เรียกได้ว่าปัจจุบันคนเริ่มรู้สึกว่ากระเป๋าสตางค์มันหนัก หนักขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเหรียญ ธนบัตร รวมไปถึงบัตรสมาชิกต่าง ๆ ที่พกไปเพื่อแลกสิทธิประโยชน์มากมาย แต่นี่มันยุค cashless society สังคมไร้เงินสดแล้ว จะมัวมาพกกระเป๋าเงินอยู่ไม่ได้ อย่างที่เมืองจีน ขนาดร้านขายผลไม้ข้างทางยังต้องจ่ายเป็น QR code ตัดภาพมาที่เมืองไทยที่เทรนด์ไร้เงินสดก็กำลังเป็นที่นิยม ทำออกมาแข่งขันกันมากมายหลายแบรนด์ ไม่ว่าเป็นเอกชน หรือธนาคาร ต่างก็มีแอปฯ ของตัวเองแทบทั้งสิ้น แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงแอปฯ ล่าสุดที่เปิดตัว นั่นคือ Dolfin (ไม่ได้แปลว่าโลมานะครับ) จะเป็นแอปฯ แบบไหน มาดูกัน

Dolfin

Dolfin เป็นแอป e-wallet ของบริษัท Central JD Money ที่ร่วมลงทุนโดย

  • เครือเซ็นทรัล
  • บริษัทเจดี ดอทคอม e-commerce รายใหญ่ของจีน
  • บริษัท เจ ดี ดิจิตส์ผู้นําด้านเทคโนโลยีการเงินจากประเทศจีน

เรียกว่าบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ยอมรับอย่างมากในจีนส่วนเครือเซ็นทรัลเราก็รู้กันดีอยู่แล้วว่ามีห้างเกือบทุกหนแห่ง ก็ทำให้คุณสามารถใช้แอปฯ นี้กับบริการต่าง ๆ ภายในห้างเซ็นทรัลได้อย่างเต็มที่ แล้วมันต่างจากแอป e-wallet อื่น ๆ ยังไงเดี๋ยวมาไล่กันเลยครับ

วิธีการสมัคร

ส่วนใหญ่ถ้าเราเคยใช้อีวอลเลตมาก่อนก็ต้องพิมพ์ทั้งเลขเลเซอร์หลังบัตรประชาชน ทั้งที่อยู่ ทั้งวันดือนปีเกิด เยอะแยะมากมายเต็มไปหมด แต่แอปนี้คือแค่สแกนบัตรประชาชนด้านหน้า ด้านหลัง และกรอกข้อมูลชื่อ นามสกุล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด ระบบก็จะแสดงข้อมูลในบัตรขึ้นมาทั้งหมด เพียงแค่เรากรอกเพิ่มเติมเล็กน้อย แล้วก็ยกมือถือขึ้นมาสแกนใบหน้า แค่เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว สมัครง่ายสุด ๆ

ซึ่ง Dolfin เป็นแอปกระเป๋าเงินออนไลน์รายแรกในประเทศไทยที่ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า หรือ Facial Recognition ในการยืนยันตัวตนออนไลน์ e-KYC (Electronic Know Your Customer) นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยี OCR (Optical character recognition) ที่สามารถดึงตัวอักษรขึ้นมาจากภาพ ทำให้ช่วยประหยัดเวลาพิมพ์ข้อมูลต่างๆ เช่นบัตรประชาชน หรือบัตรเครดิต ได้อย่างรวดเร็วทันใจจริง ๆ

แต่อาจจะมีบางคนถามว่า แล้วถ้าใครแอบเอาภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว จะติดไหม ? คำตอบคือ ไม่ต้องห่วงครับ เพราะส่วนภาพนิ่งถ้าไปแคปมา หรือ ใช้บัตรประชาชนเนียน ก็ไม่ได้แน่นอนครับเพราะคุณต้องกระพริบตาตอนถ่ายด้วย หรือใครคิดจะเอา VDO คนอื่นมาเนียนก็หมดสิทธิ์ครับ เพราะระบบของเขาสามารถตรวจจับ frame rate แยกแยะว่าไม่ใช่ภาพต้นฉบับได้อีกด้วย

หลังจากที่คุณสมัครเสร็จแล้ว แอปนี้จะทำการแจ้งผลทันที โดยแทบจะไม่ต้องรอการตอบรับเลย

วิธีใช้งาน

หลังจากสมัครเสร็ก็ถึงเวลาใช้จ่ายกันแล้ว อยากจะบอกอย่างนี้ครับ แอป Dolfin ทำได้แบบครบเครื่อง ทั้งจ่าย ทั้งโอนหากันระหว่าง wallet พูดง่าย ๆ คือ เวลาออกจากบ้านไม่ต้องพกกระเป๋าสตางค์ติดตัวเลย มีเเค่ Dolfin ก็เอาอยู่ ยิ่งถ้าไปยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนที่จุดบริการ Dolfin ก็สามารถเปิดใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ แถมหลังจากสมัครเสร็จสิ้น ระบบจะมอบ gift voucher มาให้ในแอปของเรา 50 บาทอีกด้วย

นอกจากการใช้งานทั่วไปแล้ว คุณยังสามารถโอนหรือรับเงินจากเพื่อนได้ด้วย โดยคุณไม่ต้องมาเสียเวลาพิมพ์เลขบัญชี เเค่ระบุเบอร์มือถือของคนที่มีบัญชี Dolfin หรือ generate QR code ก็ส่งให้เขาสแกนเพื่อโอนเงินให้ได้ทันที

หรือถ้าใครจะหารเงินกินข้าว ก็จะมีระบบที่ให้เราทำการหารโดยใส่จำนวนเงินและจำนวนคนที่หารเข้าไป จากนั้นก็จะมี QR Code แสดงขึ้นมาเพื่อให้เพื่อน ๆ เรายิงเพื่อโอนเงินมารวมกัน ก่อนจะไปชำระเงิน หรือจะออกให้ก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยให้เพื่อน ๆ เปิดแอปมาสแกน QR ก็สามารถทำได้เช่นกัน

และการชำระเงินผ่านแอปฯ ก็เพียงแค่เปิดหน้า QR Code ของเราออกมา พนักงานที่เคาเตอร์ก็จะนำเอามือถือเราไปสแกนผ่านเครื่องอ่านบัตรรุ่นใหม่ เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย ไม่ต้องควักเงินออกมาใช้ซักบาทเดียว ซึ่งแอปนี้สามารถใช้กับร้านในเครือเซ็นทรัล ไม่ว่าจะเป็น ในห้างเซ็นทรัลฝั่งดีพาร์ตเมนสโตร์, โรบินสัน, Tops ซูเปอร์มาเกต, แฟมิลี่ มาร์ต, Auntie Anne’s , Mister Donut, โรงหนังเมเจอร์ และอื่น ๆ อีกมากมายทั่วประเทศ หรือร้านไหนที่มี Thai QR PrompPay ก็สามารถใช้ Dolfin สแกนเพื่อจ่ายเงินได้ด้วยเช่นกัน

ฟังดูแล้ว Concept นี้เขาเรียก ว่า Open Loop คือไม่มีการปิดกั้นว่าต้องเป็นร้านในเครือเท่านั้น ทำให้เราสามารถใช้งานแอปนี้กับพ่อค้าแม่ค้าทั้งในและนอกห้างที่เข้าถึงเทคโนโลยีไร้เงินสดเหมือนที่จีนสักที!

วิธีเติมเงิน

เอ้า จ่าย-โอน จนเพลิน จะเติมเงินกลับเข้าไปทำไงดี? ก็มี 2 วิธีหลัก ๆ ง่าย ๆ คือ

  • เราสามารถเติมเงินเข้าบัญชีได้ตลอดเวลา แค่ผูกบัญชีธนาคารหรือจะเป็นแอป mobile banking (K PLUS และ Bualuang M Banking) หรือเติมผ่านเคาน์เตอร์ Cenpay ได้ทุกจุดทั่วประเทศ
  • สำหรับบัตรเครดิตสามารถผูกได้ทั้ง VISA, Mastercard และ JCB

โปรโมชันพิเศษเพียบ

นอกจากการชำระเงินแล้ว แอปฯ Dolfin ยังสามารถผูกบัตร The 1 เพื่อสะสมคะแนนได้ โดยได้คะแนนมากกว่าการชำระผ่านเงินสดอีกด้วยนะ โดยนอกจากเงินติดกระเป๋าอีวอลเลตแล้ว ยังมีคูปองส่วนลดกว่า 400 บาท สำหรับร้านในเครือเซ็นทรัล และโรงภาพยนต์ในเครือเมเจอร์ทุกสาขาที่ร่วมรายการ โดยจะสามารถใช้ได้ถึงวันที่ 31 ตุลาคมนี

สรุป

  • สำหรับตอนนี้ร้านค้าที่สามารถใช้บริการได้ จะเป็นร้านในเครือเซ็นทรัลและโรงภาพยนตร์เมเจอร์ รวมกว่า 2,700 ร้านค้า ซึ่งในอนาคตจะมีการขยายเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพ และธนาการกสิกรไทย ในการใช้งานร่วมกับเครื่อง EDC และ PromptPay QR Code ของธนาคารเหล่านี้รวม 4 ล้านกว่าจุดทั่วประเทศ
  • ฟังก์ชันการใช้งานเรียกว่าใกล้เคียงกับแอปของธนาคาร หรือ แอป e-wallet ต่าง ๆ แต่ต้องบอกว่า ความพิเศษคือการที่ Dolfin รวมบริการเหล่านี้ไว้ด้วยกัน จบในที่เดียว ทำให้เรียกว่าปลอดเงินสดอย่างแท้จริงแถมส่วนลดและสิทธิพิเศษต่าง ๆ จัดเต็ม
  • ฟังก์ชั่นการแชร์บิล ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นพื้นฐาน คือการหารเท่า ๆ กัน แต่ในอนาคตคงต้องมีฟังก์ชันหารไม่เท่า เช่น คนนี่กินเยอะกว่า อีกคนกินน้อยกว่า บางคนดื่มเยอะ หรือไม่ดื่ม รวมถึงอาจมีการแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ยังไม่คืนเงินด้วย ก็จะได้ไม่ต้องไปเกรงใจไปไล่ทวงเงินกันทีหลัง
  • ปัจจุบันมีแอปไร้เงินสดให้เราเลือกใช้มากมาย ซึ่งก็แต่ละแอปก็ชูจุดเด่นต่างกัน เราไม่สามารถไปตัดสินได้ว่าของใครดีกว่ากัน เเต่ ที่แน่ ๆ คือความปลอดภัยสำคัญที่สุด ซึ่งระบบจดจำใบหน้าในการทำ e-KYC ของ Dolfin ให้ทั้งความทันสมัย และความอุ่นใจไปพร้อม ๆ กัน

โดยรวมแอป Dolfin นี้ตอบโจทย์ cashless society ได้อย่างครบเครื่อง ก็ลองโหลดมาใช้กันดูได้ทั้งบน iOS และ Android โดยโหลดได้ที่นี่เลยครับ