ก่อนหน้านี้คนกลัว FaceApp แต่ถ้าจะกลัวอ่ะ กลัว Facebook ดีกว่า! Facebook มันฟรี เราก็เลยไม่อ่านข้อกำหนดการใช้งานที่แสนจะยาวเหยียด แต่จะบอกให้นะว่า Facebook เนี่ยเปรียบเสมือนเหมืองข้อมูลชั้นดี เป็น platform ที่รวบรวม data อันหอมหวนที่สุดในปฐพี คนก็เลยชอบแอบมาขุดเอาข้อมูลของเราจาก Facebook ไปใช้ วันนี้เพื่อทุกคน #beartai ขออาสาถอดรหัส 10 สาระสำคัญจากข้อกำหนดการใช้บริการของ Facebook ที่คุณควรรู้!

อ่าว แล้วทำไมต้องแคร์? ก็เพราะข้อมูลที่อยู่ในระบบไม่ได้ระเหยหายไป ร่องรอยของข้อมูลจะถูกบันทึกเก็บไว้เป็นไปอีกหลายทศวรรษ เพื่อใช้สร้างประโยชน์ในทุก ๆ อุตสาหกรรม และ data ของเรามันสามารถเปลี่ยนโลกได้แบบ upside down เลยทีเดียว สามารถโน้มน้าวให้เราติดกับกดสั่งซื้อสินค้า แม้แต่เลือกพรรคการเมือง เราเลยจำเป็นต้องรู้ไว้ เพื่อให้เท่าทันสื่อ ไม่ให้ใครมาหลอกเอาข้อมูลไปฟรี ๆ

เนื่องจากในประเทศไทยกว่า 70% ของประชากรไทยนั้นมีแอคเคาท์เฟสบุ๊คใช้ แต่ก็ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น ทั่วทั้งโลกก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่เยอะมาก กว่า 2000 ล้านคน ทำให้รัฐบาลของสหรัฐ ฯ ต้องการหาช่องทางและโอกาสในการเข้ามาตรวจสอบเฟซบุ๊กอยู่เป็นประจำ

มีอยู่หลายกรณีที่เราพอจะสรุปได้ว่าเฟซบุ๊กนั้นน่ากลัวกว่าที่เราคิด ยกตัวอย่างเมื่อคุณโทรศัพท์ พอคุยเสร็จวางแล้วเข้าเฟซบุ๊กต่อทันที จะมีโฆษณาหรือคอนเทนต์ที่ตรงกับหัวข้อสนทนาที่เราพึ่งจะวางไป ถึงจะมีการปฏิเสธจากเฟซบุ๊กอยู่หลายครั้ง ในปี 2018 Joe Osborne โฆษกของเฟซบุ๊กออกมาระบุว่าเฟซบุ๊กไม่ได้ใช้ไมโครโฟนของมือถือในการดักฟัง แต่ทาง Mark Zuckerberg ออกมายอมรับเองว่าไม่เคยใช้พนักงานของทางเฟซบุ๊กดักฟังบทสนทนา แต่จ้างบริษัทจากภายนอกในการถอดเสียงสนทนาจากผู้ใช้ เฟซบุ๊ก เมสเซนเจอร์ เพื่อการทำโฆษณาแบบกำหนดกลุ่มเป้าหมายขนาดย่อย

การที่เฟซบุ๊กสร้างแพลตฟอร์มให้คนทั่วโลกได้ใช้ จะมีข้อกำหนดการใช้บริการที่ปกติแล้วเราจะไม่ได้อ่านกันอยู่และในคลิปนี้แบไต๋จะมาสรุป 10 สาระสำคัญของข้อกำหนดการใช้บริการ (อัปเดตของวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562)

  1. ทางเฟซบุ๊กไม่เก็บค่าบริการดังนั้นผู้ใช้ต้องยินยอมให้ทางเฟซบุ๊กแสดงโฆษณาจากธุรกิจ องค์กรที่จ่ายเงินให้เฟซบุ๊กโปรโมตทั้งในและนอกผลิตภัณฑ์ในเครือเฟซบุ๊กโดยอ้างอิงจากข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ เช่น กิจกรรม และความสนใจของผู้ใช้
  2. การปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เป็นหัวใจหลักในการออกแบบโฆษณาของเฟซบุ๊ก ทางเฟซบุ๊กจะไม่ขายข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ให้กับผู้ลงโฆษณา และไม่แชร์ข้อมูลที่ระบุตัวตนของคุณโดยตรง เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล หรือข้อมูลติดต่ออื่น ๆ ให้แก่ผู้ลงโฆษณา เว้นแต่ว่าคุณให้สิทธิ์อนุญาตเป็นการเฉพาะกับเฟซบุ๊ก
  3. หลังจากที่เฟซบุ๊กยิงโฆษณาไปตามกลุ่มเป้าหมายของลูกค้า เฟซบุ๊กจะทำรายงานประสิทธิภาพในการทำงานของโฆษณากลับไปยังลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นโดยจะมีข้อมูลประชากรศาสตร์ ข้อมูลความสนใจ และวิธีการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับเนื้อหาโฆษณา แต่จะไม่แชร์ข้อมูลที่ระบุตัวตนของคุณโดยตรงเว้นแต่ว่าคุณให้สิทธิ์อนุญาตเป็นการเฉพาะกับเฟซบุ๊ก
  4. เนื้อหาบางอย่างที่ผู้ใช้แชร์หรืออัปโหลดเข้ามาในระบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพ วิดีโอ หรือข้อความ สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาเป็นของผู้ใช้ แต่ผู้ใช้ต้องให้สิทธิ์การอนุญาตทางกฎหมายกับทางเฟซบุ๊กเพื่อให้ทางเฟซบุ๊กใช้เนื้อหาของผู้ใช้ได้ด้วย แต่ถ้าแชร์หรืออัปโหลดเนื้อหาที่เกี่ยวข้องหรือทำโดยเฟซบุ๊ก คุณจะได้สิทธิ์แบบไม่เฉพาะตัว และทางเฟซบุ๊กสามารถถ่ายโอนได้โดยไม่มีค่าลิขสิทธิ์ในการใช้ แจกจ่าย ปรับเปลี่ยน แสดง คัดลอกหรือเสนอต่อสาธารณะ แปลและสร้างผลงาน ที่มาจากเนื้อหาของผู้ใช้ได้ด้วย
  5. เนื้อหาของผู้ใช้ยังคงถูกเก็บไว้ในระบบของเฟซบุ๊กตามระยะเวลาที่จำเป็นซึ่งแตกต่างไปในแต่ละกรณี ด้วยข้อจำกัดทางเทคนิค เช่น เนื้อหาของผู้ใช้จะถูกลบภายในระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน หลังจากที่ผู้ใช้ลบเนื้อหานั้น ๆ ไม่ให้ปรากฏต่อสาธารณชนแล้ว หรือ มีผู้อื่นที่เนื้อหานั้นไปแชร์แบบอนุญาตแล้วและยังไม่ได้ลบออก หรือ ด้วยเรื่องของการสืบสวนกิจกรรมที่ผิดกฎหมายการเก็บหลักฐาน การปฏิบัติตามคำขอของเจ้าหน้าที่รัฐ
  6. เฟซบุ๊กออกผลิตภัณฑ์ตามสภาพ ไม่รับประกันว่าผลิตภัณฑ์จะปลอดภัย มั่นคง หรือปราศจากข้อผิดพลาด ทางเฟซบุ๊กขอปฏิเสธความรับผิดชอบในการรับประกันทั้งหมด อีกทั้งจะไม่รับผิดชอบต่อการดำเนินหรือการกระทำทั้งออนไลน์หรือออฟไลน์ของคนหรือเนื้อหาที่ถูกแชร์ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ลามก ผิดกฎหมายและเนื้อหาที่น่าสงสัยอื่นๆ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียกำไร รายได้หรือข้อมูลใด ๆ ที่เกิดกับคุณ รวมทั้งความเสียหายจากผลที่ตามมา
  7. ทางเฟซบุ๊กจะเก็บข้อมูลทุกอยากที่ผู้ใช้ปฏิสัมพันธ์ด้วย เช่นเนื้อหาที่ผู้ใช้ดู การโต้ตอบ ฟีเจอร์ที่ชอบใช้ คนที่ผู้ใช้คุยด้วย รวมถึงเวลา ความถี่ และระยะเวลาในการทำกิจกรรมบนเฟซบุ๊ก
  8. ทางเฟซบุ๊กจะเก็บข้อมูลของอุปกรณ์ที่ผู้ใช้ใช้ ทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ สมาร์ตทีวี และอุปกรณ์อื่นๆที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตโดยการใช้ร่วมกันกับผลิตภัณฑ์ของเฟซบุ๊กโดยละเอียด
  9. ทางเฟซบุ๊กจะเก็บข้อมูลผู้ใช้จากพาร์ตเนอร์ของเฟซบุ๊กด้วย หรือก็คือทุกเว็บ แอป ที่มีปุ่มล็อกอินด้วยเฟซบุ๊ก จะส่งกิจกรรมที่ผู้ใช้ทำทุกอย่างไปให้ทางเฟซบุ๊ก
  10. การแชรกับพาร์ตเนอร์บุคคลที่ 3 ทางเฟซบุ๊กจะไม่ขายข้อมูลของผู้ใช้ให้กับใครก็ตามอย่างเด็ดขาด

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วคุณรู้สึกกลัว เฟซบุ๊ก มั้ย?

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส