ ถ้าเราเปลี่ยนไปใช้เลนส์มุมกว้างมาก จะถ่ายได้สูงสุดที่ 1080P4K 30 FPS แต่เราก็จะไม่สามารถเปิดทั้ง AI Highlight Video และ Ultra Steady ได้ครับ

ส่วนการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้า ก็ถ่ายได้สูงสุดที่ 1080p 30 fps เท่านั้น แต่ในโหมดนี้ก็สามารถถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ด้วย รวมถึงสามารถเปิด Ultra Steady และ AI Highlight Video ได้ด้วย แต่ถ้าเปิด AI วิดีโอแล้ว ก็จะเปิดการถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอไม่ได้นะครับ

ดีไซน์

เรามาดูที่รอบตัวเครื่องบ้างครับ OnePlus Nord 2T 5G มาใน 2 สีด้วยกันครับ นั่นคือสีเขียวหม่น ๆ Jade Fog และสีเทา Gray Shadow ที่แพนถืออยู่นี้ ฝาหลังของเครื่องที่จริงเป็นพอลิเมอร์นะ แต่ว่าสัมผัสดีมากเลยครับ เป็นพลาสติกขัดด้านที่ให้ความรู้สึกเวลาสัมผัสที่ดี เหมือนกระจกขัดด้านเลยครับ ไม่ติดลายนิ้วมือด้วย แถมงานประกอบก็ยังแน่นเหมือนกับที่ผ่านมา ส่วนทางขวาตรงนี้ไม่ใช่แฟลชนะครับ เป็นดีไซน์ให้สมมาตรกับแฟลชด้านบนเท่านั้น

วัสดุรอบตัวเครื่องจะเป็นกรอบพลาสติกเคลือบสีเงาครับ ด้านบนจะมีช่องไมค์โครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ส่วนทางด้านขวาก็มีปุ่มปิด-เปิดเครื่อง และก็ Alert Slider ที่เราสามารถสไลด์เพื่อเปลี่ยนโหมดเสียงเป็นเปิดเสียง ปิดเสียง และสั่น ใน OnePlus Nord 2T 5G ก็มีมาให้ด้วย

ส่วนด้านล่างมีช่องเสียบซิม อันนี้จะใส่ได้ 2 ซิมแบบ Nano ไม่มีช่องเสียบ Micro SD Card แล้ว ต่อด้วยไมค์สนทนา แล้วก็เป็นช่อง USB-C แบบ USB 2.0 แล้วก็ลำโพงครับ

หน้าจอ

หน้าจอของ OnePlus Nord 2T 5G เป็นจอ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1080 หรือ FHD+ Refresh Rate 90Hz แถมยังรองรับ HDR 10+ ด้วยนะครับ !

ด้านการแสดงผลบน YouTube ก็สามารถแสดงผลได้สูงสุดที่ 4K HDR เลย แต่ความละเอียดของจอมีแค่ 1080P นะครับ ก็แปลว่าภาพที่แสดงผลก็จะได้แค่ 1080P แต่ก็ยังรองรับการแสดงผลแบบ HDR ด้วยครับ ส่วนการแสดงผล Netflix ก็ผ่านมาตรฐานการจัดการลิขสิทธิ์ดิจิทัลเป็น L1 และสามารถแสดงผลได้ความละเอียดสูงสุดที่ Full HD ตามความละเอียดของจอครับ แต่จะไม่รองรับการแสดงผล HDR

นอกจากนั้นบนจอก็ยังมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบแสงบริเวณด้านล่างของหน้าจอด้วยครับ (สแกนให้ดู) แล้วก็สแกนได้ค่อนข้างไวดีเลยครับ

ระบบเสียงของ OnePlus Nord 2T 5G ก็เป็นแบบสเตอริโอครับ โดยมีลำโพงอยู่ที่ด้านบน และด้านล่างของตัวเครื่องครับ เดี๋ยวเราลองฟังกันเลยดีกว่า (เปิดเพลงจาก Artlist) จากที่ลองฟังดูแล้ว แพนมองว่าเสียงเบสอาจจะยังน้อยไปหน่อยนะครับ แต่เสียงสเตอริโอก็แยกฝั่งได้ค่อนข้างชัดเจน

แบตเตอรี่

ในส่วนของแบตเตอรี่ OnePlus Nord 2T 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh จากที่กองบรรณาธิการลองใช้งานทั่วไป ไม่เล่นเกม 24 ชั่วโมงแบบไม่ชาร์จแบต แบตจะเหลือที่ประมาณ 31% ได้ ถือว่าแบตอึดพอสมควร แล้วยังให้การชาร์จไวถึง 80W ผ่าน SUPERVOOC เท่าเรือธงอย่าง OnePlus 10 Pro ด้วย จากการทดสอบสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 45% ภายใน 15 นาทีเท่านั้นเองครับ

OnePlus Nord 2T 5G เครื่องนี้ใช้ Android 12 ที่ครอบทับด้วย OxygenOS 12.1 การใช้งานต่าง ๆ ยังยืดหยุ่น ตามสไตล์ OnePlus ครับ จะเปลี่ยนสี หรือเปลี่ยนทรงของ UI ก็ทำได้ตามใจเลย

แถมยังได้รับการการันตีการอัปเดตแบบ 2+3 ปี ก็คืออัปเดตแอนดรอยด์ 2 ปี หรือ 2 เวอร์ชัน และแพทช์ความปลอดภัยต่ออีก 3 ปีเลยครับ เรียกว่าไม่โดนลอยแพแน่นอน

ข้อสังเกต

ต่อไปก็จะเป็นข้อสังเกตที่กองบรรณาธิการแบไต๋นำมาฝากคุณผู้ชมเสมอครับ นั่นคือจอที่รีเฟรชเรตให้มาแค่ 90 Hz เท่านั้นเอง ถ้าเป็น 120 Hz จะเป็นมือถือที่เพอร์เฟคเลยครับ อีกเรื่องก็คือวิดีโอกล้องหน้าที่ถ่ายได้แค่ 1080P 30FPS เท่านั้น ถ้าขยับขึ้นไปที่ 60FPS ได้จะดีมากเลยครับ อีกอย่างก็คือเลนส์มุมกว้างที่ให้ความละเอียดมา 8 ล้านพิกเซลนั้น อาจจะยังถ่ายได้ไม่ดีมาก ภาพแม้จะมีสภาพแสงดี แต่ก็ยังมี Noise ให้เห็นอยู่บ้างครับ ถ้าทาง OnePlus ทำเลนส์มุมกว้างได้ดีกว่านี้ ก็จะถ่ายสนุกกว่านี้เยอะเลยครับ

แต่สำหรับใครที่อยากได้รุ่นราคาประหยัด แพนก็มีแนะนำน้องเล็กที่เปิดตัวพร้อมกันอย่าง OnePlus Nord CE2 Lite 5G แม้จะเป็นรุ่นน้อง แต่สเปกก็ไม่ได้น้องตามนะครับ เพราะมาพร้อม CPU Qualcomm Snapdragon 695 ที่ใช้ 5G ได้ มีแรม 8GB หน่วยความจำ 128 GB แถมยังใส่ SD Card ได้สูงสุดถึง 1 TB ด้วย

หน้าจอรุ่นนี้เป็นแบบ IPS LCD ขนาด 6.59 นิ้ว 120Hz และกล้องก็มีเลนส์หลักขนาด 64 ล้านพิกเซล และเลนส์วัดระยะกับมาโครขนาด 2 ล้านพิกเซลทั้งคู่ครับ ไม่มีเลนส์ Ultra Wide ส่วนกล้องหน้าก็มีขนาด 16 ล้านพิกเซล

รีวิวที่ดีต้องมีราคา

OnePlus Nord 2T 5G มีราคาอยู่ที่ 14,990 บาทครับ แต่ถ้าใครสนใจในรุ่นที่ลดหลั่นลงมาอย่าง OnePlus Nord CE 2 Lite 5G ก็จะมีราคาอยู่ที่ 9,990 บาทครับ ทั้งสองรุ่นสามารถ Pre-Order ได้ตั้งแต่วันที่ลงคลิปนี้ ถึงวันที่ 28 กรกฎาคม และยังมีโปร First Sale ต่อจนถึงวันที่ 4 สิงหาคมด้วย เดี๋ยวผมปักหมุดรายละเอียดไว้ในคอมเมนต์นะครับ ใครสนใจก็จัดกันได้เลยครับ !