หนุ่ย พงศ์สุข รีวิว #OPPO F9 มือถือสุดคุ้มรุ่นใหม่ ราคาหมื่นนิดๆ กับ RAM 6GB กล้องหน้า 25MP และเทคโนโลยีชาร์จไว VOOC Flash Charge เพียง 5 นาที คุยได้ 2 ชั่วโมง มาดูกันว่าเจ๋งขนาดไหน?

จุดเด่นของ OPPO F9

จุดเด่นมากๆ ของ OPPO F9 คือราคาเมื่อเทียบกับสเปคและความสามารถที่ได้นั้นคุ้มค่ามาก คือ F9 เปิดตัวที่ราคา 10,990 บาท แต่ได้ RAM 6 GB หน่วยความจำ 64 GB พร้อมกล้องหลัง 16+2 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า HDR ความละเอียด 25 ล้านพิกเซลด้วย คือสเปคนี้ใช้งานทั่วไป เปิดเว็บ เล่นเฟซบุ๊ก, ไลน์ ลื่นไหลหมดแหละครับ ใครมองหาสมาร์ทโฟนคุ้มราคา OPPO F9 ก็เป็นทางเลือกที่ดี

ไอ้แหว่งกลายเป็นรูปหยดน้ำ

ก่อนที่เราจะไปเล่าเรื่องประสิทธิภาพกับกล้องอย่างละเอียด เห็นอะไรนี่ไหมครับ OPPO ทำแปลกกับไอ้แหว่งของเราอีกแล้ว คราวนี้มาเป็นรูปหยดน้ำกินพื้นที่หน้าจอน้อยเข้าไปอีก ให้พื้นที่แสดงผล 90.8% ของด้านหน้า เล่นเอาไอ้แหว่งของ iPhone X กลายเป็นเทอะทะไปเลย แล้วเห็นเล็กๆ แบบนี้เค้าใส่เซนเซอร์มาครบนะ ทั้งกล้องหน้า ลำโพงแนบหู เซนเซอร์ปรับแสงจอ เซนเซอร์แนบหู อัดรวมอยู่ตรงนี้ได้หมด

ความละเอียดของจอ

ซึ่งจอของ OPPO F9 นั้นมีความละเอียด FullHD+ 2340 x 1080 pixel มีขนาด 6.3 นิ้วครับ ก็ให้ภาพสว่างสดใสดีครับ และให้ภาพเต็มตามากๆ อย่าง Youtube หรือ Netflix ก็สามารถขยายมาจนสุดจอได้ ดูกันให้เต็มๆ ไปเลย

ลวดลายด้านหลังเครื่องสุดล้ำ

ที่ต้องชม OPPO อีกอย่างคือ OPPO ในยุคหลังเริ่มออกแบบเครื่องเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมากขึ้นนะครับ อย่าง F9 ตัวนี้ก็มีฝาหลังสะท้อนแสงเงางาม ไล่เฉดสีมาจนถึงขอบข้างเครื่องเลยแหละ ที่ตัวฝาหลังก็มีลวดลายกลีบดอกไม้ ตัวที่เราได้มานี้เป็นสีน้ำเงิน Twilight Blue อาจจะดูยากหน่อย แต่ถ้าเป็นเครื่องสีแดง Sunrise Red จะเห็นลวดลายที่ฝาหลังชัดมาก และ F9 ยังมีให้เลือกอีกสีคือม่วง Starry Purple ที่จะขายเดือนหน้าด้วย

มาดู CPU กันบ้าง

OPPO F9 นั้นใช้ CPU เป็น Helio P60 ชิปตัวแรงสุดของค่าย MediaTek ตอนนี้ พร้อมแรม 6 GB ซึ่งก็ใช้งานทั่วไปได้ลื่นไหลดีครับ เล่นเกมทั่วไปก็ลื่นดี แต่ถ้าเป็นเกมที่กินกราฟิกหนักจริงๆ อย่าง Asphalt 9 ที่ปรับกราฟิกเป็นระดับ High จะรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของภาพไม่นุ่มนวลนัก แต่เทียบกับราคาเครื่องหมื่นต้น มันก็ยังโอเคครับ

เรื่องของกล้องหน้า / กล้องหลัง

เรื่องที่ต้องพูดถึงเยอะๆ เลยคือเรื่องกล้องที่ OPPO จริงจังเรื่องนี้มาก ตั้งแต่กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล f/1.8 พร้อมกล้องรองสำหรับวัดระยะ ทำให้ถ่าย Portrait หน้าชัดหลังเบลอได้สวยงาม แถมปรับรูปแบบแสงเวลาถ่าย Portrait ได้ด้วย พร้อม AI แยกซีนภาพเพื่อปรับแต่งให้เหมาะสมได้ 16 แบบ แต่กล้องหลังตัวนี้ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด Full HD 1080p นะครับ ยังถ่าย 4K ไม่ได้ แล้วก็ถ่าย Slow motion ได้ 120 fps ที่ความละเอียด 720p

ส่วนกล้องหน้านั้นมีความละเอียด 25 ล้านพิกเซล f/2.0 จุดเด่นของกล้องหน้าคือเป็นเซนเซอร์แบบ HDR ทำให้แม้กล้องจะเร่งแสงจนหน้าสว่างขึ้น แต่ก็ยังเก็บรายละเอียดของฉากหลังมาได้ ไม่สว่างเวอร์จนไม่รู้ว่าถ่ายที่ไหน พร้อม AI Beauty 2.1 ที่ปรับแต่งหน้า คอและแขนให้สวยสดใสด้วย (นี่เราต้องสวยกันยันแขนเลยนะครับตอนนี้) และโหมดที่หลายคนน่าจะชอบคือ AR แต่งหน้าให้ฟรุิ้งฟริ้งได้ ส่วนกล้องหน้านี้สามารถตรวจสอบใบหน้าเพื่อปลดล็อกเครื่องได้ด้วย ทำงานพร้อมๆ กับเซนเซอร์อ่านลายนิ้วมือด้านหลังนี้ครับ

ถาดใส่ซิม 2 ซิมพร้อม MicroSD ได้

อีกเรื่องที่น่าสนใจคือถาดซิมนี้ใส่ nano Sim ได้ 2 ตัวพร้อมใส่ MicroSD สูงสุด 256 GB ไปพร้อมกันได้เลย นานๆ จะมีมือถือ 3 ถาดแบบนี้นะครับ ซึ่ง OPPO F9 ก็รองรับ 4G พร้อมกันทั้ง 2 ซิม และใช้ VoLTE และ VoWiFi ได้ด้วย

ตัวแรกที่มาพร้อม VOOC Flash Charge

OPPO F9 เป็นมือถือซีรี่ส์ F ตัวแรกที่มาพร้อมระบบชาร์จ VOOC Flash Charge นะครับ ชาร์จ 5V 4A หรือไฟ 20 Watt เข้าเครื่องอย่างเร็ว ชาร์จแค่ 5 นาทีก็โทรคุยได้ 2 ชั่วโมงแล้ว และมั่นใจเรื่องความปลอดภัยด้วย 5 ขั้นตอนตรวจเช็คของระบบให้ปลอดภัยระหว่างการชาร์จเร็ว ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ไม่เห็นข่าวมือถือ OPPO ลุกไหม้นะ

ส่วนแบตเตอรี่ให้มา 3,500 mAh ก็อึดพอให้ใช้งานได้ทั้งวัน แต่น่าเสียดายที่ยังใช้ MicroUSB เป็นพอร์ตเชื่อมต่ออยู่ สงสัยจะมีแต่ OPPO Find X ที่ได้ใช้ USB-C แต่ยังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม.มาให้นะ ส่วนลำโพงมีจุดเดียวใต้เครื่องตรงนี้ ก็ให้เสียงดังใช้ได้

OS เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือปล่อย Wifi ได้

เป็นมือถือ OPPO ก็ต้องใช้ ColorOS รุ่นนี้เป็น ColorOS 5.2 ครอบทับ Android 8.1 อีกที ก็มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง Wi-Fi Tethering ที่แชร์ 3G/4G ทางไวไฟให้เครื่องอื่นใช้ ไม่ใช่ครับ ฟีเจอร์นั้นคือ Personal Hotspot ตัวนี้ครับ Wi-Fi Tethering คือการที่ F9 รับสัญญาณไวไฟมา แล้วปล่อยต่ออีกครั้งเป็นชื่อของเราเอง เช่นเราไปใช้ไวไฟโรงแรมที่จำกัดให้ต่อได้แค่เครื่องเดียว เราก็ใช้ OPPO F9 รับไวไฟแล้วปล่อยให้อุปกรณ์อื่นๆ ของเราใช้ต่อ เจ๋งไหมละ

นอกจากนี้ยังมี Game Space ที่เป็นการปรับแต่งระบบเครื่องให้เหมาะสำหรับการเล่นเกม คือซ่อนการแจ้งเตือนต่างๆ หรือเลือกตัดสายโทรศัพท์ไปเลยก็ได้ เคลียร์แรม เร่งความเร็วกราฟิกเต็มที่ รีดแรงเครื่องให้ได้มากที่สุดเพื่อให้เกมลื่น

ราคา

ปิดท้ายด้วยราคาของ OPPO F9 อยู่ที่ 10,990 บาท ถือว่าเป็นราคากลาง ๆ แต่แถมลูกเล่นเยอะจริง ๆ ครับ!