วันนี้แพนอยู่กับ ASUS Expertbook B5 รหัส B5402FBA โน้ตบุ๊กสายธุรกิจ ที่นอกจากจะดีไซน์เรียบหรู น้ำหนักเบาแล้ว ยังมาพร้อมขุมพลัง Intel® Core™ i7-1260P ที่ทั้งแรง ทั้งประหยัดพลังงานเลยครับ ที่สำคัญมีปากกกาซ่อนในเครื่องด้วยนะ เคยเห็นกันไหม ? ดีรอบด้านขนาดนี้ คลิปนี้แพนจะมา beartai เจาะลึกให้ดูกัน !

ดีไซน์

ดีไซน์ตัวเครื่องของ ASUS Expertbook B5 แพนว่าเขาออกแบบมาเพื่อคนทำงานนะ ดีไซน์ดูดี ใช้สีดำเข้ม ช่วยเสริมภาพลักษณ์นักธุรกิจ หรือคนทำงานที่ต้องการพกโน้ตบุ๊กเครื่องเดียวไป Work From Anywhere ทำงานทุกที่

ส่วนฝาหลังก็เป็นแบบเรียบ ๆ มีโลโก้ ASUS ตรงกลาง กับโลโก้ ExpertBook ที่จะมีไฟบอกสถานะติดขึ้นมา เมื่อมีการประชุม หรือวิดีโอคอล อันนี้ดีกับการใช้ทำงานนะ เวลาประชุมคนจะได้รู้และไม่มารบกวนครับ

บอดี้ด้านนอกทำจากอะลูมิเนียม ส่วนตรงที่วางมือเป็นแมกนีเซียม-อะลูมิเนียม น้ำหนักเบาเลย ความทนทานก็ผ่าน US Military Standard หรือมาตรฐานที่ใช้ทางการทหาร

ด้านความเบา จากการลองยกของแพนแล้วถือว่าค่อนข้างเบาเลยครับ ส่วนน้ำหนักจริงนั้นจะอยู่ที่ 1.38 กิโลกรัมครับ ถ้ารวมอแดปเตอร์แบบ USB-C ด้วย จะมีน้ำหนักรวม 1.73 กิโลกรัมครับ

น้ำหนักแค่กิโลกว่า ๆ แบบนี้ทำให้การถือใช้มือเดียว และการพกไปใช้นอกสถานที จัดว่าสบายเลยครับ แต่ถ้าใครที่อยากนั่งทำงานที่โต๊ะ ทาง ASUS ยังแถมเมาส์ไร้สายมาให้ใช้จากในกล่องด้วยนะครับ ไม่ต้องไปซื้อเพิ่ม !

มาดูพอร์ตรอบตัวเครื่องกันบ้างครับ เห็นเป็นโน้ตบุ๊กทำงานแบบนี้ แต่บอกเลยว่าให้พอร์ตมาครบมาก ฝั่งซ้ายของตัวเครื่องจะมี พอร์ต Thunderbolt 4 ที่สามารถใช้ต่อออกจอภาพได้ และยังสามารถใช้ชาร์จแบตแบบ PowerDelivery ได้ถึง 2 ช่องกันเลยทีเดียว ต่อด้วยพอร์ตแลน RJ45, HDMI 2.0 1 ช่อง, USB-A 3.2 Gen 2 1 ช่อง, ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และไฟแสดงสถานะของตัวเครื่องครับ

ส่วนด้านขวาของตัวเครื่องจะมีช่องเก็บปากกา รุ่นนี้เก็บได้ในตัวเครื่องเลย น้อยรุ่นที่จะทำแบบนี้ได้ ข้อดีคือหยิบใช้ง่าย และป้องกันปากกาหายด้วย ต่อด้วยปุ่มเปิดเครื่องที่เป็นเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วย, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., USB 2.0 อีก 1 ช่อง, ช่องเสียบ Micro SD Card และช่อง Kensington Lock ครับ

ส่วนการเชื่อมต่อไร้สาย ในรุ่นนี้ก็ได้เป็น WiFi 6E ที่จะรองรับคลื่นความถี่ 6GHz ที่เร็วกว่าเดิมด้วยนะครับ ส่้วนบลูทูท ก็ได้เป็น Bluetooth 5.2 รุ่นใหม่แล้วด้วยครับ

จอของรุ่นนี้สามารถกางได้ 360 องศา เพื่อให้สามารถใช้ทำงานได้ทุกสถานการณ์ เปลี่ยนได้ 4 แบบ ทั้งโหมดโน้ตบุ๊ก เอาไว้พิมพ์งานทั่วไป แบบที่มี Ergolift ยกเครื่องขึ้น 3 องศา ช่วยเรื่องการระบายความร้อน องศาการพิมพ์ คุณภาพเสียงลำโพงให้ดีขึ้น, โหมดสแตนด์ ใช้วาดเขียน , โหมดเต็นท์ ไว้ตั้งกับโต๊ะ เพื่อพรีเซนต์หรือดูหนัง หรือจะพับจอเป็น โหมดแท็บเล็ต ก็ทำได้ครับ แพนว่าเหมาะกับการทำงานแบบ Hybrid Workplace ที่ต้องการความยืดหยุ่น โน้ตบุ๊กเครื่องเดียวใช้ได้หลายแบบ

หน้าจอ

ส่วนตัวหน้าจอเอง ก็น่าสนใจไม่แพ้กันเลยนะครับ เพราะว่ารุ่นนี้เป็นหน้าจอ IPS LCD ขนาด 14 นิ้ว อัตราส่วน 16:9 ความละเอียด Full HD ที่ขอบเขตการแสดงผลเต็ม 100% ของ sRGB ความสว่างสูงสุด 400 Nits ที่ได้การรับรองจากสถาบัน TUV ว่าช่วยถนอมสายตาจากแสงสีฟ้าด้วย แถมยังเป็นหน้าจอแบบทัชสกรีนด้วยนะครับ ทัชได้สูงสุด 10 จุดเลย และสามารถใช้ปากกาที่ติดข้างเครื่องมาด้วย มาวาดเขียน หรือจดบันทึกได้เลย ตัวปากกาสามารถชาร์จแบตได้ระหว่างเสียบกับตัวเครื่องผ่านพินทองด้านนี้เลยครับ

นอกจากที่จะใช้โน้ตบุ๊กเพื่อการทำงานหรือวาดเขียนแล้ว การประชุมออนไลน์เดี๋ยวนี้ก็สำคัญไม่แพ้กันครับ กล้อง Webcam ที่ให้มานั้นก็มีความละเอียดอยู่ที่ 720P ครับ แถมมีชัตเตอร์ปิดกล้องมาให้ในตัวด้วย หรือจะปิดไมค์โครโฟนผ่านปุ่มบนคีย์บอร์ดก็ทำได้เหมือนกัน

ส่วนตัวไมค์โครโฟนที่อยู่ข้าง ๆ กล้องเว็บแคมเอง ก็มีระบบ AI ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนเหมือนกันครับ ลองฟังเสียงเทียบกันดูนะครับว่าเปิดและปิด AI แล้วต่างกันอย่างไร

ส่วนลำโพงที่อยู่ด้านล่างของตัวเครื่อง ก็ได้มีระบบ AI ClearVoice ที่จะตัดเสียงรบกวนจากการประชุมกับคู่สนทนาด้วยนะครับ โดยระบบตัดเสียงรบกวนนี้จะตัดเฉพาะการประชุมออนไลน์ หรือวิดีโอคอลเท่านั้น

ลองลงมาดูที่คีย์บอร์ดกันบ้างครับ คีย์บอร์ดรุ่นนี้ แพนว่าเป็นโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับการพิมพ์งานรุ่นหนึ่งเลย ให้สัมผัสการพิมพ์ที่ค่อนข้างดี ลองฟังเสียงเวลาพิมพ์ดูก็ได้ครับ แถมยังมีไฟใต้คีย์บอร์ดให้สามารถพิมพ์ได้แม้ในเวลากลางคืนด้วยครับ

ส่วนไฟที่เลข 1-4 ที่ดูแตกต่างจากปุ่มอื่น ๆ นั่นก็เพราะสามารถตั้งเป็นปุ่มลัด ExpertWidget ได้ เรื่องนี้แบไต๋เราเคยรีวิวไว้บน ASUS ExpertBook B9 ที่พี่เมย์ได้ลองกันไปแล้วครับ

ส่วนที่ TouchPad ของ ASUS ExpertBook B5 รุ่นใหม่นี้ก็มี NumPad 2.0 ในตัว ผ่านการแตะเปิดตรงนี้ค้างไว้เหมือนเดิม คนทำงานบัญชี หรือสายที่ต้องกดตัวเลขบ่อย ๆ น่าจะได้ใช้แน่ ๆ ซึ่งในรุ่นนี้ไม่ค่อยมีการลั่นปุ่มถ้าเราไม่ได้ตั้งใจกดเลขนั้นแต่แรกแล้วด้วยนะครับ

สเปก

ส่วนสเปกภายในต้องบอกว่าจัดเต็มไม่แพ้กันเลย เพราะใน ASUS ExpertBook B5 รุ่นที่แพนรีวิวอยู่นี้ใช้ CPU เป็น Intel® Core™ i7-1260P เป็นรุ่นที่ทั้งแรง และประหยัดพลังงานเลยครับ และยังมี P-Core 4 แกน และ E-Core อีก 8 แกน รวมเป็น 12 Core ! พร้อมกับการ์ดจอ Intel Iris Xe ในตัวด้วยนะครับ

ซึ่งผลคะแนนทดสอบประสิทธิภาพซีพียูผ่าน Geekbench 5 ผลแบบ Single-Core อยู่ที่ 1,711 คะแนน ส่วน Multi-Core 9,980 คะแนน ถือว่าคะแนนค่อนข้างสูง และดีกว่าบน CPU Gen ที่แล้วค่อนข้างมากด้วยนะครับ

และเรื่องการระบายอากาศ ด้านล่างตัวเครื่องก็มีช่องดูดลมเข้าที่ใหญ่ขึ้นจากรุ่นที่แล้ว เป่าออกด้านบนนี้ เพื่อให้การระบายอากาศดีขึ้นด้วยครับ

ส่วนแรมเครื่องนี้ก็ให้มาถึง 16GB แบบฝังบอร์ด 8GB และแบบถอดเปลี่ยนได้อีก 8GB ครับ ส่วนหน่วยความจำก็เป็น SSD แบบ NVMe ขนาด 512 GB ครับ ซึ่งทางแบไต๋เราก็ได้ทดสอบการอ่านด้วย Crystaldiskmark 8 มา และได้ความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 6389 MB/s และ การเขียน 3811 MB/S ถือว่าเร็วมาก ๆ การเปิดไฟล์ต่าง ๆ ก็ทำได้รวดเร็วสบายหายห่วงเลยครับ

โดยรวมสเปกที่ให้มา ถือว่าใช้งานได้หลากหลายตั้งแต่ใช้งานเบา ๆ อย่างการพิมพ์งาน จดโน้ต เช็กเมล์ อ่านข่าว หรือจะใช้งานหนักๆ อย่างการแต่งรูปก็ยังไหวครับ

แบตเตอรี่

ส่าวนเรื่องแบตเตอรี่ของ ASUS ExpertBook B5 รุ่นนี้ก็ให้มาถึง 63 WHr ถือว่ามีขนาดค่อนข้างใหญ่เลยครับ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ก็ถือว่าทำได้ดีเลยครับ เราได้ใช้โน้ตบุ๊กเครื่องนี้ทำการเตรียมข้อมูล รวมถึงใช้ดูหนัง ฟังเพลง และทำงานอีกเล็กน้อยบนเครื่องนี้ ก็สามารถใช้งานได้ครับ ซึ่งก็เพียงพอกับการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว

นอกจากนี้ยังใช้ระบบชาร์จเป็น Power Delivery ด้วย แปลว่าถ้าไม่ใช้หัวชาร์จที่มีมาให้ในกล่อง ก็สามารถใช้หัวชาร์จ GaN ในการชาร์จแบตเครื่องแทนได้นะครับ สามารถชาร์จได้เร็วสุดถึง 65W เลย ทางกองบรรณาธิการแบไต๋ได้ลองจับเวลาชาร์จดูแล้ว พบว่าใช้เวลาชาร์จจาก 10% – 47% ในเวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้น

ด้วยความที่รุ่นนี้เป็นโน้ตบุ๊กสายธุรกิจ ASUS ExpertBook B5 เครื่องนี้ก็มาพร้อมกับ Windows 11 Pro แท้แกะกล่องมาเลยครับ และยังมีโปรแกรม MyASUS และ ASUS Business Manager ที่เหมาะกับการใช้งานในองค์กรมาให้จากโรงงานด้วยครับ

ด้านความปลอดภัยอันนี้ก็สำคัญกับการใช้งานในธุรกิจเหมือนกันครับ รุ่นนี้ให้มาทั้ง เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่ปลอดภัยกว่าการปลดล็อกด้วยรหัส และม่านปิดกล้องเว็บแคมที่เคยบอกก่อนหน้านี้ ยังมี Trusted Platform Module 2.0 ที่เข้ารหัสข้อมูลก่อนบันทึกลงเครื่องด้วยครับ ปลอดภัยกับการใช้งานในองค์กร

ข้อสังเกต

สำหรับข้อสังเกตของรุ่นนี้จะอยู่ที่ปากกาที่แถมมาให้ในเครื่องครับ แม้ในรุ่นใหม่นี้จะดีที่ปากกาเสียบติดมาให้ในเครื่องเลย ไม่ต้องเก็บแยกให้เสี่ยงหาย แต่การเก็บตัวปากกาจะไม่มีการบอกว่าต้องเก็บอย่างไร ต้องใช้การจำว่าส่วนที่นูนขึ้นเพื่อให้แกะต้องอยู่ด้านล่าง และยังมีโอกาสเสียบผิดค่อนข้างสูง เพราะแม้จะเสียบผิดด้านก็ยังใส่ได้ แต่จะแกะยาก และไม่มีการชาร์จปากกาครับ

รีวิวที่ดีต้องมีราคา

สำหรับ ASUS Expertbook B5 รุ่นที่เรารีวิวคือรหัส B5402FBA นี้ มาพร้อมทั้งความเบาบางน่าใช้งาน ลูกเล่นที่เหมาะกับกลุ่มนักธุรกิจ และสเปกที่แรงด้วย CPU i7-1260P แถมยังประหยัดพลังงานนี้ มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 43,000 บาทครับ โดยรุ่นนี้มีขายเฉพาะระดับองค์กรเท่านั้นนะครับ ทั้งนี้ราคาจะแตกต่างกันไป ตามสเปก และจำนวนที่องค์กรของคุณสั่งซื้อ ซึ่งสั่งซื้อโดยตรงกับแผนกลูกค้าองค์กรของ ทาง ASUS ได้เลย

ส่วนคนทั่วไปที่สนใจ Notebook ธุรกิจตัวนี้ Asus เค้าก็มีให้นะครับ จะเป็นรุ่นรหัส B5402CBA ที่จะใช้ CPU เป็น Intel® Core™ i5-1240P แต่จะเป็นพับจอแบบ 360 องศาไม่ได้ และทัชสกรีนไม่ได้ อันนี้จะหาซื้อได้ตามร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วไป และช่องทางออนไลน์ Official Store ของ ASUS ได้เลยครับ

สำหรับการรับประกัน ก็จะเป็น Perfect Warranty หรือประกันอุบัติเหตุ 1 ปีแรก, ประกัน Onsite Service นาน 3 ปี และประกัน 80 ประเทศทั่วโลก 3 ปีแบบ Global Warranty เรียกว่าประกันแน่นหายห่วงเลย ใครที่สนใจ สามารถติดต่อทาง ASUS โดยตรงได้ทางลิงก์ที่แคปชั่นได้เลยครับ !