นี่คือ realme 7 Pro สมาร์ตโฟนราคาไม่แพง แต่มาพร้อมที่ชาร์จสุดแรง 65W SuperDart Charge ชาร์จเต็ม 100% ใน 34 นาที ไม่ต้องชาร์จข้ามคืนกันแล้วแบบนี้! realme แบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องให้สเปกมาคุ้มค่ากับราคามาก ผมเองก็รีวิวผ่านมือมาหลายรุ่นครับ

ดีไซน์

ล่าสุดกับ realme 7 Pro ที่ออกแบบน่าสนใจหลายอย่าง โดยสีที่ผมได้มารีวิวนี้คือ Mirror Silver หรือสีเงินอมฟ้าที่มีดีไซน์ 2 เฉดเหมือนแสงสะท้อนกัน พร้อมพื้นผิวแบบพ่นทรายให้มีสัมผัสลื่นมือ ลายนิ้วมือติดน้อยลงครับ นอกจากนี้ก็ยังมีสี Mirror Blue เป็นทางเลือกอีกสีหนึ่ง คิดว่าสีไหนสวย ก็จัดกันได้เลยครับ ซึ่งเคสซิลิโคนที่แถมมาในกล่องก็เป็นแบบใส โชว์สีสันของเครื่องกันได้เต็มที่

หน้าจอ

ส่วนหน้าจอก็จัดเต็มด้วยจอ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ความสว่างสูงสุด 600 nit ซึ่งจอนี้เป็นจอเรียบ ไม่มีขอบโค้งให้ลุ้นกับอาการมือลั่นนะ พร้อมรองรับ HDR ของ Youtube และเล่น Netflix ได้เต็มความละเอียด Full HD แต่ไม่รองรับ HDR ของ Netflix

บนหน้าจอนี้มีกล้องหน้าเล็กๆ เจาะรูอยู่มุมบนซ้าย และมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ทำงานเร็วมาก ซึ่งเมื่อใช้ร่วมกับการสแกนหน้า ก็สามารถปลดล็อกเครื่องได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีจังหวะรำคาญเพราะปลดล็อกหน่วงครับ

พอร์ตการเชื่อมต่อ

realme 7 Pro นั้นใช้ USB-C เรียบร้อยนะครับ แต่ก็ยังมีช่องหูฟัง 3.5 mm มาให้สำหรับต่อเสียงออกอย่างง่าย แต่ในกล่องไม่มีหูฟังแถมมาให้นะครับ ต้องหาเพิ่มเอาเอง ที่น่าสนใจคือตัวลำโพงของเครื่องนี้เป็นลำโพงคู่สเตอริโอนะครับ เสียงออกทั้งลำโพงบนและลำโพงล่าง ซึ่งก็ให้เสียงได้ดังมีมิติพอสมควร แต่เบสยังไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่

เราขุดลึกลงไปในหน้าเมนูของ realme 7 Pro แล้วก็เจอฟังก์ชันเจ๋ง ๆ อย่าง Dual Mode Audio ซ่อนอยู่ในหน้า realme Labs ด้วย ซึ่งทำให้เราสามารถฟังเสียงจากโทรศัพท์ได้พร้อมกัน 2 หูฟังคือ หูฟัง Bluetooth และหูฟังเสียบสายไปพร้อมกัน พูดง่ายๆ คือฟังเพลงได้ 2 คนพร้อมกัน ไม่ต้องแบ่งหูคนละข้างมาฟัง เจ๋งไหมล่ะ และเมื่อเชื่อมต่อหูฟัง ไม่ว่าจะหูแบบเสียบสายหรือไร้สาย ก็สามารถเปิดใช้ Dolby Atmos เพื่อปรับเสียงให้ตรงใจเราได้มากขึ้น

ตัวถาดซิมก็น่าสนใจเพราะมี 3 ช่องเลย รองรับ 4G 2 ช่องพร้อมใส่ MicroSD เพิ่มได้สูงสุด 256 GB
ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ อันนี้เป็นจุดเด่นมากๆ ของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ครับ เพราะให้แบตใหญ่ถึง 4500 mAh ผมใช้หนัก ๆ ทั้งวัน แบตก็ไม่หมดนะ อุ่นใจ ไม่ต้องพก Power Bank

ส่วนการชาร์จก็จัดเต็มครับ ให้หัวชาร์จขนาดใหญ่ SuperDart Charge กำลังไฟ 65W มาด้วย ซึ่งใช้เทคโนโลยีแบ่งแบตภายในออกเป็น 2 ก้อน เพื่อให้ชาร์จแยกกัน 2 ก้อนได้เร็วขึ้น สามารถชาร์จจาก 0 ถึง 100% ได้ในเวลา 34 นาทีเท่านั้น คือต่อไปนี้เราไม่ต้องชาร์จก่อนนอนแล้ว ตื่นเช้ามาชาร์จก่อนออกจากบ้านก็ยังทันครับ

กล้อง

realme 7 Pro นั้นมีกล้องอยู่ 4 ตัวนะครับ กล้องหลักนั้นมีความละเอียด 64 ล้านพิกเซล f/1.8 เป็นเซนเซอร์ Sony IMX682 ซึ่งเป็นทั้งกล้องหลักและกล้องซูมในตัว นอกจากนี้ยังมีเลนส์มุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล f/2.3 ที่รับภาพได้มุมกว้าง 119 องศา และมีเลนส์ขาว-ดำ 2 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์มาโคร 2 ล้านพิกเซลอีกตัวสำหรับถ่ายภาพระยะใกล้ครับ

คุณภาพภาพถ่ายจากกล้องหลังของ realme 7 Pro นั้นจัดว่าดีมากสำหรับมือถือในระดับราคานี้ ภาพจากกล้องหลักนั้นสามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ในภาพได้เป็นอย่างดี โหมด HDR ทำงานอัตโนมัติก็ช่วยให้เก็บรายละเอียดในส่วนมืด ส่วนสว่างได้ดี การให้สีสันต่างๆ ในภาพก็ทำได้กำลังสวยงามพอดี ซึ่งถ้าหากต้องการให้สีสันสดขึ้นอีกก็สามารถเปิดโหมด AI Dazzle Color เพื่อเร่งสีอย่างไม่โอเวอร์เกินไปได้

การถ่ายภาพบุคคลก็สามารถเบลอฉากหลังได้เนียนตาดูเป็นธรรมชาติ เลนส์ขาว-ดำก็เข้ามาช่วยถ่ายภาพบุคคลให้สวยงามมีรายละเอียดมากขึ้น ซึ่งการถ่ายภาพโหมด Portrait โดยปกติจะมีการเปิด AI Beautification ให้เป็นพื้นฐานอยู่แล้วเพื่อให้ภาพใบหน้าออกมาสวยขึ้น แต่ใครที่ไม่ชอบก็สามารถปิดได้ครับ ที่น่าสนใจคือฟิลเตอร์ของโหมด Portrait ที่ถ่ายภาพออกมาให้สีเลียนแบบฟิล์ม ซึ่งบางตัวก็ออกมาสวยโดยไม่ต้องแต่งภาพเพิ่มอีก

ส่วนการถ่ายในที่แสงน้อย ผมมาอยู่ที่งาน Bowkylion x H.U.I. : The Forest Exhibition เพื่อทดสอบกล้องในพื้นที่สวย ๆ กัน ซึ่งก็ยังสามารถให้ใบหน้าที่ชัดเจนได้แม้แสงน้อย แถมยังคงเก็บรายละเอียดแสงในฉากหลังได้สวยงามด้วย

ซึ่งการถ่ายภาพในที่แสงน้อย realme 7 Pro ก็ทำได้ดีมาก ทั้งการถ่ายด้วยโหมด Photo ปกติที่สามารถเก็บแสงน้อยได้ดี ถ้าแสงน้อยมากก็สามารถใช้ Night Mode เพื่อเก็บภาพให้สว่างขึ้นได้อีก แถมยังใส่ฟิลเตอร์ให้ภาพกลางคืนได้อีก 3 แบบ ทั้ง Modern Gold, Cyberpunk, Flamingo ที่ออกมาสวยๆ ทั้งนั้น แล้วถ้าแสงน้อยมากมาก อย่างการถ่ายดาว ก็มี Stary Mode ที่เปิดหน้ากล้องหลายนาทีเพื่อเก็บท้องฟ้ายามค่ำคืน แต่ต้องใช้ขาตั้งกล้องเวลาถ่ายนะ

แต่การถ่ายในที่แสงน้อยแบบนี้จะไม่เหมาะสำหรับกล้องมุมกว้างที่มีความสามารถรับแสงได้น้อยกว่านะครับ เพราะงั้นถ้าต้องถ่ายที่แสงน้อยก็ใช้เป็นเลนส์หลักดีกว่า

ส่วนเลนส์มุมกว้างของ realme 7 Pro ก็ให้สีสันที่ดี เก็บภาพได้กว้างสะใจ ถ่ายเพื่อสร้างมุมมองที่แปลกตาได้ จากลักษณะพิเศษของเลนส์ทำให้ภาพยืดออกบริเวณขอบ

การซูมภาพของ realme 7 Pro นั้นใช้เลนส์หลักเพื่อซูมภาพอย่างเดียว ไม่มีเลนส์เฉพาะเพื่อจัดการเรื่องนี้ ซึ่งผลการซูมในระยะ 2 เท่า ก็ยังได้ภาพที่ดูดีมาก ส่วนการซูมระยะ 5 เท่านั้นจะได้ภาพที่ดูเบลออยู่บ้าง แต่ก็ยังถือว่าทำผลงานได้ดีสำหรับการซูมด้วยเลนส์ตัวเดียว

สุดท้ายคือเลนส์ Macro ก็ช่วยให้ถ่ายวัตถุระยะใกล้เพียงแค่ 4 ซ.ม. ได้ เพียงแต่ว่าด้วยความละเอียดเพียง 2 ล้านพิกเซลก็ทำให้คุณภาพภาพนั้นสู้ภาพจากเลนส์หลักไม่ได้

การถ่ายวิดีโอ

การถ่ายวิดีโอก็เป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของ realme 7 Pro ด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหว UIS ทำให้การถ่ายวิดีโอปกติก็สามารถป้องกันภาพสั่นไหวได้ดีมากแล้ว และสามารถป้องกันได้มากขึ้นไปอีกในโหมด Ultra Steady และป้องกันสูงสุดในโหมด Ultra Steady Max ที่ใช้เลนส์มุมกว้างถ่ายวิดีโอแล้วนำมาครอปเพื่อให้ได้ความสามารถในการป้องกันการสั่นไหวสูงสุด

นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอ และถ่ายแบบ AI Color Portrait ได้ด้วย ซึ่งจะเป็นการดูดสีให้วิดีโอของเรามีฉากหลังขาว-ดำ

กล้องชุดนี้สามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K 30 fps ซึ่งก็ยังสามารถป้องกันภาพสั่นไหวได้ดี แต่การถ่ายในโหมด 4K และ 1080p 60 fps เราจะไม่สามารถใช้เลนส์มุมกว้างถ่ายวิดีโอได้ ใช้ได้เพียงเลนส์หลักและซูมไปมาระหว่างถ่ายได้ ส่วนการถ่ายที่ความละเอียด 1080p 30 fps เราสามารถใช้เลนส์มุมกว้างถ่ายวิดีโอได้ แต่ไม่สามารถสลับกล้องมุมกว้าง กับกล้องหลักไปมาระหว่างถ่ายได้นะ

ส่วนการถ่ายวิดีโอยามค่ำคืนก็มีโหมด Ultra Night เพื่อถ่ายในที่แสงน้อยมาก ๆ โดยเฉพาะ ซึ่งก็ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจเลย และยังสามารถป้องกันการสั่นไหวได้ดีอยู่ดีครับ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.5 แบบไม่มี Auto-focus นะครับ

กล้องหน้า

กล้องหน้าของ realme 7 Pro นั้นถ่ายภาพออกมาได้สวยงาม ให้รายละเอียดผิวหน้าได้ดี สีผิวดี ทำหน้าชัดหลังเบลอได้เนียนตาดีนะครับ พร้อมสามารถปรับแต่งโหมดหน้าสวยได้หลากหลายด้วย

ส่วนโหมดวิดีโอของกล้องหน้านั้นสามารถถ่ายได้ความละเอียดสูงสุด 1080p 30 fps นะครับ แถมมีโหมด AI Color Portrait ที่สามารถถ่ายวิดีโอแบบดูดสีฉากหลังให้เป็นขาว-ดำได้ด้วย แต่การถ่ายวิดีโอหน้าสี ฉากหลังขาว-ดำแบบนี้ จะถ่ายที่ความละเอียด 720p อย่างเดียวนะครับ

การทดสอบประสิทธิภาพ

มาถึงประสิทธิภาพเครื่องกันบ้างนะครับ realme 7 Pro นั้นใช้ CPU เป็น Snapdragon 720G พร้อมแรม 8 GB และหนวยความจำในเครื่อง 128 GB ที่เพิ่มได้ผ่าน MicroSD นะครับ

โดยเมื่อทดสอบประสิทธิภาพผ่าน Geekbench 5 ได้คะแนนแบบ Multicore ออกมาที่ 1672 คะแนน ส่วนการทดสอบ 3Dmark ชุด Slingshot Extreme ก็ได้คะแนนไป 2532 คะแนน

ส่วนการใช้งานจริง ตัวเครื่องใช้งานได้ลื่นไหลดีครับ การใช้เว็บ การใช้โซเซียลต่าง ๆ ทำงานได้ไม่ติดขัด และสามารถเล่นเกมที่มีกราฟิกระดับกลางได้ลื่น ๆ เลยเช่นกัน

นอกจากนี้ realme 7 Pro ยังเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ผ่านมาตรฐาน Smartphone Reliability จาก TÜV Rheinland (ทูฟ ไรน์แลนด์) ซึ่งทดสอบความทนทานของสมาร์ตโฟนทั้งเครื่อง ทำให้มั่นใจได้ว่า realme 7 Pro จะใช้งานได้อย่างเสถียรเป็นเวลานานครับ

จุดสังเกต

realme 7 Pro กันบ้างครับ คือสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ไม่รองรับ Wi-Fi 6 นะครับ รองรับเพียง Wi-Fi 5 เท่านั้น ก็อาจจะใช้ความเร็วเน็ต 1 Gbps ตามบ้านได้ไม่เต็ม นอกจากนี้ค่ามาตรฐานใน realme UI นั้นจะมีโฆษณาอยู่บ้างครับ ที่เห็นชัดๆ เลยคือหลังจากติดตั้งแอปใน Play Store แล้ว จังหวะที่เครื่องสแกนไวรัสจะขึ้นโฆษณามา
และ

รีวิวที่ดีต้องมีราคา

realme 7 Pro นั้นเปิดตัวที่ราคา 10990 บาท ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มมากสำหรับสเปกแบบนี้ คุณภาพกล้องระดับนี้ และเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ที่แรงส์มาก

สามารถดูรายละเอียดได้ตามนี้ได้เลยครับ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส