สเปค Vivo NEX S (เครื่องที่รีวิว)

หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ (2316 x 1080 พิกเซล), อัตราส่วน 19.3:9
ชิปเซ็ต Snapdragon 845 ระดับ 10 นาโนเมตร, ชิปกราฟิก Adreno 630
แรม 8 GB
ความจุ 128 GB รองรับ MicroSD Card
กล้องหลังคู่ 12 (f/1.8) + 5 (f2.4) ล้านพิกเซล
กล้องหน้า 8 (f/2.0) ล้านพิกเซล
ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบด้วย Funtouch OS 4.0
แบตเตอรี่ 4,000 mAh
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
ผู้ช่วยดิจิทัล Jovi
ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.

ภาพรวมของตัวเครื่อง

มือถือเรือธงจาก VIVO ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ก็ได้มาถึงมือหนุ่ย พงศ์สุขแล้วเรียบร้อย โดยภาพรวมคือค่อนข้างสวยครับ ฝาหลังสะท้อนแสงสีรุ้งเหมือนเซนเซอร์กล้อง แล้วก็มีช่องสำหรับเปลี่ยนซิมอยู่ด้านล่าง ใส่ได้ 2 ซิมแต่ไม่มีช่องใส่ microSD ให้ มีช่องเสียบหูฟัง 3.5mm มา

VIVO NEX มาพร้อมหน้าจอแบบ Super AmoLED ขนาด 6.59 นิ้วที่ความละเอียด FullHD+ อัตราส่วน 19.3 ต่อ 9 แบบ “ไร้ขอบ” งานนี้ไม่ต้องมีแหว่งแล้ว และมีระบบสแกนนิ้วบนหน้าจอเลย ส่วน VIVO NEX A เป็นสแกนนิ้วด้านหลังเหมือนเดิม

ส่วนเรื่อง Jovi ทางทีมงานทดสอบแล้วยังไม่สามารถใช้งานได้ น่าจะเกิดจาก Firmware ที่ยังไม่สมบูรณ์ครับ

สิ่งที่ไม่พูดไม่ได้สำหรับเจ้ามือถือเครื่องนี้คือเรื่องของกล้องที่มาพร้อมกล้องหลัง 12 ล้าน f1.8 + 5 ล้าน f2.4 ก็ถือว่าพิคเซลไม่สูงมาก แต่จุดเด่นจริง ๆ อยู่ที่ความสามารถของกล้องครับ สามารถถ่ายภาพได้หลายโหมดด้วยกัน ตั้งแต่โหมดปกติ โหมด Profressional โหมด Face Beauty หรือแม้แต่โหมด AR Stickers ก็มีนะ

โหมดทั่วไป

ไม่มีอะไรต่างจากมือถือรุ่นอื่น ๆ โดยสามารถถ่ายสเกล 19.3:9 เพื่อเอามาใช้เป็น Wallpaper ได้ด้วยนะ ส่วนการถ่าย Portrait mode เราจะสามารถปรับรูรับแสงแบบเดียวกับการปรับ EV เลย ง่ายกว่าเดิมเยอะ

จุดเด่นอีกอย่างคือเรื่องกล้องหน้าที่จะค่อย ๆ เลื่อนขึ้นมาเวลาสลับกล้อง

โหมด Profressional

แน่นอนว่ากล้องมือถือสมัยนี้มาพร้อมโหมด Professional กันหมดแล้ว แต่จุดเด่นของ Vivo NEX นี้คือ ISO ที่สามารถตั้งได้ต่ำสุดถึง 50 งานนี้จะเจอแสงแรงแค่ไหนก็เอาอยู่ ส่วนสูงสุดได้แค่ 3200 เหมือนมือถือทั่วไปครับ มาดูที่ค่า Shutter Speed กันบ้าง ก็บอกได้ว่าค่อนข้างทึ่งเหมือนกันครับที่สามารถลากได้ต่ำสุดถึง 1/12000 น่าเอาไปถ่ายการแข่ง F1 จริง ๆ แต่น่าเสียดายว่าโหมดนี้ปรับค่า f ไม่ได้นะครับ

โหมด Face Beauty

สาว ๆ หลายคนก็ไม่พ้นต้องขอสวยไว้ก่อน VIVO Nex ก็มีโหมด Face Beauty หรือโหมดหน้าสวย เพียงแค่กดปุ่มมุมขวาล่าง คุณก็สามารถเลือกปรับระดับความฟรุ้งฟริ้งได้ยันระดับ AI ที่จะมาช่วยตกแต่งหน้าให้คุณแบบจัดเต็มไปเลย !

โหมด Video

มาดูที่โหมดถ่ายวีดิโอกันบ้าง ก็มีให้คุณถ่ายได้ตั้งแต่ 720p ยัน 4k โดยจะบอกรายละเอียดว่า ถ้าคุณถ่าย 1 นาที วีดิโอที่ได้จะมีขนาดเท่าไหร่ ช่วยให้คุณประมาณได้ว่าพื้นที่ของเครื่องเราจะพอไหมได้ดีเลยทีเดียว แถมมีโหมด Face Beauty สำหรับวีดิโอให้ด้วยนะ ส่วนระบบกันสั่นนั้น ไม่ค่อยดีมากเท่ากับมือถือเรือธงค่ายอื่น ๆ แต่ถ้าคุณใช้พวก Osmo หรืออุปกรณ์กันสั่นน่าจะช่วยได้เยอะครับ

โหมด AR Stickers

อีกโหมดสุดคิกคุสำหรับคนชอบติด ติ๊กเกอร์ บนหน้า ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดีนะครับ และระบบ AI ของมือถือค่อนข้างฉลาดครับ คือต้องหันเยอะจริง ๆ มันถึงจะตัดออกไป แถมคุณถ่ายวีดิโอได้ด้วยนะ เอาไว้บันทึกภาพฮา ๆ แล้วส่งให้เพื่อนคุณได้ง่าย ๆ เลย

ราคา (ยังไม่ยืนยันราคาไทย)

ปิดท้ายด้วยราคาที่เปิดตัวในจีน สำหรับรุ่นที่ผมถืออยู่คือ Vivo Nex S รุ่น Rom 128 GB มีค่าตัวอยู่ที่ 4,498 หยวนหรือประมาณ 22,500 บาท นั่นเอง ถ้าราคาไทยมาเมื่อไหร่ ทีมงานแบไต๋จะอัปเดทให้คุณทันที แน่นอน!