แบไต๋บุกงานแสดงเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Huawei ประจำปีนี้ในชื่อ POWERING DIGITAL THAILAND 2021: HUAWEI CLOUD & CONNECT จัดขึ้นที่ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์

ถ้าใครจำได้ปีที่แล้ว หนุ่ย พงศ์สุข ก็ได้ไปงาน HUAWEI CONNECT 2019 มาแล้วที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนเป็นการจัดแสดง Advanced Intelligent ที่เหนือกว่าความเป็น artificial Intelligent และที่นั่นเขามี AI Training Cluster ในชื่อ “ATLAS 900” ที่เคลมว่าเป็นเครื่องฝึก AI ที่ทรงพลังที่สุดในโลก และนวัตกรรมที่น่าสนใจ สามารถนำมาใช้ในประเทศไทยได้เยอะเลยล่ะครับ

ซึ่งเทคโนโลยีในครั้งนั้น ถูกนำมาจัดแสดงที่นี่ด้วย ไม่ต้องบินไปถึงประเทศจีนแล้ว! โดยภายในงานนี้จะแบ่งออกเป็น 5 โซนหลัก ๆ ซึ่งแต่ละโซนก็จะมีความน่าสนใจแตกต่างกันไปครับ

Huawei Offering Zone

เริ่มตั้งแต่จุดแรก Huawei Offering Zone จุดนี้จะเป็นการจัดแสดงนวัตกรรมของ HUAWEI ไม่ว่าจะเป็น Intelligent Conectivity ตรงนี้เป็นการแสดงวิธีเชื่อมต่อข้อมูลอย่างชาญฉลาดที่นำเอาเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ร่วมกับอินเทอร์เน็ต 5G ดูแล้วทรงพลังดี แต่จุดที่ผมชอบมาตั้งแต่ปีที่แล้วเลยคือโซน AI นี้ครับ มี developer kits ที่มี Memory มี CPU ARM ด้านในที่ให้คนนำไปพัฒนา AI ได้ด้วยตนเอง

โดยที่เขาได้โชว์ทั้งหุ่นยนต์ที่จะทำการจับท่าทางของเรา และจะเคลื่อนไหวตามได้แบบเรียลไทม์ รวมไปถึงหุ่นแมงมุมที่ตรวจจับวัตถุข้างหน้า และยังสามารถควบคุมพิเศษผ่าน QR Code ได้ด้วย น่าสนใจทีเดียว
และนอกจากนี้ทาง Huawei ได้นำเอา EI หรือ Enterprise Intelligent เข้ามาตรวจจับต่าง ๆ ได้ เช่นการตรวจจับการเคลื่อนไหวและเหตุการณ์ต่าง ๆ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้อีกด้วย

Industry

มาดูฝั่ง Industry กันบ้าง โซนนี้จะเป็นการนำเอาเทคโนโลยี HUAWEI CLOUD, AI, 5G ไปใช้ในด้านอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมายที่มีในปัจจุบันว่า แต่ละอุตสาหกรรมเอานวัตกรรมเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์อย่างไรบ้าง?

เริ่มตั้งแต่ Smart Education เพื่อแสดง ให้เห็นถืงการศึกษาในยุค 5G ว่าควรเป็นอย่างไร ใช้เทคโนโลยีอะไรบ้าง อย่างที่ผมเห็นนี่เป็น Huawei Idea Hub ที่รันอยู่บน Android OS + Windows ใช้การ Switch ปรับเปลี่ยนระหว่าง CPU 2 ฝั่ง เป็นหน้าจอสำหรับใช้ในการประชุมทางไกล+โปรเจกเตอร์+Android+Windows ให้เราสามารถเขียนกระดานโต้ตอบกันไปมาได้ รวมไปถึงการแสดงผลให้กับคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟนเครื่องอื่น ๆ เหมือนอยู่ร่วมห้องประชุมเดียวกันเลย

Smart Healthcare อันนี้ผมค่อนข้างอิน เพราะโลกทุกวันนี้เทคโนโลยีการแพทย์กำลังก้าวล้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ และยิ่งช่วงที่กำลังเกิดวิกฤติ COVID-19 นี้ เทคโนโลยีการแพทย์ก็ต้องพัฒนาเพื่อต่อสู้กับโรคนี้ให้หมดไป มาฟังวิธีตรวจรักษา COVID-19 ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการเข้ามาตรวจจับผ่าน CT SCAN และใช้ AI ในการตรวจจับผ่านภาพที่สแกนออกมา โดยมีความแม่นยำสูงมาก ซึ่งปัจจุบันถูกใช้งานแล้วในโรงพยาบาลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นต้น

มาต่อกันที่ Smart Campus ผมเห็นแล้วอยากให้โรงเรียนที่ลูก ๆ ของผมเรียนอยู่ติดตั้งไว้จังเลย กับประตูทางเข้าที่มีระบบ AI ตรวจสอบใบหน้าก่อนเข้า ป้องกันไม่ให้คนแปลกหน้าเดินเข้ามาในบริเวณโรงเรียนได้เป็นอย่างดี โดยจุดนี้เป็นหนึ่งในความเป็นสถานศึกษาที่ในยุค 5G ว่าควรมีหน้าตาเป็นยังไง และควรนำเอาเทคโนโลยี 5G, AI, Cloud มาทำอะไรบ้าง ดูแล้วก็น่าสนใจดีครับ

Open Speech

เข้าไปอีกนิด เราก็จะเจอกับ Open Speech โซนนี้เราจะได้พบกับผู้คร่ำหวอดในวงการเทคโนโลยี Tech Startup ต่าง ๆ ขึ้นมาอัปเดตความรู้ให้เราแบบฟรี ๆ ที่นี่เลย ซึ่งข้างในนี้มีของดีสำหรับคนที่มางานนี้ด้วย นั่นคือบูธสำหรับคอกาแฟ ที่ให้เราทำ Mini Heart เพื่อเข้าสู่เมนูสั่งกาแฟได้ อันนี้น่ารักดีครับ

ข้ามมาที่อีกฝั่ง ผมเห็นแล้วต้องเดินเข้าเลย เพราะเป็นบูธ Electric Power เกี่ยวข้องกับพลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะพลังงานสะอาด ซึ่งผมอยากผลักดันให้ทุก ๆ คนใช้ EV เพื่อโลกของเรากัน

คุณเบื่อรถติดแบบผมไหมครับ ถ้าเรามี Smart Transportation ที่เอาระบบ AI มาควบคุมการจราจรทั้งหมด แล้วใช้ Algorithm ประมวลผล ก็น่าจะช่วยแก้ปัญหารถติดได้ดียิ่งขึ้นใช่ไหมล่ะครับ

Cloud Ecosystem Partner Zone

และตรงจุดนี้คือ Cloud Ecosystem Partner Zone สำหรับใครที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ห้างร้าน หรือกำลังมองหาช่องทางในการทำธุรกิจ ก็เข้ามา Business Matching แลกนามบัตร สานสัมพันธ์ ต่อยอดธุรกิจกันได้เลย

บูธ Smart Retail ที่มีการจัดแสดงร้านค้ายุคใหม่ ซึ่งใช้กล้องวงจรปิดในการจับความเคลื่อนไหวใบหน้า และเช็กว่าเป็นผู้ชาย ผู้หญิง ตรวจสอบว่ามีผู้ชายผู้หญิงเท่าไหร่ เข้ามาบ่อยแค่ไหน และคนที่มามียอดใช้จ่ายเท่าไหร่ สามารถทำ Heatmap บอกความหนาแน่นของร้านได้ เอามาทำ CRM ได้ เช็กผลิตภัณฑ์ว่าจุดไหนขายดี จุดไหนขายไม่ออก และเราสามารถยิง Ads ให้ลูกค้าที่อยู่หน้าร้านได้ รวมไปถึงทำ Blacklist สำหรับผู้ไม่พึงประสงค์หรือทำ VIP พิเศษสำหรับลูกค้าบางคนได้เช่นกัน

โดย Huawei มี Router 5G CPE ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับสัญญาณ 5G ผ่านซิมมือถือ จากนั้นก็ทำการกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปทั่วบ้านเพื่อใช้งานได้อย่างรวดเร็ว นี่เป็นอีก 1 การพัฒนาที่ช่วยให้เราไม่ต้องเดินสายสัญญาณอินเทอร์เน็ตเข้าสู่บ้านอีกต่อไป (แต่ยังต้องต่อสายไฟอยู่นะ)

Hands-On L

สุดท้ายคือ Hands-On Lab อันนี้สำหรับกลุ่มนักพัฒนา เพราะเป็นห้องที่ทาง Huawei จัดขึ้นเพื่อให้นักพัฒนาได้รู้จักและเรียนรู้การใช้งาน AI ในรูปแบบต่าง ๆ ผ่านการทำงานจริง ๆ ในหลากหลายสถานการณ์ รับรองได้ว่า สามารถนำไปใช้และต่อยอดในงานของตัวเองได้ โดยในวันสุดท้ายก็มีการแข่งขัน HUAWEI CLOUD Developer Contest ที่ผู้ชนะจะได้รับรางวัลสุดพิเศษจาก HUAWEI CLOUD และสำหรับนักศึกษาจะมีโอกาสได้เข้าร่วมฝึกงานกับ HUAWEI CLOUD THAILAND อีกด้วย

และทั้งหมดนี้ Huawei เขาจัดงานให้ทุก ๆ คนเข้าชมได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเลยครับ ทำไมเขาถึงทำให้เราได้ขนาดนี้ เพราะประเทศไทยเป็นเสมือนกับพี่น้องกับประเทศจีน เขาจึงอยากเข้ามาช่วยพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวสู่ยุค 5G ได้อย่างก้าวกระโดด และหวังว่าเราจะได้เห็นเทคโนโลยีจากงาน POWERING DIGITAL THAILAND 2021: HUAWEI CLOUD & CONNECT ถูกนำไปใช้จริง ในอนาคตอันใกล้นี้ครับ

และนอกจากนี้เขายังมีโปรโมชันพิเศษ Year-End Sales Carnival ของ HUAWEI CLOUD ที่จะลดราคาสูงสุด 80% และคูปองมูลค่ารวมกว่า 1000$ ที่นี่เลย: https://activity.huaweicloud.com/intl/en-us/Double_Eleven/index.html

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส