รีวิวเกม Dead Space Remake ร่างใหม่ของเกมสยองคลาสสิก ที่ทั้งสนุกทั้งสยองยิ่งกว่าเดิม
Our score
9.0

รีวิวเกม Dead Space Remake ร่างใหม่ของเกมสยองคลาสสิก ที่ทั้งสนุกทั้งสยองยิ่งกว่าเดิม

จุดเด่น

  1. งานภาพ งานเสียง และความสยองแบบอัพเกรด
  2. ฉากต่างๆ ในยาน Ishimura ที่เชื่อมต่อถึงกันเป็นเนื้อเดียว
  3. พระเอก Isaac และตัวละครอื่นๆ มีบทบาทที่น่าสนใจมากขึ้น

จุดสังเกต

  1. บั๊กสยองที่ทำให้เกมกระตุกเป็นพักๆ
  2. อาจจะง่ายไปนิดสำหรับสายเกมสยองแบบฮาร์ดคอร์

หลังจากที่ต้องอดอยากปากแห้งมาหลายปี ในที่สุดยุคทองของแฟนเกมสยองขวัญก็เริ่มคืนชีพกลับมาซะที ตั้งแต่การกลับมาของซีรีส์ Resident Evil การมาถึงของเกม The Callisto Protocol ในปีที่แล้ว (ถึงรีวิวจะไม่ค่อยสวยก็เหอะ)​ และคราวนี้ก็ถึงคิวของเกมสยองในตำนานอย่าง Dead Space ที่จะขอคัมแบ็คกับเขาบ้าง แม้หลายคนอาจจะสบประมาทว่าซีรีส์นี้มันตายสนิทไปแล้วไม่ใช่เรอะ? แต่ก็เหมือนกับเหล่าศพเดินได้ในเกมนั่นแหละครับ Dead Space ได้ลุกขึ้นมาจากหลุมศพอีกแล้ว แถมยังลุกขึ้นมาเป็นตัวบอส พร้อมจะฟาดฟันหัวใจเกมเมอร์ให้ขวัญหนีดีฝ่อไปตามๆ กัน

คืนชีพความสยองยังไงให้สวย หล่อ เสียงใสกิ๊ง

ก่อนอื่นขอบอกเลยว่าสำหรับแฟนเกม Survival Horror ที่ซื้อเกมนี้มาเพราะอยากสัมผัสบรรยากาศสยองแบบเน้นๆ คุณได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้! เกม Dead Space Remake ทำบรรยากาศสยองออกมาได้ดีมาก หยอดความกดดันและความน่ากลัวออกมาได้อย่างถูกจังหวะ ระหว่างเล่นคุณจะได้ใจเต้นตุ้มต่อมแทบตลอดเวลา ทั้งจากฝูง Necromorph ที่ชอบโผล่มาแต่ข้างหลัง (ต้องขอบคุณระบบสุ่มศัตรูแบบใหม่ที่ทำให้เดาทางเกมได้ยากขึ้น)​ ฉากไฟตกจนมืดตึ๊ดตื๋อให้คุณตกใจเล่น หรือเสียงอะไรไม่รู้ในผนังที่จะกระตุ้นให้คุณหยิบปืนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ใครที่ชอบบรรยากาศแนวบ้านผีสิงนี่ได้สยองจนฟินสามบ้านแปดบ้านแน่นอน​ 

บรรยากาศความสยองเหล่านี้ถูกขับออกมาจนเด่นชัดจากงานภาพในเกมที่สวยงาม ด้วยการใช้กราฟิกเอนจิ้น Frostbite จากซีรีส์ Battlefield และงานดีไซน์ที่ลงรายละเอียดอย่างประณีตในทุกฉาก ทุกโมเดลตัวละคร และทุกโมเดลอาวุธช่างทั้งหลาย ซึ่งทีมพัฒนายังนำเสนอดีไซน์ใหม่ อิงแรงบันดาลใจจากของเดิมได้อย่างน่าสนใจ ถึงอะไรๆ จะดูต่างไป แต่มันก็ยังให้ความรู้สึกเหมือนของดีในความทรงจำเหมือนเดิม

ส่วนจุดที่ต้องขอชมยิ่งกว่างานภาพก็คืองานเสียงในเกม ซึ่งเสียงในเกมนี้ถือเป็นพระเอกตัวจริงของการสร้างบรรยากาศความน่ากลัวเลยก็ว่าได้ ทั้งเสียง Necromorph นานาพันธุ์ที่ฟังดูน่าเกลียดน่ากลัวสั่นประสาทมาก เสียงเครื่องยนต์ในยาน Ishimura ที่ดังสนั่นน่าเกรงขาม และเสียงดนตรีสยองเสียดหูแต่น่าจดจำ เสียงเหล่านี้พร้อมจะทำให้คุณสติแตกทุกครั้งที่ได้ยิน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเสียงสยองเสียงเดียวกับในวันวานที่แฟนภาคเก่ายังจำกันได้นั่นแหละ เพียงแต่มันคมชัดขึ้นมาก นอกจากนี้ เสียงอาวุธสารพัดชนิด ไล่ตั้งแต่พลาสมาคัตเตอร์ เลื่อยยนต์สุญญากาศ หรือเสียงเผาไหม้ของปืนไฟต่างก็ฟังดูมีพิษสงที่ร้ายกาจ มีน้ำหนัก เมื่อผสมกับเสียงเนื้อกระจุยจากร่างสัตว์ประหลาดยิ่งทำให้การยิงอุปกรณ์ช่างในเกมนี้มันส์สุดๆ มันส์หยดติ๋ง ชิ้นส่วนกระจาย เผลอๆ มันส์กว่าเกมเดินหน้ายิงเกมอื่นที่ออกมาช่วงนี้ซะอีก

นอกจากเรื่องเสียงเอฟเฟกต์และดนตรีประกอบขั้นเทพ ทีมพัฒนาเขายังตัดสินใจใส่เสียงพากย์ให้กับพระเอก Isaac ในภาคนี้ด้วย ซึ่งต้องขอยกนิ้วให้การตัดสินใจครั้งนี้เลย เพราะมันเป็นการตัดสินใจที่ถูกมาก โดยคุณ Gunner Wright ที่เคยให้เสียงพากย์นาย Isaac ในภาค 2 และ 3 ได้กลับมารับบทนายช่างดวงกุดคนนี้อีกครั้ง และมันช่วยทำให้ Isaac ในเกมดูเป็นตัวละครที่มีมิติขึ้นมาก ไม่ใช่เป็นแค่ตัวแทนของผู้เล่นที่เอาแต่เงียบ ใครสั่งอะไรก็ทำ ที่สำคัญคือเกมยังใส่บทสนทนาที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขาเป็นช่างจริงๆ หลายครั้งที่เราจะได้เห็นเขาโชว์ภูมิวิศวกรในระหว่างบทสนทนากับตัวละครอื่น รวมทั้งมีโมเมนต์ขวัญหนีดีฝ่อ ไม่ต่างไปจากคนทั่วไป ส่วนตัวละครหลักคนอื่นๆ ในเรื่องก็มีบทสนทนาและมีบทบาทสำคัญให้เห็นมากขึ้น โดยเฉพาะในฉากคัทซีนที่ภาค Remake เพิ่มเข้ามาเนียนๆ เป็นจำนวนไม่น้อย ทำให้ผู้เล่นจำได้ว่าตัวละครฝ่ายเรามีใครบ้าง ตัวละครตัวไหนเป็นตัวร้าย และทำให้เนื้อเรื่องของไตรภาค Dead Space ดูเป็นเนื้อเดียวกันยิ่งกว่าเดิม

ยาน Ishimura ลำใหม่ ขนประสบการณ์ความสยองที่ลื่นไหล

นอกเหนือไปจากงานภาพและงานเสียง ​จุดต่างที่ดีที่สุดก็เห็นจะไม่พ้นฝีมือการดีไซน์ยาน Ishimura ในภาคใหม่ของทีม Motive Studio ที่ทำให้ส่วนต่างๆ บนยานเชื่อมต่อถึงกันหมด ไร้ซึ่งหน้าจอโหลดเกมคั่นให้เสียอารมณ์ เรียกได้ว่าแปลงโฉม Dead Space ให้เป็นเกมแนว Metroidvania ในทันที เหมือนกับซีรีส์ Darksiders หรือ God of War (2018) ที่เราต้องวิ่งกลับไปกลับมาในโลกของเกมเพื่อทำภารกิจ นอกจากนี้ ทีมพัฒนายังออกแบบฉากให้มีทางแยกมากขึ้น ผู้เล่นจะเลือกได้เองว่าอยากเดินไปทำภารกิจย่อยอันไหนก่อน ซึ่งมันช่วยให้เรารู้สึกว่ายาน Ishimura เป็นสถานที่จริงที่เราต้องติดอยู่ในนั้น เปลี่ยนให้ฉากในเกมกลายเป็นตัวละครที่น่าเกรงขามที่สุดของเรื่องไปเลย ถึงแม้ช่วงท้ายความขลังอาจจะเสื่อมคลายลงไปบ้าง เพราะเกมยาวตั้ง 10 กว่าชั่วโมง และการวิ่งย้อนไปย้อนมาบ่อยๆ ก็ทำให้มันเริ่มดูจำเจ

จุดปรับอื่นๆ ก็คือเกมยังมีห้องเล็กห้องน้อย รวมถึงมีภารกิจเสริม เพื่อให้ผู้เล่นใช้ฟาร์มของได้ เน้นเอาใจสายโอ้เอ้ที่ชอบออกนอกลู่นอกทาง และยังให้อารมณ์กึ่งเกม RPG นิดๆ ซึ่งเกมเมอร์ผู้ชอบสำรวจซอยมืดๆ ทั้งหลายจะได้รู้ถึงเรื่องสยองๆ ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยานลำนี้ (อารมณ์เหมือนอ่านการ์ตูนผี 5 บาท) แค่นั้นยังไม่พอ เพราะหลังจากเล่นเกมจบรอบหนึ่งแล้วคุณยังสามารถกลับมาฟาร์มของกันต่อในโหมด New Game+ ได้อีก ซึ่งมันยังมีโบนัสลับเล็กๆ น้อยๆ ที่เกมเพิ่มขึ้นมา มีฉากจบพิเศษ และศัตรูที่โหดหินกว่าเดิมมาให้สู้ด้วย

ส่วนของเดิมที่ดีอยู่แล้วตั้งแต่เกมออกมาเมื่อ 15 ปีก่อน เช่น เนื้อเรื่องสุดระทึก เกมเพลย์การยิงศัตรูที่เน้นหั่นศัตรูเป็นส่วนๆ กับอุปกรณ์การช่างสุดโหดสารพัดแบบ (เครื่องตัดเหล็ก เลื่อย ปืนพ่นไฟ เครื่องอัดแรงดัน เครื่องตัดเหล็กตัวพ่อ ฯลฯ)​ ก็ยังดีเหมือนเดิมไม่เสื่อมคลาย และทีม Motive Studio เขายังใส่ใจเปลี่ยนของที่ไม่ค่อยดีออกไปซะด้วย ทั้งปรับฉากสู้บอสและฉากยิงอุกกาบาตที่น่ารำคาญ ให้กลายเป็นฉากตั้งค่าป้อมปืนที่เล่นสนุกจนจำของเดิมไม่ได้เลย เช่นเดียวกับฉากไร้แรงโน้มถ่วงที่ได้รับการเปลี่ยนให้พระเอกสามารถบินแบบ 360 องศาอย่างเต็มที่เหมือนใน Dead Space ภาค 2 จนเราลืมการวิ่งไต่ผนังแบบเก้ๆ กังๆ ไปเรียบร้อย

น่ากลัวกว่าเหล่าศพเดินได้ก็คือบั๊กในเกมนี่แหละ​

ในแง่คอนเซ็ปต์และความคิดสร้างสรรค์ที่เขาใส่ลงไปในการรีเมคครั้งนี้ เราแทบจะไม่มีอะไรให้ติทีม Motive Studio เลย แต่ในแง่เทคนิคการพอร์ตเกมนี้ลง PC มันไม่ได้สวยหรูแบบนั้นนี่สิ เพราะปัญหาที่พบบ่อยใน Dead Space เวอร์ชันนี้ก็คือ ไม่ว่าคอมของคุณจะสเป็คเทพแค่ไหน เกมก็สามารถออกอาการกระตุกให้เห็นได้เป็นระยะๆ โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องเดินไปเข้าฉากใหม่ เวลาเกมตัดเข้าฉากคัทซีน หรือบางทีแค่เล่นไปนานเกินหนึ่งชั่วโมง เฟรมเรตเกมก็สามารถร่วงหล่นจนน่าตกใจได้ 

ปัญหาพวกนี้น่าจะมาจากการที่เกมไม่ได้รับการปรับแต่งมาให้เล่นได้ราบรื่นกับฮาร์ดแวร์ที่หลากหลายมากพอ รวมถึงอาจจะปรับแต่งเทคโนโลยี AI Upscaling อย่าง DLSS หรือ FidelityFX มาได้ไม่ดีพอด้วยก็ได้ ซึ่งมันก็ทำให้เสียอารมณ์ความสยองได้เหมือนกัน และเราคงต้องรอแพทช์จากทีมพัฒนาอีกสักพักกว่าบั๊กอันน่าสะพรึงพวกนี้จะหายเรียบ

นอกจากเรื่องปัญหาทางเทคนิค อีกจุดหนึ่งที่ต้องเรียกว่าเป็นข้อควรระวังสำหรับแฟนเกม Survival Horror แบบฮาร์ดคอร์และคนที่เคยเคลียร์เกมภาคแรกมาแล้ว ก็คือ Dead Space Remake อาจจะไม่ได้กดดันผู้เล่นและมีความท้าทายมากพอในความยากระดับ Medium หากคุณรู้อยู่แล้วว่าต้องยิงตรงจุดไหน พวกศพเดินได้เหล่านี้ก็ร่วงได้จากกระสุนไม่กี่นัด อีกอย่างเกมยังแจกกระสุนมาให้เราแบบค่อนข้างป๋ามาก ดังนั้นใครที่อยากเล่นให้ได้อารมณ์แบบเกมสยองขวัญเอาชีวิตรอดจริงๆ ขอแนะนำให้เริ่มจากระดับ Hard ดีกว่าครับ

ถึงเวลาเกมสยองคืนชีพ

การรีเมคเกมให้ได้อารมณ์เหมือนเดิมเด๊ะ ทั้งที่จริงๆ แล้วมีจุดต่างจากเดิมเพียบ ถือเป็นศาสตร์และศิลป์ระดับปรมาจารย์ที่ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ โดยเฉพาะกับเกมนี้ เกมที่หากใครเคยเล่นภาคแรกแล้วนำมาวางเทียบ Dead Space Remake แบบช็อตต่อช็อต จะรู้ได้ทันทีเลยว่ามันแตกต่างไปจากต้นฉบับมากแค่ไหน ความสุดยอดของมันคือ คุณแทบจะไม่รู้สึกว่าเกมต่างจากตอนที่เล่นครั้งแรกเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วเลยนี่แหละ เพราะการปรับ การเปลี่ยน และการต่อยอดอย่างแนบเนียนสุดๆ ทำให้สมองของเกมเมอร์หลอกตัวเองไปหมดแล้วว่าเกมยังสนุกมากเหมือนที่จำได้เลย แม้ว่ามันจะมีบั๊กมากขึ้นกว่าเดิมด้วยก็ตาม

Dead Space Remake พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าปีนี้จะเป็นปีที่น่าสนุกสำหรับเกมแนว Survival Horror คลาสสิกทั้งหลาย เพราะขนาดการรีเมค Dead Space ยังทำได้ดีขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเกมที่เป็นแรงบันดาลใจของอวกาศมรณะอย่าง Resident Evil 4 จะรีเมคออกมาได้ดีขนาดไหน แต่ที่แน่ๆ คือเกมเมอร์อย่างเรามีแต่ได้สยองพองขนปนความสนุกกันยาวๆ แน่นอน