OnePlus Nord ที่ได้มารีวิวนี้ผมตั้งใจเลือกสี Blue Marble หรือสีฟ้าหินอ่อนมาโชว์ให้ดูกันเลย เพราะเป็นสีเด่นของรุ่น Nord ขนาดกล่องยังใช้สีฟ้าแบบนี้เป็นสีเน้นเลย ซึ่งผมว่าสีนี้ดูสดใสแปลกตาดี ใช้สีนี้แล้วคนต้องมอง เคสที่แถมมาด้วยในกล่องยังเท่อีก แต่ถ้าไม่อยากดูเด่นมากไป OnePlus Nord ก็ยังมีสี Gray Onyx หรือสีเทาที่ดูเรียบหรูครับ

ดีไซน์

ซึ่งฝาหลังตัวนี้เป็นกระจกที่เรียกว่า Matte AG Glass ก็ให้ความรู้สึกในการจับถือที่หรูหราเกินราคาเลยนะมาด้านหน้าจอกันบ้าง แม้ OnePlus Nord จะเป็น Lite Flagship แต่เราก็ยังได้จอ Fuild AMOLED หรือจอนุ่ม 90 Hz ที่มีความละเอียดระดับ Full HD+ อยู่ดีครับ ซึ่งทำให้การใช้งานนั้นนุ่มนวลมาก เวลาเลื่อนเนื้อหาต่าง ๆ อย่างเนื้อหาในเว็บแบไต๋นี้ก็ดูนุ่มนวลไปหมด โดยจอนี้มีขนาด 6.44 นิ้ว จับถนัดมือ ไม่ใหญ่เกินไป แถมเป็นจอแบน ไม่มีขอบโค้งให้เกิดอาการลั่นให้ปวดใจ

รอบเครื่องก็มีสวิตซ์เลื่อนระดับเปิดเสียง-สั่น-ปิดเสียง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์ OnePlus เท่านั้น และพอร์ตชาร์จเป็น USB-C แต่ที่แปลกใจหน่อยคือสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ไม่มีช่องหูฟังแบบ 3.5 mm นะครับ ซึ่งปกติแล้วสมาร์ตโฟนระดับกลางจะมีช่องหูฟังอยู่

ในส่วนลำโพง แม้จะเป็นลำโพงโมโน มีแค่ลำโพงด้านล่างเครื่องนี้ตัวเดียว แต่ก็เป็นลำโพงที่ให้เสียงดัง และเสียงแน่นเลยแหละครับ ก็เปิดฟังได้เพลิน ๆ

OnePlus nord ยังมาพร้อมความสามารถ Live Caption ที่จะแกะเสียงพูดภาษาอังกฤษออกมาเป็นซับไตเติ้ลบนจอให้ด้วย

หน้าจอ

หน้าจอยังรองรับ HDR 10+ ซึ่งสามารถแสดงวิดีโอ HDR ทั้งจาก Youtube และ Netflix ได้เป็นอย่างดี มีเซนเซอร์อ่านลายนิ้วมือที่ทำงานได้รวดเร็วอยู่ในหน้าจอ และตรงมุมบนซ้ายก็เป็นที่อยู่ของกล้องหน้า 2 ตัว ที่ถือว่าเป็นครั้งแรกของทาง OnePlus ที่ให้กล้องหน้ามาถึง 2 ตัว

กล้อง

โดย OnePlus Nord มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว เริ่มที่ตัวบนสุดคือ

  • เลนส์มุมกว้าง 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.25
  • เลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล f/1.75 พร้อม OIS ป้องกันภาพสั่นไหวโดยใช้เซนเซอร์ Sony IMX586
  • เลนส์วัดระยะสำหรับทำหน้าชัดหลังเบลอ
  • และเลนส์ตัวล่างสุดคือเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4 เอาไว้ถ่ายภาพในระยะใกล้แค่ 4 cm

กล้องของ OnePlus Nord ก็ยังคงเอกลักษณ์ภาพในสไตล์ของ OnePlus ครับ คือตัวกล้องหลักสามารถเก็บแสง สีสันออกมาได้ดี ซึ่งภาพที่ได้จะเป็นโทนธรรมชาติ ไม่ได้เร่งให้สีสันสดใสกว่าความเป็นจริงเหมือนกล้องอื่น ๆ ซึ่งสำหรับภาพบางประเภทอย่างการถ่ายภาพอาหาร หรือวิวทิวทัศน์ คนที่ชอบภาพสด ๆ อาจจะต้องเร่งสีขึ้นบ้าง

ตัวเลนส์หลักนั้นให้ความคมชัดและมิติของภาพได้ดีเลย พร้อมระบบ HDR ที่เก็บรายละเอียดส่วนมืดและสว่างของภาพออกมาได้ดี ซึ่งผู้ใช้ยังสามารถปรับลักษณะการถ่ายภาพที่ตัวเองต้องการออกมาได้ในโหมดโปร ซึ่งเลือกบันทึกเป็นไฟล์ RAW ออกมาตกแต่งต่อก็ได้

การถ่ายภาพ Portrait หน้าชัดหลังเบลอนั้นสามารถเลือกได้ทั้งระยะธรรมดาและซูมภาพ 2 เท่าที่เหมาะสำหรับการถ่ายแบบครึ่งตัว แต่ทั้ง 2 ระยะนี้ก็ถ่ายด้วยเลนส์หลักทั้งคู่นะครับ โดยภาพที่ได้ก็สามารถเบลอฉากหลังได้อย่างเนียน โทนผิวที่ได้มีความเป็นธรรมชาติ เพียงแต่ว่าถ้าแสงน้อยหน่อย อาจจะเห็น Noise บนผิวบ้างครับ

เลนส์มุมกว้าง 0.6 เท่าก็ทำให้การถ่ายภาพได้สนุกขึ้นอีก ด้วยการเก็บภาพที่กว้างกว่าเดิม พร้อมความสามารถในการแก้ความโค้ง ความเบี้ยวของภาพ ให้แม้ถ่ายมุมกว้างมาแต่เส้นสายต่าง ๆ ในภาพก็ยังดูตรงดี

ส่วนการซูมภาพในระดับ 2 เท่า ก็ยังใช้ภาพจากเลนส์หลักนำมาขยาย เพราะไม่มีเลนส์ซูมภาพโดยเฉพาะ แต่ผลงานที่ได้ก็ดีไม่แพ้กล้องซูม 2 เท่าแท้ๆ เลย

การถ่ายภาพกลางคืน ก็มีโหมด Nightscape ที่เปิดหน้ากล้องนานเพื่อรับแสงสวยๆ ได้ ซึ่งผลงานการถ่ายจากกล้องหลักก็ออกมาดูดีเลย ถ่ายกลางคืนได้สว่างสดใส แต่การถ่ายกลางคืนนี้ไม่ค่อยเหมาะกับเลนส์มุมกว้างนักครับ เพราะรับแสงได้น้อยกว่า

และกล้องมาโครถ่ายระยะ 4 cm ให้ภาพออกมาใช้ได้สำหรับคนที่ต้องการถ่ายรูปใกล้ ๆ แต่ต้องเข้าใจว่ากล้องนี้ละเอียด 2 ล้านพิกเซล ภาพจึงคมสู้เลนส์หลักไม่ได้ครับ

การถ่ายวีดีโอ

สามารถถ่ายได้สูงสุด 4K 30 fps โดยเลือกสัดส่วนภาพ 21:9 หรือภาพแบบยาวให้เหมือนภาพยนตร์จริง ๆ ก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายแบบ 1080p 60 fps ก็ได้ ซึ่งระบบป้องกันภาพสั่นไหวทำงานได้ดี สามารถเดินถ่ายวิดีโอได้ไม่มีปัญหา และถ้าต้องการป้องกันภาพสั่นไหวได้ดีกว่านี้สามารถเปิดโหมด Super Stable ที่จะใช้เลนส์มุมกว้างมาถ่ายวิดีโอให้นิ่งขึ้นได้อีก เพียงแต่ว่าการถ่ายในโหมด 4K 30fps และ 1080p 60 fps ระหว่างถ่ายจะไม่สามารถเปลี่ยนไปเลนส์มุมกว้างเพื่อซูมไปมาได้นะครับ จะต้องถ่ายเป็น 1080p 30 fps เท่านั้นถึงจะสลับไปสลับมากับเลนส์มุมกว้างได้ครับ

กล้องหน้า

กล้องหน้าของ OnePlus Nord นั้นจัดเลนส์มาให้ 2 ตัว เลนส์หลักมีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.45 และกล้องอีกตัวเป็นเลนส์มุมกว้าง 105 องศา 8 ล้านพิกเซล f/2.45 เช่นกัน ทำให้ถ่ายภาพ Selfie กับเพื่อน ๆ หรือถ่าย Selfies กับวิวต่าง ๆ ได้กว้างมากขึ้น

ซึ่งโดยรวมแล้วภาพ Selfie จาก OnePlus Nord นั้นออกมาดีครับ ให้สีผิวได้ดี กล้องมุมกว้างอาจมีติดเหลืองบ้าง โหมด Portrait ก็สามารถตัดฉากหลังเบลอได้อย่างสวยงามดี นอกจากนี้ยังสามารถถ่าย Group Selfie ได้ง่ายด้วยการถ่ายมุมกว้างครับ

ส่วนการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าสามารถทำได้สูงสุด 4K 60 fps ซึ่งก็ให้การเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลดีครับ แต่ถ้าต้องการถ่ายวิดีโอ Selfie ด้วยเลนส์มุมกว้างจะต้องเลือกเป็น 1080p 30 fps หรือ 4K 30 fps เท่านั้นนะครับ

สเปคและการทดสอบประสิทธิภาพ

OnePlus Nord นั้นใช้ CPU เป็น Snapdragon 765G ชิปตัวแรงในระดับกลางของ Qualcomm โดยรุ่นที่เราได้มารีวิวนั้นมีแรม 12 GB และหน่วยความจำ 256 GB

ผลการทดสอบประสิทธิภาพด้วย Geekbench 5 ได้คะแนนแบบ Multi-core ไปที่ 1923 คะแนน ซึ่งก็เป็นคะแนนที่สูงกว่า Snapdragon 845 ชิปเรือธงเมื่อ 2 ปีก่อน ส่วนผลการทดสอบประสิทธิภาพด้วย 3Dmark ชุด Slingshot Extreme ได้ออกมา 3280 คะแนน

ในส่วนของการเล่นเกม เราก็ทดสอบ RoV โดยเปิดใช้ Fnatic mode เพื่อเร่งพลังของเครื่องเต็มพิกัด ก็สามารถเล่นเกมได้ลื่นไหลดีครับ

ข้อสังเกต

  • สำหรับข้อสังเกตของ OnePlus Nord นั้นอยู่ที่เรื่อง 5G ครับ คือจริง ๆ แล้วตัวเครื่องนั้นรองรับ 5G นะครับ แต่รองรับในย่าน 700 และ 3500 MHz เท่านั้น ไม่ใช่ย่าน 2600 MHz ที่ใช้งานในประเทศไทยตอนนี้ ก็ถ้าในอนาคตไทยมีคลื่น 5G ที่ OnePlus Nord รองรับ ก็สามารถใช้งานได้ครับ
  • นอกจากนี้สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ยังไม่รองรับ Wi-Fi 6 มาตรฐานล่าสุดได้ ใช้ได้เพียง Wi-Fi 5 และชาร์จไร้สายไม่ได้นะครับ ต้องชาร์จผ่านสาย USB-C เท่านั้น แต่ OnePlus Nord ก็รองรับการชาร์จไวด้วย WarpCharge 30T ชาร์จแบตเตอรี่ 4115 mAh 30 นาทีก็ได้แบต 70% แล้ว และชาร์จเต็ม ๆ ก็สามารถใช้งานจบวันได้สบาย ๆ ครับ


รีวิวที่ดีต้องมีราคา

สำหรับราคาของ OnePlus Nord สมาร์ตโฟน Lite Flagship รุ่นแรกจากแบรนด์ที่ทำมือถือเรือธงมาตลอดนั้นมี 2 ราคา จาก 2 สเปกครับ

  • คือรุ่น RAM 8GB + ROM 128 GB ราคา 14,990 บาท
  • รุ่น RAM 12GB + ROM 256 GB ราคา 17,990 บาท

ซึ่งถ้าใครต้องการสมาร์ตโฟนดีไซน์เนี้ยบ ๆ ทั้งตัวเครื่องและซอฟต์แวร์ภายใน หน้าจอลื่นไหล ประสิทธิภาพในการใช้งานดี ลองพิจารณา OnePlus Nord ก็ไม่ผิดหวัง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส