ที่ผ่านมา Sony มีกล้องในกลุ่ม Premium Compact ในตระกูล Sony RX100 ที่อัดความสามารถเทพ ๆ เข้าไปในกล้องตัวเล็กนิดเดียวนะคะ ซึ่งก็เป็นกล้องตระกูลที่โชว์ความเจ๋งในการถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอให้ผู้ใช้สมาร์ตโฟนได้เข้าใจว่ามือถือยังมาแทนกล้องกลุ่มนี้ไม่ได้นะ

เพียงแต่ว่าที่ผ่านมากล้องตระกูล Sony RX100 จะมีราคาค่อนข้างสูง อย่าง RX100 VII ตัวล่าสุดก็มีราคา 38,990 บาทเข้าไปแล้ว ซึ่งทำให้หลายคนคิดหนัก Sony จึงออก ZV-1 ที่คัดความสามารถเด่นๆ ของ RX100 มาประกอบร่างใหม่ แล้วเติมความสามารถที่เหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอด้วยตัวเองหรือการถ่าย Vlog ที่กำลังเป็นเทรนด์ตอนนี้เข้ามา ซึ่งขายในราคา 22,990 บาทเท่านั้นเอง หน้าตาของ Sony ZV-1 นั้นตัวกล้องจะใหญ่กว่าตระกูล Sony RX100 นิดหนึ่งค่ะ ซึ่งเราว่าเป็นข้อดีนะ เพราะมันจับง่ายขึ้น มีกริบจับตรงนี้ด้วย ไม่หลุดมือง่ายๆ และระบายความร้อนระหว่างถ่ายวิดีโอได้ดีขึ้นด้วย

จุดสะดุดตาที่สุดของ Sony ZV-1 คือขนปุย ๆ ตรงนี้ค่ะ เป็นขนกันลมมาปะทะกับไมค์ เพื่อลดเสียงลมกวนใจ ซึ่งถ้าไม่ใช้ก็ถอดออกได้ค่ะ โดยเจ้าขนนี้จะยึดกับ Hot-Shoe สำหรับเสียบแฟลชค่ะ ซึ่งช่องแฟลชแบบ Multi Interface Shoe ของโซนี่นี้ยังสามารถเสียบไมค์เสริม เสียบไฟของโซนี่ก็ได้ค่ะ แถมนอกจากไมค์จะเสียบได้ผ่าน Hot-Shoe แล้ว Sony ZV-1 ยังมีช่อง 3.5 mm เพื่อเสียบไมค์ที่ข้างกล้องด้วยนะ

เมื่อถอดขนออกจะเห็นช่องไมโครโฟนขนาดใหญ่ของ Sony ZV-1 ซึ่งเป็นไมโครโฟนแบบแคปซูล 3 ตัวสำหรับรับเสียงด้านหน้าค่ะ ส่วนด้านบนนี้ก็จะมีสวิตช์เปิด-ปิดกล้อง ปุ่มปรับโหมดอัตโนมัติและโหมด PASM ของกล้อง ปุ่มชัตเตอร์พร้อมคันโยกซูมภาพ ปุ่มบันทึกวิดีโอโดยเฉพาะที่แยกจากซัตเตอร์ แล้วก็ปุ่มเลือกฉากหลังเบลอหรือฉากหลังชัด

จะเห็นว่า Sony ZV-1 ใช้พื้นที่กับปุ่ม ช่องเสียบแฟลช แล้วก็ไมโครโฟนไปหมดแล้ว จึงไม่มีพื้นที่สำหรับใส่แฟลชในตัว และไม่มีช่องมองภาพหรือ EVF แบบที่มีในตระกูล Sony RX100 ค่ะ แต่ใครที่ไม่ใช้ EVF อยู่แล้ว นี่คือข้อดี เพราะช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์มีต้นทุนสูงมาก ซึ่งเมื่อ ZV-1 ไม่มี ก็ทำให้ราคากล้องลดลงมาได้เยอะค่ะ

คุณภาพวิดีโอ

คุณภาพวิดีโอแบบ 4K 25 fps ค่ะ ซึ่งการควบคุมการถ่ายวิดีโอนั้นง่ายมาก ๆ สำหรับมือใหม่นะคะ กดที่ปุ่ม C1 ด้านบนตรงนี้ เพื่อปรับให้หน้าชัดหลังเบลอ กล้องจะเปิดรูรับแสงกว้างสุดที่ f/1.8 หรือ f/2.8 เอง แล้วกดอีกทีเพื่อปรับให้ฉากหลังชัดไปด้วย

การซูม

การซูมเข้าออกระหว่างถ่ายวิดีโอก็นุ่มนวล โดย Sony ZV-1 สามารถซูมได้ 3 เท่า ในช่วง 24 – 70 mm ซึ่งก็ถือเป็นช่วงซูมที่กำลังใช้ได้สนุก แต่ไม่ได้ซูมได้เยอะมากนะคะ มือถือบางรุ่นยังซูมได้มากกว่านี้

หน้าจอสัมผัส

  • หน้าจอสัมผัสของ Sony ZV-1 นั้นเราสามารถแตะเพื่อเลือกจุดโฟกัสแบบติดตามได้นะคะ แตะปุ๊บ กล้องจะล็อกโฟกัสจุดนั้นแล้วพยายามโฟกัสต่อ ยังกับแปะกาวติดกับวัตถุไว้เลย โฟกัสเก่งมาก ซึ่งเรายังสามารถเลือกโหมดการสัมผัสได้อีก 2 โหมด คือแตะแล้วโฟกัสสำหรับถ่ายรูป หรือแตะแล้วถ่ายเลยค่ะ
  • หน้าจอสัมผัสของ ZV-1 นั้นไม่ใช่จอสัมผัสเต็มรูปแบบนะคะ เราแตะจุดโฟกัสได้ แต่เราเอานิ้วแตะเพื่อสั่งงานเมนู หรือเอานิ้วปัดเลื่อนรูป หรือใช้ 2 นิ้วซูมภาพไม่ได้ค่ะ ต้องกดปุ่มตามปกตินี้แหละ

จุดเด่นอีกอย่างของวิดีโอและภาพถ่ายจากกล้องรุ่นนี้คือเราสามารถเลือกระดับผิวเนียนได้ 4 ระดับ ตั้งแต่ผิวเนียนมาก เนียนกลาง เนียนน้อย จนถึงปิดไปเลย ซึ่งเอิร์นว่าระดับสูงสุดนี้ให้หน้าเป็นพลาสติกไปหน่อยนะคะ นอกจากนี้ Sony ZV-1 ยังจูนสีสันความสว่างของกล้องให้เหมาะสำหรับการถ่ายใบหน้าคนเป็นพิเศษ ทำให้ได้วิดีโอที่หน้าผู้ถ่ายสวยงามแบบนี้ค่ะ

Sony ZV-1 ใช้งานกับก้านจับก็สะดวกไปอีกแบบ โดยที่ก้านถือจะมีปุ่มควบคุมกล้อง ซูมเข้าออกได้ และสามารถกางเป็นขาตั้งกล้องเล็ก ๆ ได้ด้วยนะคะ ซึ่งก้านถือนี้ Sony ขายแยกค่ะ มีทั้งรุ่นต่อสายแบบนี้ แล้วก็มีก้าน Bluetooth ไร้สายด้วย

โหมด Steadyshot

  • ถ้าเราเปิดโหมดป้องกันภาพสั่นไหวหรือ Steadyshot เป็นแบบ Active การเคลื่อนไหวภาพจะนุ่มนวลมาก ถ้าเดินถ่ายแล้วพูดไปเรื่อย ๆ ภาพจะสั่นไหวน้อย แต่มุมภาพจะแคบหน่อยนะคะ
  • แต่ถ้าเอิร์นปรับโหมด Steadyshot เป็นแบบธรรมดาที่ใช้แต่ระบบป้องกันภาพสั่นไหวด้วยเลนส์ แล้วปิดระบบกันสั่นดิจิตอลออก ภาพจะได้มุมกว้างขึ้น แต่ไม่ได้กันสั่นได้ดีเท่าเดิม เอาเป็นว่าเลือกใช้ให้เหมาะกับงานกันนะคะ

ระบบโฟกัสขั้นเทพ

นอกจากนี้ Sony ZV-1 ยังมีระบบโฟกัสขั้นเทพนะคะ โฟกัสใบหน้าได้ตลอดไม่มีหลุด โฟกัสดวงตาที่เป็นหน้าต่างของหัวใจให้คมชัดตลอดก็ได้ ซึ่งเลือกได้อีกว่าจะโฟกัสตาซ้ายหรือตาขวา นอกจากนี้ยังเลือกโฟกัสดวงตาสัตว์ได้ด้วยนะ

โหมด Product Showcase ซึ่งเปิดใช้งานได้จากปุ่ม C2 ตรงนี้ค่ะ เอาไว้สำหรับวิดีโอที่ต้องการหยิบสินค้ามาโชว์หน้ากล้อง เปิดโหมดเสร็จแล้วก็ตั้งกล้องด้วยขาตั้งแบบนี้ แล้วโชว์ได้เลย

โหมด Product Showcase กล้องจะโฟกัสที่วัตถุที่เราเอามาวางหน้ากล้องได้เร็วมากแบบนี้ค่ะ พอเอาวัตถุออก กล้องก็จะรีบกลับมาโฟกัสที่ใบหน้าของเราต่อ ซึ่งน่าจะเป็นโหมดในฝันของพ่อค้า แม่ค้าหลาย ๆ คนเลย แต่โหมดนี้กล้องจะลดระดับ Steadyshot เหลือแค่ธรรมดานะคะ ทำให้ได้ภาพมุมกว้างขึ้นกว่าในโหมด Active แต่ก็ทำให้ไม่เหมาะสำหรับการถือถ่ายค่ะ ใช้ขาตั้งถ่ายจะชัวร์กว่า

การถ่าย Slow Motion

Sony ZV-1 สามารถถ่าย Slow Motion ได้สูงสุดที่ความละเอียด 1080p แบบ 1000 fps นะคะ ซึ่งจะถ่ายวิดีโอนานประมาณ 2 วินาทีแล้วนำมายืดได้สูงสุด 40 เท่า ซึ่งแม้จะกะจังหวะถ่ายยากหน่อย แต่ผลงานออกมาดูดีมากเลยแหละ

กล้องตัวนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอในรูปแบบแนวตั้งได้ด้วยนะคะ ถ้าเราจับกล้องตั้งแบบนี้ วิดีโอที่ไปเปิดบนคอมหรือมือถือจะแสดงเป็นแนวตั้งให้เองโดยไม่ต้องไปกลับวิดีโออีก ถือว่าเกิดมาเพื่อยุคโซเซียลจริง ๆ นอกจากนี้ยังมีความสามารถถ่ายวิดีโอระดับสูงอย่างถ่ายแบบ Hybrid Log Gamma หรือ S-Log เพื่อเก็บรายละเอียดในวิดีโอมากขึ้น

การถ่ายภาพนิ่ง

เล่าถึงเรื่องการถ่ายวิดีโอไปเยอะมากแล้ว มาดูคุณภาพรูปนิ่งกันบ้างค่ะ ก็ทำได้ดีในระดับเดียวกับ Sony RX100 Series เลย เพราะใช้เซนเซอร์ความละเอียด 20 ล้านพิกเซลขนาด 1 นิ้วตัวเดียวกัน ซึ่งใครคิดจะซื้อกล้องนี้ไปถ่ายรูปนิ่งตอนไปเที่ยวด้วย ก็เอาอยู่ทั้งการถ่ายรูปกลางวันและกลางคืน แล้วโหมด Intelligent Auto ก็ฉลาดพอที่จะจัดการทุกอัตโนมัติ ให้กดแชะ ๆ แล้วรับรูปสวย ๆ ได้เลย หรือใครต้องการควบคุมกล้องเอง ก็ยังมีโหมด P,A,S,M ให้เลือกตามปกติ

คุณภาพภาพถ่ายจาก ZV-1 ถ้าเทียบกับกล้องจากสมาร์ตโฟนนั้นเหนือกว่าแทบทุกด้าน ทั้งความคมชัด ความเนียนของการละลายฉากหลัง หรือโทนของภาพ เพียงแต่ว่าภาพในลักษณะ HDR ที่ถ่ายสถานที่ที่มีความแตกต่างของแสงมากๆ จะสู้สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ๆ ไม่ได้ค่ะ เพราะสมาร์ตโฟนประมวลผลด้านนี้ซับซ้อนกว่า แถมทำได้อัตโนมัติด้วย ในขณะที่ ZV-1 ต้องเปิดโหมด HDR ช่วย

ความสามารถอื่น ๆ

Sony ZV-1 ยังมีความสามารถอีกหลายอย่าง เช่น Clean HDMI สามารถต่อสาย HDMI ออกจากกล้องผ่านกล่อง Capture เพื่อใช้ไลฟ์ได้โดยไม่มีข้อมูลในจอมากวนใจ นอกจากนี้ในเดือนกรกฎาคมนี้ โซนี่จะปล่อยซอฟต์แวร์ใหม่ออกมาให้ต่อ USB เข้ากับคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง เพื่อใช้ ZV-1 เป็น Webcam ได้ด้วย
นอกจากนี้การโอนรูปจากกล้องเข้ามือถือก็ทำได้ไม่ยากด้วยแอป Imaging edge แถมยังมีแอป Movie Edit Add-on เพื่อทำให้วิดีโอจากกล้อง ZV-1 สั่นไหวน้อยลง

แล้วรูปที่ถ่ายไปแล้ว ยังสามารถแต่งหน้าได้ภายในกล้องได้อีกด้วยเมนู Beauty Effect นี่ใกล้มือถือเข้าไปทุกทีแล้วนะ

ข้อสังเกต

  • สำหรับ Sony ZV-1 คือ เอิร์นว่ากล้องยังเปิด-ปิดช้าไปนะคะ กว่าเลนส์จะกางออกพร้อมใช้ และกว่ากล้องจะปิดจนพกพาต่อได้ ใช้เวลาอึดใจหนึ่งเลย การถ่ายวิดีโอ ยังทำได้สูงสุดที่ 4K 30fps นะคะ ไม่ถึงระดับ 4K 60fps
  • นอกจากนี้แบตเตอรี่ยังไม่ทนเท่าไหร่ แถมชาร์จนานด้วย พอร์ตชาร์จก็เป็น Micro USB ไม่ใช่ USB-C ถ้าใครเน้นเอาไปใช้งานวิดีโอต่อเนื่อง ก็ต้องซื้อแบตกับแท่นชาร์จแยกจะดีกว่าค่ะ
  • และสุดท้ายคือเมนูซับซ้อนตามสไตล์โซนี่ค่ะ ถ้าสิ่งที่ต้องการปรับแต่งไม่ได้อยู่ในเมนูลัด ก็ต้องใช้เวลาค่อย ๆ ไล่หาในเมนูหลักกันหน่อยค่ะ

ราคา

Sony ZV-1 เปิดตัวด้วยราคา 22,900 บาทเท่านั้นเอง ถูกกว่า Sony RX100 Series เยอะ ซึ่งกล้องตัวนี้น่าจะเป็นตัวเซ็ตมาตรฐานกล้องคอมแพคยุคใหม่ ๆ ให้ค่ายอื่นๆ ทำตามต่อไปค่ะ

แล้วถ้าชอบที่เอิร์นมารีวิวกล้องแบบนี้ อย่าลืมช่วยกันแชร์ด้วยนะคะ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส