เชื่อว่าตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก Microsoft Edge เบราว์เซอร์ตัวล่าสุดจาก Microsoft โดยหลังจากที่ทีมงาน #beartai ได้เข้าร่วมเวิร์กชอปกับทาง Microsoft ประเทศไทย แล้วก็พบว่า Microsoft Edge มีความสามารถเจ๋ง ๆ อยู่เยอะเลย แถมยังเอามาปรับใช้กับการเรียนภาษาอังกฤษได้อีกด้วย อยากรู้ว่าทำยังไง ไปดูคลิปนี้กันเลย!

ก่อนอื่นเราต้องติดตั้ง Microsoft Edge ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีที่เว็บไซต์ของ Microsoft เลย

แต่! Microsoft Edge ที่เราจะใช้ในวันนี้ไม่ธรรมดา เพราะเราจะใช้ Microsoft Edge Insider ซึ่งเป็นเบราว์เซอร์ตัวทดลองของ Microsoft Edge ที่ให้เราได้ทดลองฟีเจอร์ใหม่ ๆ ก่อนใคร โดยสามารถดาวน์โหลดได้ที่ www.microsoftedgeinsider.com

Microsoft Edge Insider เป็นเบราว์เซอร์ตัวทดลองของ Microsoft Edge ที่เปิดให้คนทั่วไปทดลองใช้ เพื่อค้นหาปัญหาหรือ Bug ก่อนนำไปปรับปรุงแล้วปล่อยอัปเดตให้ใช้งานจริง โดยแบ่งการทดสอบออกเป็น 3 ระดับ คือ

  • Beta Channel อัปเดตทุก ๆ 6 สัปดาห์ เหมาะสำหรับคนทั่วไปที่ต้องการลองของใหม่ แต่ก็อยากได้ความเสถียร
  • Dev Channel เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลองของใหม่ล่าสุด เรียกว่าตามติดชีวิตนักพัฒนาของ Microsoft เนื่องจากอัปเดตกันทุกสัปดาห์ โดยเวอร์ชันนี้จะผ่านการทดสอบมาแล้วจาก Microsoft
  • Canary Channel เหมาะสำหรับคนที่อยากลองของใหม่ล่าสุด ไม่ว่าฟีเจอร์นั้นจะไปรอดหรือไม่ เพราะเวอร์ชันนี้จะได้อัปเดตกันแบบรายวัน แต่ความเสถียรก็ต่ำที่สุดใน 3 เวอร์ชันนี้เลย

ซึ่งเวอร์ชันที่เราจะนำมาใช้วันนี้คือ Microsoft Edge Dev นั่นเอง

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ

ติดตั้งเรียบร้อยแล้ว เราก็มาใช้งานกันเลย! โดยฟีเจอร์แรกที่ #beartai จะนำมาแนะนำคือ ฟีเจอร์ Read Aloud โดยฟีเจอร์นี้จะมี AI ที่คอยตรวจจับภาษาว่าหน้าที่แสดงผลอยู่คือภาษาอะไร เราก็แค่คลิกขวาบริเวณข้อความที่ต้องการ เลือก Read Aloud แค่นี้ Microsoft Edge ก็อ่านข้อความให้เราฟังได้เลย จะยาวกี่บรรทัด กี่หน้าก็อ่านได้หมด

ฟีเจอร์ Read Aloud ยังมีเมนู Voice Options ที่ให้เราสามารถปรับแต่งความเร็วในการอ่านและสำเนียงได้อีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหัดฟังสำเนียงภาษาอังกฤษแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ อินเดีย เกาหลี หรือญี่ปุ่น ก็ปรับได้ไม่มีปัญหา สอบ Listening ครั้งต่อไป ได้คะแนนเต็มแน่นอน!

ถัดมาคือ เมนู Immersive Reader เมนูใหญ่ที่ซ่อนลูกเล่นไว้มากมาย ซึ่งทาง Microsoft บอกว่าเมนูนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือการเรียนรู้โดยเฉพาะ โดยเมื่อคลิกเข้าไปแล้ว หน้าเว็บไซต์จะถูกลดทอนรายละเอียดและกราฟิกอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น แถบโฆษณา ปุ่มต่าง ๆ เพื่อให้เราจดจ่อกับเนื้อหาได้อย่างเต็มที่ ไม่มีสิ่งรบกวนตา

แต่เมนู Immersive Reader ไม่ได้มีความสามารถแค่นี้นะ เพราะเขายังมี ฟีเจอร์ Text Preferences ตัวช่วยในปรับแต่งรูปแบบการอ่าน

ซึ่งสามารถปรับได้มากถึง 3 อย่างคือ ขนาดตัวอักษร, ระยะห่างระหว่างคำ และสีพื้นหลัง ฟังแล้วก็อาจจะรู้สึกงั้น ๆ แต่รู้หรือไม่ว่า ระยะห่างระหว่างคำ มีผลอย่างมากต่อผู้ที่เรียนรู้ได้ช้า การที่สามารถปรับแต่งระยะห่างระหว่างคำได้ จะช่วยให้ผู้เรียนรู้ช้า สามารถอ่านหนังสือได้ดีขึ้น

การปรับสีพื้นหลังนั้น มีตัวเลือกทั้งแบบถนอมสายตาและแบบสำหรับผู้ที่ตาบอดสี เพื่อให้สามารถมองเห็น และอ่านข้อความได้

ฟีเจอร์ Grammar Tools ตัวช่วยในการอ่านภาษาที่แท้จริง เพราะช่วยแบ่งพยางค์ของคำ ทำให้อ่านได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงบอก Part of speech หรือ หน้าที่ของคำ อีกด้วย

ฟีเจอร์ Reading Preferences ตัวช่วยในการอ่าน ให้เราสามารถอ่านได้ดี และเข้าใจมากขึ้น เช่น Line focus เครื่องมือนี้จะไฮไลต์ข้อความทีละบรรทัด และสูงสุด 5 บรรทัด เพื่อให้เราอ่านไม่หลงบรรทัด กรณีที่เป็นบทความยาว ๆ หรือมีเนื้อหาเยอะ

นอกจากนี้ฟีเจอร์ Reading Preferences ยังสามารถแปลข้อความให้เราได้เลยทั้งหน้า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการอ่านข่าวต่างประเทศแบบไว ๆ แล้วไม่มีเวลาแปลเอง หรือต้องการตรวจสอบว่าเนื้อหาที่เราแปลไปนั้นถูกต้องหรือไม่ ซึ่งต้องบอกว่าแปลได้หลายภาษามาก ๆ เลย แต่สำหรับภาษาไทยก็อาจจะไม่ได้แปลแบบถูกต้อง 100% นะ เรียกว่าอ่านแล้วเข้าใจเนื้อหาได้ดีกว่า

อีกเครื่องมือที่น่ารักมาก ๆ ในฟีเจอร์ Reading Preferences นั่นก็คือ Picture dictionary หรือ พจนานุกรมรูปภาพ ซึ่งช่วยให้เราเข้าใจคำศัพท์ได้แบบเร็ว ๆ โดยที่ไม่ตรงแปล เพียงแค่เอาเมาส์ไปลอยอยู่เหนือคำ แล้วถ้าเมาส์เป็นเป็น คฑารูปดาว ก็คลิก แล้วรูปภาพที่อธิบายคำศัพท์นั้น ๆ ก็จะปรากฏขึ้น!

แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า Picture dictionary นั้นยังไม่รองรับภาษาไทย แต่นี่ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับคนที่ต้องการเรียนภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น ๆ เท่าไร

แต่! คำไหนแปลไม่ได้ ไม่ต้องห่วง เพราะ Microsoft Edge มี Search in sidebar เพียงแค่ลากคลุมคำหรือข้อความที่เราต้องการค้น คลิกขวาเลือก Search in sidebar for …

ผลการค้นหาก็จะปรากฏขึ้นที่หน้าจอทางด้านขวาทันที ไม่ต้องเปิดแท็บหรือหน้าต่างใหม่ให้วุ่นวายเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

เชื่อว่าตอนนี้หลาย ๆ คนที่ยังไม่เคยใช้ Microsoft Edge ก็น่าจะคันไม้คันมืออยากใช้กันขึ้นมาบ้างแล้วแน่ ๆ ยังไงก็ลองเอาฟีเจอร์เหล่านี้ไปฝึกภาษาอังกฤษกันดูนะ ต้องเก่งขึ้นได้อย่างแน่นอน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส