ในช่วงปีที่ผ่านมา OnePlus เริ่มขยับภาพลักษณ์แบรนด์ครั้งใหญ่นะครับกับสมาร์ตโฟนตระกูล OnePlus Nord ที่นำดีไซน์เอกลักษณ์ของแบรนด์และ OxygenOS ระบบปฏิบัติการตัวเก่งที่ OnePlus จูนเองมาให้ผู้ใช้กลุ่มใหญ่ได้สัมผัสกันง่ายขึ้น และนี่คือ OnePlus Nord CE 5G หรือ Nord Core Edition สมาร์ตโฟนราคาหมื่นต้นที่น่าจับตาครับ

ดีไซน์

ดีไซน์ฝาหลังเป็นเอกลักษณ์ของ OnePlus มีกล้อง 3 ตัวเรียงในแนวดิ่งแบบนี้ แล้วก็มีโลโก้ OnePlus เท่ ๆ อยู่กลางฝาหลัง ซึ่งสีที่เราได้มารีวิวนี้คือสีฟ้า Blue Void ซึ่งก็เป็นสีเอกลักษณ์ของ OnePlus Nord มาตั้งแต่รุ่นแรก แต่รุ่น Nord CE นี้ฝาหลังมีลูกเล่นตรงขอบที่ซ่อนสีม่วงเหลือบ ๆ ไว้ครับ สะท้อนแสงไปมาก็ดูสวยดี แถมยังเป็นวัสดุแบบ AG Matte คือมีความด้านแบบพ่นทรายนิด ๆ ทำให้ลายนิ้วมือไม่ติดฝาหลัง ส่วนใครที่ชอบเครื่องเข้ม ๆ OnePlus Nord CE 5G ยังมีสีดำ Charcoal Ink ให้เลือกครับ

สเปกของ OnePlus Nord CE 5G บอกว่าบางแค่ 7.9 mm ส่วนน้ำหนักก็แค่ 170 กรัม ก็ถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่จับสบาย ใช้สะดวกเลย

สเปก

สมาร์ตโฟนราคาหมื่นต้น ได้อะไรบ้าง OnePlus Nord CE 5G ตัวที่เรารีวิวนี้ใช้ชิป Snapdragon 750G พร้อมแรม 8 GB และหน่วยความจำ 128 GB ครับ

ซึ่งผลการทดสอบประสิทธิภาพด้วย Geekbench 5 ก็ได้คะแนน Multicore ออกมาที่ 1832 คะแนน ซึ่งก็พอ ๆ กับ Snapdragon 845 ชิปตัวท็อปเมื่อ 3 ปีก่อน

ส่วนการทดสอบประสิทธิภาพด้วย 3Dmark ชุด Wild Life Stress Test ที่จัดหนักทดสอบประสิทธิภาพกราฟิก 20 รอบ 20 นาที ที่น่าสนใจคือความร้อนระหว่างทดสอบเกิดขึ้นไม่สูง จึงได้คะแนนไปนิ่ง ๆ ราว 1,110 คะแนน ไม่มีช่วงที่คะแนนโดนจำกัดเพราะความร้อนครับ ซึ่งคะแนนระดับนี้ก็เป็นคะแนนระดับเริ่มต้นของสมาร์ตโฟนเกมเมอร์

การทดสอบกับเกมเรานำ OnePlus Nord CE 5G ไปทดสอบกับ ROV ซึ่งก็สามารถเปิดภาพระดับ 60 fps แล้วเล่นได้ลื่น ๆ ไม่มีอาการกระตุกกวนใจให้เห็น แม้จะอยู่ในช่วงบุกตะลุย

ส่วน PUBG ก็สามารถเล่นเกมได้ลื่นไหลดี โดยสามารถเปิดคุณภาพภาพระดับสูงสุดเป็น HD ครับ ยังไม่สามารถเปิด HDR ได้ในตอนนี้ ซึ่งก็น่าจะมีการปรับปรุงกันต่อไป

สุดท้ายคือเกมยอดนิยมอย่าง Genshin Impact เกมภาพสวยสุดแสนจะกินสเปก ซึ่งถ้าเป็นคุณภาพกราฟิกระดับสูงสุดพร้อมเปิด 60 fps เต็มที่ ผลปรากฎว่าสามารถเล่นได้ แต่เกมกระตุกพอสมควร โดยเฉพาะจังหวะต่อสู้และการหมุนฉาก เราจึงแนะนำให้เซ็ตคุณภาพภาพในระดับกลางหรือต่ำ จะทำให้เล่นเกมได้ลื่นขึ้นครับ

โดย OxygenOS 11 ที่พัฒนาบน Android 11 นั้นมีความสามารถหลายอย่าง ซึ่งที่เกี่ยวกับเกมเมอร์คือ Gaming Mode เพื่อช่วยให้การเล่นเกมราบลื่นขึ้น ในระหว่างเล่นเกมเราสามารถลากที่ขอบจอบนซ้ายหรือขวาลงมาเพื่อแสดงหน้าต่าง Gaming Mode นี้ครับ และปรับแต่งการทำงานได้หลายอย่าง

เช่น ปรับรูปแบบการแสดง Notification ไม่ให้บังจอหรือปิดไปเลยระหว่างเล่นเกม หรือ Mis-touch Prevention ที่ปิดการเลื่อนหน้า Notification ไม่ให้เราเลื่อนพลาดระหว่างเล่นเกม หรือใช้บันทีกวิดีโอเวลาเล่นเกมก็ได้ และใช้เปิดข้อมูลดู FPS, CPU, GPU ระหว่างเล่นเกมทำได้ นอกจากนี้ยังสามารถเปิด Pro Gaming Mode เพื่อปิดการแจ้งเตือนแทบทุกอย่าง รวมถึงตัดสายโทรศัพท์ และปรับการประมวลผลให้รวดเร็วเต็มประสิทธิภาพขึ้นได้ด้วย
ส่วนการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันก็ทำได้ดีครับ การใช้งานต่างๆ ก็ทำได้คล่องตัว ลื่นไหลดี แต่รุ่นแรม 8 GB ที่เราทดสอบนี้ จังหวะสลับแอปหรือปิดแอปใหญ่ ๆ อย่างเกม Genshin Impact จะมีการหน่วงบ้าง ซึ่ง OnePlus น่าจะมีการจูน OxygenOS 11 อีกเรื่อย ๆ เพื่อให้การสลับแอปลื่นไหลมากขึ้น

หน้าจอ

OnePlus Nord CE 5G ใช้จอ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พร้อม Refresh Rate 90 Hz ซึ่งให้การเคลื่อนไหวเวลาใช้งานที่นุ่มนวลตากว่าจอ 60 Hz ทั่วไป และก็ให้สีสันที่ดีเป็นธรรมชาติด้วยครับ โดยรองรับ HDR10+ ซึ่งก็สามารถเปิดคลิป Youtube แบบ HDR แสดงผลได้สวยงาม พร้อมรองรับ Netflix แบบ Full HD ที่แสดงผลแบบ HDR ได้ด้วย ซึ่งมือถือระดับราคานี้หลายตัว จะไม่สามารถแสดง HDR บน Netflix ได้ครับ

และเพราะว่าเป็นจอ AMOLED ทำให้ใส่เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอได้ด้วย ซึ่งก็สแกนได้แม่นยำ รวดเร็วดี
ต่อที่รอบเครื่องครับ เนื่องจาก OnePlus Nord CE 5G เป็นสมาร์ตโฟนระดับกลาง จึงให้ช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 mm มา แต่ไม่ได้มีหูฟังแถมให้ในกล่องนะครับ ซึ่งเสียงผ่านช่องหูฟังนี้ก็ดีใช้ได้ครับ เพราะมีระบบ Dirac Audio Tuner ช่วยปรับแต่งเสียงให้สดใส ได้ยินรายละเอียดมากขึ้น ซึ่งเข้าไปปรับแต่งโหมดนี้ได้ใน Settings นะครับ

ส่วนลำโพงมีตัวเดียวอยู่ด้านล่าง ไม่ใช่ลำโพงสเตอริโอ ซึ่งก็ให้เสียงได้ดังดี เพียงแต่ว่าเมื่อเร่งเสียงจนดังสุด จะรู้สึกว่าเสียงพร่าชัดเจน ก็แนะนำให้เปิดสัก 70% ก็จะได้ความดังและเสียงที่โอเคครับ

และถาดซิม ก็เป็นแบบใส่ได้ 2 ซิม รองรับ 5G เรียบร้อยครับ แต่ไม่สามารถใส่ MicroSD เพิ่มได้นะครับ

ส่วนที่ขาดไปในตระกูล OnePlus Nord ไม่เหมือนรุ่นพี่ OnePlus สายหลักคือสวิตซ์เลื่อนโหมดเสียง สั่น หรือเงียบที่อยู่ข้างเครื่องครับ ซึ่งถ้ามีเหมือนรุ่นพี่ก็จะดีมากเลย

แบตเตอรี่

เราถือ OnePlus Nord 5G ใช้งานในชีวิตประจำวันมาราว ๆ 1 สัปดาห์ ก็ถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่แบตเตอรี่อึดเกินพอสำหรับการใช้งาน 1 วันครับ แบตเตอรี่ 4500 mAh ใช้งานจบวันได้แบบเหลือๆ ถึงจะเอาไปเล่นเกมบ้างก็ไม่น่าห่วงว่าแบตจะหมดระหว่างวันง่ายนัก ส่วนหัวชาร์จก็ให้มาเป็น Warp Charge 30T Plus ชาร์จไฟ 30 Watt จาก 0 ถึง 70% ได้ในเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

กล้อง

OnePlus Nord CE 5G ก็ได้ผลงานออกมาดีเกินคาดครับ โดยกล้องหลัง 3 ตัวประกอบไปด้วยตัวบนสุดคือกล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล f/1.79 ตัวกลางเป็นกล้องมุมกว้าง 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.25 และตัวล่างสุดคือกล้องโมโน สนับสนุนการถ่ายครับ

ภาพจาก OnePlus Nord CE 5G ออกมาดีเกินพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันครับ เปิด AI กับ HDR เอาไว้ ภาพส่วนใหญ่ที่ถ่ายได้ก็ให้สีสันดี คมชัดมากพอที่จะแชร์โซเซียลได้เลย แถมการซูม 2 เท่าที่ใช้ภาพจากเลนส์หลักมาขยาย ก็ยังทำผลงานออกมาได้ดีด้วย ความคมชัดไม่แตกต่างจากเลนส์ซูม 2 เท่าแท้ ๆ เท่าไหร่ ก็ใช้งานได้ดีครับ แต่จังหวะแสงน้อยอันนี้ต้องระวังนิดหนึ่ง มือจะต้องนิ่งหน่อยนะครับ

กล้องมุมกว้างมากก็ถ่ายรูปได้สวยงาม เอาไปถ่ายตอนกลางวันที่สีสันสดใสก็ได้ภาพที่น่าประทับใจ ใช้ถ่ายภาพในที่แคบ ๆ หรืออยากถ่ายวิวให้ติดบรรยากาศเยอะ ๆ ก็เหมาะ แต่ถ้าลองขยายในภาพดี ๆ จะเห็นว่ารายละเอียดเล็ก ๆ จากกล้องมุมกว้างนี้จะดูมีการแต่งภาพให้เน้นขอบมากกว่าปกติครับ ซึ่งถ้าต้องการถ่ายรูปเก็บดีเทลเล็ก ๆ เราแนะนำให้ใช้กล้องหลักถ่ายดีกว่า

ส่วนการถ่ายภาพบุคคล ก็สามารถแยกคนออกจากพื้นหลังได้เนียนตา ให้ผลงานออกมาได้ดูดีเลย ก็น่าจะเป็นโหมดที่ได้ถ่ายกันบ่อย ๆ

และการถ่ายภาพกลางคืนก็มีโหมด Nightscape ช่วยถ่ายภาพกลางคืนได้สว่างขึ้น สวยงามขึ้น โดยเฉพาะกับกล้องหลัก ส่วนกล้องมุมกว้างมากนั้นแพ้ทางการถ่ายรูปกลางคืนนะครับ โหมด Nightscape ก็ช่วยได้ไม่เยอะ ใช้กล้องหลักถ่ายกลางคืนจะดีที่สุดครับ

ผมลองใช้ OnePlus Nord 5G ที่ถ่ายในรูปแบบ 4K 30 fps ก็จะเห็นการทำงานของระบบป้องกันภาพสั่นไหว EIS ซึ่งช่วยชดเชยการสั่นไหวได้ระดับหนึ่งนะครับ โดยในโหมดวิดีโอนี้สามารถใช้เลนส์หลักได้อย่างเดียว การซูมภาพก็ซูมจากเลนส์หลัก เหมือนกับโหมด 1080p 60 fps ครับ

ส่วนกล้องหน้าที่อยู่ตรงมุมบนซ้ายมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.45 แบบ Fixed Focus ครับ

ก็ให้ผลงาน Selfies ออกมาดีเลยครับ ถ่าย Portrait ให้ฉากหลังละลายสวยดี ถ่ายง่าย ถ่ายสนุกเลย
ส่วนเรื่องศูนย์บริการที่หลายคนถามว่าแบรนด์หน้าใหม่ในตลาดไทยอย่าง OnePlus นั้นมีศูนย์บริการทั่วประเทศไหม ก็ต้องบอกว่า OnePlus ปรับปรุงเรื่องนี้มาเป็นอย่างดีครับ ตอนนี้เราสามารถใช้บริการได้ทั้งที่ศูนย์บริการของ OnePlus ที่ MBK Center หรือศูนย์บริการของ OPPO เกือบ 40 สาขาทั่วประเทศ ถ้าเครื่องมีปัญหาก็ค้นหาศูนย์ OPPO Service ใกล้ที่ไหนก็ติดต่อที่นั้นได้เลย

รีวิวที่ดีต้องมีราคา

สำหรับ OnePlus Nord CE 5G นั้นเปิดตัวในไทย 2 รุ่น คือรุ่นแรม 8 GB พร้อมหน่วยความจำ 128 GB ที่เรารีวิววันนี้ ราคา 12,990 บาท ซึ่งมีทั้งสีฟ้าและสีดำให้เลือก ส่วนรุ่นท็อป แรม 12 GB หน่วยความจำ 256 GB ราคา 15,990 บาท จะมีสีดำให้เลือกอย่างเดียวครับ ซึ่งแน่นอนว่าช่วง Pre-Order เปิดจองก็จะมีของแถมอีกเพียบ ติดตามให้กันดีครับ

พิเศษ! เมื่อสั่งซื้อผ่านเครือข่าย TruemoveH ราคาเริ่มต้นเพียง 5,990 บาท พร้อมแพ็กเกจรายเดือน 5G เริ่มต้น 699 บาท ตั้งแต่ 30 มิถุนายน – 6 กรกฏาคม 2564 นี้เท่านั้น https://store.truecorp.co.th/online-s…