Bravia A8F เป็นทีวี OLED สำหรับผู้ใช้ทั่วไปรุ่นที่ 2 ต่อจาก Sony Bravia A1 ที่เรารีวิวไปเมื่อปีที่แล้ว โดยมีจุดแตกต่างสำคัญระหว่าง A1 เมื่อปีที่แล้วกับ A8F รุ่นประจำปีนี้คือดีไซน์ที่ปรับมาเป็นทีวีทรงมาตรฐานมากขึ้น มีขาตั้งแบนๆ อยู่ด้านล่าง เพื่อให้ทีวีตั้งตรงขึ้นมา ตัวจอไม่ได้ตั้งเอียงกับพื้นโต๊ะเหมือน A1 แล้ว แต่เมื่อมองจากด้านหน้าก็ยังเป็นทีวีที่เรียบมากอยู่ดีครับ ด้วยขอบจอที่บางมาก และขาตั้งที่บางเฉียบจนแทบมองไม่เห็นถ้าเรานั่งดูทีวีอยู่ ส่วนโลโก้ Sony ก็หลบมุมอย่างถ่อมตัวอยู่ตรงมุมนี้ครับ แต่ด้วยความที่จอทีวีแทบไม่ได้ยกสูงขึ้นจากพื้นโต๊ะเลย ใครที่ต้องการวางลำโพง Sound Bar หน้าทีวีอาจจะต้องเปลี่ยนรูปแบบการติดตั้งทีวีเป็นแขวนผนังแทน เพราะ Sound Bar จะไปบังจอได้ถ้าวางปกติ

เก็บสายได้ง่ายขึ้น !!

อีกเรื่องที่เราชอบดีไซน์ใหม่มากคือด้านหลังทีวีที่สามารถเก็บซ่อนสายให้มาออกที่เดียวตรงขาตั้งได้ ความลับคือพลาสติกครอบที่เปิดออกได้เหล่านี้ครับ ที่ซ่อนความรุกรังของสายได้เป็นอย่างดี ซึ่งพอร์ตที่ Sony Bravia A8F มีมาให้ก็มากเกินพอครับ มี HDMI มา 4 ช่อง เป็นพอร์ตแบบ ARC 1 ช่อง ให้ USB มา 3 ช่อง เป็น USB 3.0 1 ช่อง ช่องเสียบสายแลนอีก 1 ช่อง ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อเสียงแบบ Optical ก็มีให้นะครับ

เสียงกระหึ่มด้วย Built-in Subwoofer ไม่ต้องซื้อลำโพงเพิ่ม

แผงด้านหลังของทีวีนี้ก็เป็นที่อยู่ของ Subwoofer นะครับ ตรงช่องนี้ ซึ่งเป็น Built-in Subwoofer คู่ ให้เสียงทุ้มได้ทรงพลังกว่า Bravia A1 ที่มี Subwoofer ตัวเดียว ส่วนลำโพงด้านหน้านั้นไม่มีเหมือนเดิมครับ! ไม่ใช่อะไร Sony Bravia A8F ใช้เทคโนโลยี acoustic surface ที่เคยใช้ A1 ในการสั่นสะเทือนจอ OLED ด้านหน้าให้เกิดเสียง ถ้าจับจอจะรู้สึกเลยว่าจอสั่นอยู่ ซึ่งข้อดีของลำโพงในตัวจอแบบนี้คือเสียงออกมาจากแหล่งกำเนิดเสียงในภาพเลย คือดูหนังดูละครก็เหมือนเสียงออกมาจากปากนักแสดงให้ความรู้สึกสมจริง ซึ่งคุณภาพของเสียงจากทีวีไร้ลำโพงด้านหน้าตัวนี้ก็ถือว่าดีเลย เปิดเพลงก็ให้เสียงสดใส เปิดหนังก็ให้เสียงกระหึ่มได้อยู่ มีเรื่องเดียวที่ให้ไม่ได้คือเสียงรอบทิศทาง ที่ต้องซื้อชุดลำโพงเพิ่มนะครับ

ภาพจัดเต็มด้วย OLED

มาเรื่องคุณภาพของหน้าจอกันบ้าง Sony Bravia A8F เป็นจอ OLED ก็ให้ Contrast ภาพได้ดีเยี่ยม สีดำก็ดำสนิทเพราะปิดเม็ดพิกเซลไปเลย ซึ่งจอดีๆ ก็ต้องใช้ชิปดีๆ ทีวีตัวนี้ใช้ชิปประมวลผลภาพ X1 Extreme ช่วยรักษารายละเอียดภาพพร้อมจูนสี HDR บริเวณต่างๆ ของภาพให้สวยงาม และใครที่รักการแสดงผลภาพแบบนุ่มๆ หรือที่เรียกว่า Soap Opera Effect ทีวีตัวนี้ก็สามารถประมวลผลภาพให้ได้เฟรมเรต 120 fps ได้ ดูกันไปเลยให้ตานุ่ม

เอาเป็นว่า ถ้าใครเคยดูแต่ทีวี LED ทั่วไป ลองดูภาพจากจอ OLED ของ Bravia A8F ดูครับ แล้วจะสตั้นจนไม่อยากใช้จอแบบเก่าอีกเลย

Android TV มีอะไรให้คุณเล่นเพียบ !

แน่นอนว่าทีวี Bravia ก็ต้องใช้ระบบปฏิบัติการ Android TV เกี่ยวก้อยกันเป็นบุฟเพสันนิเวสมาหลายรุ่นแล้ว ก็ทำให้ลงแอปได้หลากหลาย อย่างแอป Netflix ก็แสดงผล 4K HDR ได้สวยงาม และจะสนับสนุน Dolby Vision ในอนาคตด้วย แอปความบันเทิงยอดฮิตอย่าง iflix, Hooq, MonoMaxxx, Doonee ก็โหลดมาติดตั้งในเครื่องได้ เป็นระบบปฏิบัติการที่รองรับความบันเทิงในบ้านเรามากที่สุดแล้ว ที่สำคัญยังแคสภาพจากมือถือขึ้นจอได้ทันทีเพราะมี Chromecast ในตัว ไม่ต้องซื้อตุ่ม chromecast มาเสียบเพิ่มอีก

มีผู้ช่วย Google Assistant ด้วยนะ

และความสามารถที่ดีมากๆ คือ Google Assistant ครับ กดที่ปุ่มไมโครโฟนตรงนี้ กูเกิ้ลก็พร้อมจะพูดคุยกับเรา เช่นถามว่า “วันนี้เป็นอย่างไร” ในภาษาอังกฤษ กูเกิ้ลก็จะสรุปสภาพอากาศและรายละเอียดอื่นๆ ให้เรา หรือสั่งให้เปิดเพลง มันก็จะเปิด Spotify มาให้ หรือสั่งเปิดหนังใน Netflix ก็วิ่งตรงเข้าไปในหน้าหนังได้ทันที
แต่เสียดายว่า Google Assistant บนอุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่มือถือ ยังใช้ภาษาไทยไม่ได้นะครับ โดยฟังก์ชั่นทั้งหมดของ Google Assistant บนทีวีแบบนี้จะเปิดใช้ในอเมริกาก่อน ส่วนในไทยที่พร้อมพูดเสียงไทยคงอีกไม่นานครับ

ราคาและวันวางจำหน่าย

และสุดท้ายคือเรื่องของราคา Sony Bravia A8F นั้นมีราคาเริ่มต้นที่ 84,990 บาท สามารแวะเวียนไปสอบถามที่ Sony Store, Sony Center, Power Mall, Power Buy, Home Pro และร้านขายทีวีชั้นนำได้ทั่วประเทศครับ