การดูแลสุขภาพกับคนทำงานเป็นของคู่กันครับ จะทำแต่งานจนห้ามป่วย ห้ามพักก็คงห้ามไม่ได้ แต่ถ้าเลือกจะเป็นคนรักงานแล้วก็ต้องดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรง รวมถึงเตรียมประกันสุขภาพให้พร้อม เพราะเมื่อเจ็บป่วยขึ้นมา ไม่ว่าจะหนัก หรือเบา เราก็คงอยากได้รับการรักษาดี ๆ ในโรงพยาบาลที่เราพึ่งพอใจครับ

แล้วถ้าคุณกำลังมองประกันสุขภาพ ‘Easy E-Health’ ประกันสุขภาพออนไลน์จาก iFWD ก็น่าจะตอบโจทย์ เพราะเขาเหมาจ่ายตามจริง ครอบคลุมทุกความต้องการ เข้าใจง่าย และซื้อกดได้ทันทีผ่านเว็บไซต์ วันนี้ ‘เมย์ – ศิตาภา อรรถบุรานนท์’ ร่วมแบไต๋ ‘Easy E-Health’ ให้คุณเข้าใจก่อนทำประกันครับ

‘Easy E-Health’ คือประกันสุขภาพออนไลน์จาก FWD ประกันชีวิต ที่สามารถกดซื้อได้ผ่านเว็บไซต์ ifwd.fwd.co.th ค่ะ

โดยประกันสุขภาพออนไลน์ตัวนี้ เหมาะสำหรับคนทำงานที่มีสวัสดิการอยู่แล้ว แต่อยากได้รับความคุ้มครองเพิ่มเติม รวมถึงคนทำงานที่ไม่มีสวัสดิการจากบริษัท เช่น ฟรีแลนซ์ หรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ที่อยากเลือกการรักษาในคลีนิกใกล้บ้าน หรือโรงพยาบาลที่ชื่นชอบ เพราะว่า FWD ประกันชีวิต มีโรงพยาบาลและคลินิกในเครือข่ายกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ เพียงยื่นบัตรประชาชนก่อนเข้ารับบริการ คุณสามารถเข้ารับการรักษาโดยไม่ต้องสำรองจ่ายค่ะ

ประกันสุขภาพออนไลน์ Easy E-Health มี 3 ความคุ้มครองหลักให้เลือก เริ่มตั้งแต่แผน 500,000 บาท, แผน 1,000,000 บาท และแผน 1,500,000 บาท โดยจำนวนเงินที่เราเห็นนี้ คือวงเงินคุ้มครองสำหรับค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า IPD นั่นเองค่ะ

สำหรับค่ารักษาในส่วนนี้ ทาง FWD ประกันชีวิต เหมาจ่ายค่ารักษาให้ตามจริงทุกหมวดตามที่ขึ้นอยู่หน้าจอนี้เลยค่ะ โดยไม่ว่าเราจะป่วยน้อย ป่วยมาก ต้องนอนโรงพยาบาล เข้า ICU หรือมีการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ แพ้วัคซีนโควิด-19 ต้องฉายรังสีหรือการทำคีโมเพื่อรักษาโรคมะเร็ง ต้องล้างไตผ่านทางเส้นเลือด ขอแค่ไม่เกินวงเงินคุ้มครองหลัก ทาง FWD ประกันชีวิต ก็เหมาจ่ายตามจริง ถือเป็นจุดเด่นของประกันสุขภาพออนไลน์ Easy E-Health ค่ะ

แม้ว่าประกันสุขภาพออนไลน์ Easy E-Health จะโดดเด่นในเรื่องค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน หรือ IPD แต่ประกันตัวนี้ก็สามารถอัปเกรดความคุ้มครองเสริมได้ นั่นก็คือ OPD+ ค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก หรือ OPD เช่น ปวดท้อง ปวดหัว เป็นหวัดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล แค่รับยาตามแพทย์สั่งแล้วกลับบ้านค่ะ

โดยเราสามารถเลือกความคุ้มครอง OPD+ เพิ่มได้ตั้งแต่ 600 บาท จนถึง 3,000 บาทต่อครั้ง และเบิกได้ไม่เกิน 30 ครั้งต่อปีค่ะ

ความคุ้มครอง OPD+ มีให้เลือกมากถึง 6 แผน ส่วนจะเลือกแผนไหนดีนั้น ก็ต้องลองดูว่าปี ๆ หนึ่ง เราป่วยบ่อยแค่ไหน และปกติแล้ว เราเข้าโรงพยาบาลมีค่าใช้จ่ายหรือส่วนเกินเท่าไร ก็จะได้วงเงินคร่าว ๆ ที่เราต้องการค่ะ จะได้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยมากเกินความจำเป็นค่ะ

อีกหนึ่งความคุ้มครองที่เราสามาถซื้อเพิ่มเติมได้ คือ แผนค่าชดเชยรายวันหากเจ็บป่วยด้วย 7 โรคร้ายแรง โดยมีให้เราเลือก 3 แผน เริ่มตั้งแต่ 1,000 บาท, 2,000 บาท และ 3,000 บาทต่อวันค่ะ โดยเราจะได้รับเงินชดเชยสูงสุดถึง 700 วัน ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่งค่ะ ถ้าต้องนอนโรงพยาบาลนาน ๆ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดรายได้ค่ะ

ประกันสุขภาพออนไลน์ Easy E-Health ถือว่าครบครันทั้ง IPD และ OPD แถมยังจัดเต็มด้วยการเหมาจ่ายค่ารักษาตามจริง และความคุ้มครองอื่น ๆ นอกเหนือจากค่ารักษาด้วย

โดย Easy E-Health เป็นประกันสุขภาพออนไลน์แบบรายปี หมายความว่า เมื่อครบเวลา 1 ปีกรมธรรม์ ความคุ้มครองก็จะหมดไปค่ะ ซึ่งจุดนี้หลายคนอาจจะรู้สึกเสียดายค่าเบี้ยประกันที่จ่ายไป หาก 1 ปีนั้นไม่ได้เคลมเลย แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากละเลยการทำประกันสุขภาพ เพราะไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ในเมื่อคิดไม่ตกแบบนี้ ทาง FWD ประกันชีวิต เขาก็มีส่วนลด 10% สำหรับเบี้ยประกันปีถัดไป เมื่อเราเลือกต่อสัญญาค่ะ

และสำหรับกรณีเสียชีวิตระหว่างปีกรมธรรม์ ประกันสุขภาพออนไลน์ Easy E-Health ก็ยังมีความคุ้มครองชีวิตให้ด้วยอีก 150,000 บาท ในทุกแผนความคุ้มครองที่เราเลือกค่ะ

ผู้ที่สนใจประกันสุขภาพออนไลน์ Easy E-Health สามารถเข้ามาดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ ifwd.fwd.co.th/easy-e-health และสามารถลองคำนวณเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายได้ผ่านหน้าเว็บไซต์ เพียงกรอกข้อมูลเล็กน้อย คือ เพศและวันเดือนปีเกิดตามบัตรประชาชนค่ะ

ซึ่งตามตัวอย่างนี้ ทีมงานแบไต๋เพศชาย อายุ 35 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 1,000,000 บาท พร้อมเพิ่มเติมแผน OPD+ 2,000 บาทต่อครั้ง และแผนค่าชดเชยรายวันหากเจ็บป่วยด้วย 7 โรคร้ายแรง อีกวันละ 2,000 บาท ค่าเบี้ยประกันปีแรกจะอยู่ที่ 31,205 บาท หรือเฉลี่ย 86 บาทต่อวันค่ะ

เมื่อเราทดลองปรับเปลี่ยนแผนประกันเพิ่มเติม ทั้ง OPD+ และค่าชดเชยรายวันสำหรับ 7 โรคร้ายแรง จนพอใจแล้ว ก็สามารถกดซื้อประกันผ่านออนไลน์ แล้วรอรับเล่มกรมธรรม์ทางอีเมล หรือรูปเล่มก็ได้ แล้วแต่เราเลือกค่ะ

สำหรับการชำระเบี้ยนั้น ประกันสุขภาพออนไลน์ Easy E-Health รับชำระเบี้ยเฉพาะแบบรายปีเท่านั้น โดยเราสามารถเลือกจ่ายได้ทั้งบัตรเครดิต Visa และ Mastecard รวมถึงระบบ QR Payment นอกจากนี้ ยังสามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพของ Easy E-Health ไปลดหย่อนภาษีได้ ยกเว้นค่าชดเชยรายวันหากเจ็บป่วยด้วย 7 โรคร้ายแรง เนื่องจากไม่ใช่เบี้ยประกันสุขภาพ และในส่วนของเบี้ยประกันชีวิต สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท ตามประกาศของกรมสรรพากรค่ะ

มาถึงข้อสังเกตกันบ้าง อย่างที่เมย์บอกไปในตอนต้นว่า ประกันสุขภาพออนไลน์ Easy E-Health เป็นประกันแบบรายปี ดังนั้น ถ้าเราอยากได้ความคุ้มครองต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องต่ออายุกรมธรรม์เรื่อย ๆ ซึ่งถ้าเราเป็นคนที่สุขภาพดี ไม่มีการเคลมในปีก่อนหน้าเลย ก็จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันปีต่อไป 10% ค่ะ

แต่ทั้งนี้ก็ต้องยอมรับว่า เป็นปกติที่เบี้ยประกันจะถูกคำนวณจากอายุของผู้เอาประกันเป็นสำคัญค่ะ หมายความว่า ยิ่งเราอายุเพิ่มมากขึ้น เบี้ยประกันก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยค่ะ ดังนั้น ประกันสุขภาพออนไลน์ Easy E-Health จึงเหมาะสำหรับคนวัย 35 – 50 ปี ที่มีการใช้ร่างกายทำงานหนัก ๆ และมีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วย เพราะต้องยอมรับเลยว่าค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน หรือ IPD ของประกันตัวนี้โดดเด่นด้วยการเหมาจ่ายตามจริงค่ะ

นอกจากค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในแล้ว ประกันสุขภาพออนไลน์ Easy E-Health ยังมีความคุ้มครองอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก 3 อย่าง นั่นก็คือ

  1. บริการ SOS ให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ กรณีเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ ขณะเดินทางในประเทศไทย
  2. ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน การบาดเจ็บหรือการป่วยที่เกิดขึ้นกะทันหัน ระหว่างอยู่นอกประเทศไทย โดยคุ้มครองไม่เกิน 45 วันต่อการเดินทางครั้งใดครั้งหนึ่งค่ะ
  3. บริการ FWD Telemedicine เจ็บป่วย ไม่สบาย ไม่ต้องออกจากบ้าน หาหมอออนไลน์ได้ง่าย ๆ สะดวก ไม่ต้องสำรองจ่าย พร้อมส่งยาตามแพทย์สั่งถึงบ้าน

เมย์ – ศิตาภา อธิบาย Easy E-Health ประกันสุขภาพออนไลน์ไว้อย่างละเอียดทีเดียว หวังว่าทุกคนจะได้รับประโยชน์จากคลิปนี้อย่างเต็มที่นะครับ และสำหรับคนที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ ifwd.fwd.co.th หรือติดต่อ FWD Call Center โทร. 1351 รวมถึงช่องทางออนไลน์อื่น ๆ ของ FWD ตลอด 24 ชั่วโมงครับ