Tesla รอดจากการโดนโจมตี Ransomware หวุดหวิด เมื่อคนในไม่เล่นด้วย ,Apple ห้าม Facebook แจ้งผู้ใช้เรื่องเก็บค่าธรรมเนียม 30% และข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ทั้งหมดนี้เดี๋ยวกวางเล่าให้ฟังใน beartai Weekly ข่าวไอทีกับอรกวางค่ะ

Tesla เกือบงานเข้าโดน Ransomware เรียกค่าไถ่ แต่เคราะห์ดีพนักงานไม่เล่นด้วย แถมย้อนรอยจนสามารถจับแฮกเกอร์คนนั้นได้อีกต่างหาก! โดย FBI เปิดเผยข้อมูลว่าได้ตามรวบตัวแฮกเกอร์ชาวรัสเซียวัย 27 ปีในข้อหาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่พยายามเรียกค่าไถ่จากบริษัท Tesla โดยการโจมตีด้วย Ransomware ซึ่งเขาได้ใช้ WhatsApp ติดต่อกับพนักงานของ Tesla พร้อมยื่นข้อเสนอด้วยค่าจ้างเป็นเงินถึง 1,000,000 USD แต่กลายเป็นว่าพนักงานของ Tesla ตีเนียนยอมร่วมทีมมาโดยตลอด แต่เบื้องหลังเขาได้แจ้งให้ Tesla และ FBI ทราบจนเกิดการซ้อนแผนจับกุมแฮกเกอร์รายนี้ได้ในที่สุดงานนี้ต้องชื่นชมพนักงานคนนั้นจริง ๆ เพราะขนาด Elon Musk ยังออกมาพูดขอบคุณเขาผ่าน Twitter เลยนะคะเนี่ย

ไปดูเรื่องของเทคโนโลยีการผลิตชิปประมวลผลกันบ้าง ล่าสุดทาง TSMC ผู้ผลิตชิปเซ็ตรายใหญ่ของโลก พร้อมผลิตชิปขนาด 5 นาโนเมตรแล้วค่ะ! ซึ่งทาง TSMC ได้จัดงาน Technology Symposium ที่มีการประกาศแผนการผลิตชิปในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งปัจจุบัน TSMC พร้อมที่จะผลิตชิปประมวลผลที่เทคโนโลยี 5 นาโนเมตรแล้วโดยที่ลูกค้าหลักก็คือทาง Apple นั่นเอง และนอกจากนี้ TSMC ยังได้เผยว่าจะผลิตชิป 3 นาโนเมตรได้ภายในปี 2022 โดยจะมีประสิทธิภาพมากกว่าชิป 5 นาโนเมตร ประมาณ 10-15% และประหยัดพลังงานมากกว่า 25-30% เลยทีเดียว

เหมือนช่วงนี้ Apple จะมีเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเก็บค่าธรรม เนียมกับหลาย ๆ ค่ายเลยนะคะ ซึ่งล่าสุด Apple ก็ออกมาบังคับไม่ให้ Facebook เผยว่า Apple จะมีการเก็บค่าธรรมเนียม 30% เฉยเลย งงไหมล่ะ? การแสดงผลนี้เกิดขึ้นที่แอป Facebook บนแพลตฟอร์ม Events ซึ่งจะยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับใช้งานในช่วงนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้จัดงานสู้ภัย COVID-19 แต่ทาง App Store ยังคงต้องการเก็บค่าธรรมเนียมอยู่เช่นเดิมแม้ว่า Facebook จะร้องขอไปแล้วก็ตาม

ทำให้ทาง Facebook ต้องแสดงข้อความว่า Apple จะได้รับรายได้ 30% จากการชำระเงินครั้งนี้เพื่อความโปร่งใส แต่ Apple ก็ไม่ยอมค่ะ บังคับให้ Facebook เอาข้อความนี้ออกไปให้ได้เลย ฟังดูแล้ว Facebook เหมือนจะกลายเป็นพระเอกในช่วงนี้เลยนะคะเนี่ย อันนี้ไม่รู้เป็นการแก้เผ็ดของ Apple จากข่าวที่แล้วหรือเปล่านะคะ

ข่าวต่อมา ล่าสุด iOS 14 ที่ออกมานั้น ส่งผลให้โฆษณาที่ได้รับจะไม่ตรงใจเราเหมือนทุกที ซึ่งผลกระทบนี้เกิดขึ้นจากระบบความปลอดภัย anti-tracking ตัวใหม่ใน iOS 14 ทำให้ระบบโฆษณาแบบ Target Ads ของ Facebook ไม่สามารถแสดงผลได้ ซึ่งส่งผลให้รายได้ในส่วนนี้อาจหายไปมากถึง 50% เพราะผู้ใช้จะต้องทำการกดยอมรับให้ติดตามได้ จึงจะสามารถยิง Target Ads แบบเดิมเข้าไปได้ ซึ่งผลกระทบครั้งนี้ทำให้โฆษณาที่แสดงผลนั้นจะไม่ตรงกับที่ผู้ใช้กำลังค้นหาอยู่เหมือนเช่นทุกครั้งค่ะ


สุดท้ายไปดูนวัตกรรมตู้เช็กอินแบบไร้สัมผัสในสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่นกันดีกว่าค่ะ ล่าสุด Japan Airlines ได้เริ่มทดสอบใช้งานตู้เช็กอินแบบไร้สัมผัสซึ่งถูกพัฒนาโดย Mitsubishi Electric และ Oki Electric Industry Co., Ltd. โดยใช้เทคโนโลยีอินฟราเรดเข้ามาช่วยจับการเคลื่อนไหวของนิ้ว โดยให้ผู้ใช้ใช้นิ้วชี้ไปที่ตัวเลือกต่าง ๆ ห่างจากหน้าจอได้ประมาณ 3 เซนติเมตร โดยไม่ต้องสัมผัส ลดความเสี่ยงในการติด เชื้อ COVID-19 ได้อย่างมากเลยค่ะ

เรียกว่าเห็นแล้วอยากไปลองใช้บ้างเลยเนี่ย หวังว่า COVID-19 จะหมดไปเร็ว ๆ นี้นะคะ อยากเที่ยวต่างประเทศแล้ว!

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส