infinix HOT 10S สมาร์ตโฟนสายเกม สเปกแรง ราคาไม่ถึง 5 พัน มาพร้อมสโลแกนสุดมันส์! Game on now – เปิดเกมพร้อมลุย! Infinix HOT 10s เด่นมากเรื่องราคา เพราะงั้นผมไม่รอช้า ประกาศราคาก่อนเลยครับ โดย ราคาของ Infinix HOT 10S

  • รุ่น 128+6 อยู่ที่ 4,999 บาท
  • รุ่น 64+4 อยู่ที่ 4,199 บาท

ฟังไม่ผิดนะครับ ราคานี้จริง ๆ แต่ยังถูกกว่านี้อีกนะครับ เพราะในวันวางขายวันแรก 6 มิถุนายนนี้ ทาง Lazada ที่ร้าน Infinix LazMall จะมีราคาพิเศษ

  • ในรุ่น 128+6 อยู่ที่ 4,349 บาท
  • ส่วนรุ่น 64+6 อยู่ที่ 3,659 บาท

หลายคนอาจจะเริ่มตั้งคำถามแล้วนะครับว่าราคาแค่นี้ เป็นสมาร์ตโฟนสายเกม จะไหวเหรอ เอาเป็นว่าเราไปแบไต๋ Infinix HOT 10S: Game on now กันเลยครับ!

Infinix HOT 10S มาพร้อมกับกล่องลิมิเต็ดอิดิชันสุดสวย HOT 10S x Mobile Legend ที่ออกแบบร่วมกับเกม Mobile Legend นะครับ ซึ่งกล่องเวอร์ชันพิเศษนี้ไม่มีขายในไทยนะครับ แต่ทาง Infinix ใจดีส่งมาให้ทางแบไต๋รีวิว

ดูที่กล่องกันก่อนนะครับ กล่องที่เราได้พิมพ์ลาย Chou: Kung-Fu Boy ซึ่งเป็นตัวละครในเกมนะครับ พอมอง ๆ แล้วก็สวยจริง ๆ โดยเฉพาะตัวอักษรหน้ากล่องที่พิมพ์ลายเงาสะท้อนเป็นชื่อรุ่น HOT 10S แถมวัสดุก็เป็นกระดาษแข็งที่ดูดีและแข็งแรงจริง ๆ คือซื้อไปแล้วกล่องนี่อย่าทิ้งเลย เอาไปตั้งโชว์ได้เลยครับ

ดีไซน์

มาดูที่ตัวเครื่องกันบ้างนะครับ วัสดุเป็นพลาสติกนะครับ ด้วยความที่ Infinix HOT 10S เป็นสมาร์ตโฟนที่ออกแบบมาเพื่อเล่นเกมตามสโลแกน Game on Now – เปิดเกมพร้อมลุย ทำให้ขนาดเครื่องถือว่าค่อนข้างใหญ่เลยครับ จับถนัดมือเลย

ด้านหลังก็มีการพิมพ์ตัวชื่อแบรนด์ Infinix กับ ชื่อเกม Mobile Legend ลงไปนะครับ แสดงถึงการคอลแลบกัน ส่วนตรงนี้ก็พิมพ์คำว่า Legendary ที่แปลว่าตำนานลงไป

เดี๋ยวเรามาดูกันที่น้ำหนักตัวเครื่องกันบ้างนะครับ น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 210 กรัม นะครับ ถือสมน้ำสมเนื้อกับขนาดเลยครับ เพราะความรู้สึกที่ได้สัมผัสก็ต้องบอกว่าค่อนข้างแข็งแรงนะครับ ประกอบมาแน่นทีเดียว
มาดูที่หน้าจอกันบ้างนะครับ อย่างที่บอกว่าเครื่องขนาดค่อน ข้างใหญ่ ซึ่งเหตุผลที่เป็นแบบนี้ก็เพื่อให้ infinix HOT 10S มีหน้าจอได้กว้างถึงใจ ด้วยขนาดจอ 6.82 นิ้ว HD+ ความละเอียด 720*1640 ที่สำคัญจอเป็นแบบ Ultra Smooth Display รีเฟรชเรต 90 Hz ทำให้จอแสดงผลได้ลื่นไหลไม่ขัดใจเวลาเล่นเกมแน่นอน

ประสิทธิภาพการใช้งาน

นอกจากจอที่ดีแล้ว การจะเล่นเกมได้อย่างสนุกสนาน การประมวลผลก็สำคัญ เครื่องนี้ CPU เป็น MediaTek Helio G85 ซึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้คือรีดประสิทธิภาพของเครื่องได้มาก แต่กินแบตเตอรี่น้อย

ซึ่งจะทำงานควบคู่ไปกับ Dar-link Ultimate AI Game Booster ที่จะประเมินภาพกราฟิกของเกมล่วงหน้าเพื่อลดความล่าช้า หรือที่เรียกว่าอาการ Lag เพื่อให้เครื่องเสถียรที่สุด พูดง่าย ๆ คือเวลาเล่นเราจะไม่แลค หรือแลคน้อยลงมาก ๆ นั่นเอง รวมไปถึงการมี Game Mode ที่ช่วยปิดการแจ้งเตือนให้เล่นได้แบบไม่มีใครกวนใจ

จากที่ทดลองเล่นเกมกับ Infinix HOT 10S เกม Mobile Legend จากที่เห็นก็ตั้งค่าสูงสุดเท่าที่เครื่องนี้จะทำได้แล้ว เท่าที่ลองเล่นดูภาพก็ลื่นไหลมากนะครับ การทัชการกดก็ทำได้ดี อย่างที่บอกนะครับว่าเครื่องนี้จอลื่นมาก แถมการประมวลผลก็เน้นความเสถียร ทำให้ภาพที่ออกมาค่อนข้างสวยงาม แถมไม่กระตุกเลยครับ

และจากการทดสอบเล่นไปประมาณ 1 ชั่วโมง เครื่องไม่ร้อนเท่าไหร่เลยครับ แค่อุ่นนิด ๆ เท่านั้น

Genshin Impact พอเราลอง ปรับสูงสุดแล้ว ภาพที่ได้ก็สวยเลย เก็บรายละเอียดต้นไม้ใบหญ้าได้ แต่ต้องยอมรับครับว่าเฟรมเรตตกมาก กระตุกเอาเรื่องเลย แต่พอเราลองปรับกราฟิกต่ำลงให้เหมาะสมสำหรับเครื่องนี้แล้ว ก็กลับมาลื่นไหลเหมือนเดิม แต่เรื่องภาพรายละเอียดต่าง ๆ ก็หายไปพอสมควร

ในส่วนของความร้อนนั้น อยู่ในระดับที่อุ่น ๆ ค่อนไปทางร้อนนิด ๆ แต่ไม่ได้ร้อนจี๋ขนาดนั้นครับ และนี่เป็นผลการทดสอบกับโปรแกรม 3D Mark นะครับ ในโหมด Wild Life Stress Test ได้คะแนนเสถียรอยู่ที่ราว ๆ 720 คะแนน
ส่วนการทดสอบกับโปรแกรม Geekbench 5 แบบ Single-Core อยู่ที่ 368 คะแนน ส่วน Multi-Core อยู่ที่ 1328 คะแนน

กล้อง

Infinix HOT 10S ให้เรามาทั้งหมด 4 เลนส์นะครับ

  • กล้องหลัง 48 MP
  • AI Cam
  • เลนส์ชัดลึก 2 MP
  • กล้องหน้า 8 MP

ซึ่งในการถ่ายภาพเราสามารถเปิดโหมดให้ถ่ายเต็มความละเอียด 48 ล้านพิกเซลได้ แต่ถ้าถ่ายทั่ว ๆ ไป ไม่ได้เอาภาพมาซูม ใช้โหมด 12 ล้านพิกเซลก็พอครับ จะให้คุณภาพโดยรวมดีกว่า ส่วนกล้องหน้าจะสูงสุดที่ 8 MP ครับ

ในส่วนของ AI CAM ของ Infinix HOT 10S ไม่ได้ย่อมาจาก artificial intelligence นะครับ แต่ย่อมาจาก Auto – Identify ซึ่งจะช่วยระบุว่าภาพที่เราถ่ายนั้นเป็นภาพประเภทไหนเช่น เป็นภาพ Portrait, ภาพ Food, ภาพ Text จากนั้นกล้องก็จะมีการตั้งค่าการถ่ายให้ออกมาเหมาะสมกับภาพนั้น ซึ่งเราก็สามารถถ่ายได้ถึง 48 MP เช่นกัน

ในส่วนของโหมดอื่น ๆ ที่น่าสนใจก็มีอยู่ครบครับ ไม่ว่าจะเป็น Beauty, AR Shot, Slow Motion, Panorama, Time-Lapse, Documents รวมไปถึง Super Night สำหรับถ่ายภาพกลางคืนซึ่งการถ่ายกลางคืนก็ถือว่าค่อนข้างโอเค ยังสามารถเก็บรายละเอียดได้แม้ในที่แสงน้อย

ในส่วนของการถ่ายวิดีโอ Infinix HOT 10S จะถ่ายสูงสุดได้ที่ 2K นะครับ ทั้งกล้องหน้าแล้วก็กล้องหลังเลย ซึ่งก็น่าเสียดายนะครับที่ไม่มีระบบกันสั่นติดมาให้ ดังนั้น ถ้าไปถ่ายอะไรที่เคลื่อนไหวเยอะ ๆ ก็อาจจะต้องระวังหน่อย
อีกจุดที่น่าสนใจคือแบตเทอรี่ครับ ให้มามากถึง 6000 MAh ซึ่งทางผู้ผลิตบอกว่าถ้าเราเปิดเครื่องสแตนด์บายไว้เฉย ๆ ไม่ทำอะไรเลยจะอยู่ได้ถึง 62 วัน ซึ่งจากการทดสอบเล่นเกม Mobile Legend ประมาณหนึ่งชั่วโมง แบตลดไปประมาณ 10% เปอร์เซนต์เท่านั้นครับ ถือว่าเอาเรื่องเหมือนกัน

ที่สำคัญยังมีฟังก์ชัน Power Marathon Mode ที่จะช่วย เพิ่มพลังงานแบตเตอรี่ให้เรา 20% เมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อย โดยจะทำการปิดการตั้งค่าบางอย่างเพื่อขยายเวลาแบตของเรา แต่จะยังใช้งานเครื่องได้ปกติ ซึ่งจะต่างจากโหมด Ultra Power Saving ที่จะทำให้เราโทรเข้าโทรออกได้อย่างเดียว

สเปกอื่น ๆ ที่น่าสนใจ Infinix HOT 10S

  • ระบบปฏิบัติการ XOS 7.6 Base on Android 11
  • Ram 6 GB / Rom 128GB
  • รองรับการสแกนนิ้วด้านหลังเครื่อง
  • ปลดล็อกใบหน้า
  • ใส่ได้ 2 Sim
  • ลำโพงเดี่ยว
  • หูฟัง 3.5 mm
  • ช่องชาร์จ Micro USB
  • เครื่องนี้รองรับแค่ 4G นะครับ ยังไม่รองรับ 5G

ข้อสังเกต

หลัก ๆ มีอยู่ 2 ข้อครับ จอเป็นแบบ HD เท่านั้น ด้วยสเปกจอที่ใหญ่ แถมลื่นด้วยรีเฟรชเรต 90Hz ถ้าทำให้จอละเอียดได้ถึง Full HD คิดว่าอรรถรสในการเล่นเกมคงจะสุดกว่านี้อีกครับ อีกข้อที่น่าเสียดายคือไม่มี Fast Charge ด้วยปริมาณแบตที่ให้มามาก แต่ไม่มีฟาสต์ ชาร์จ ทำให้เวลาชาร์จแบตก็กินเวลาพอสมควร จากการทดสอบชาร์ตจาก 2% สู่ 100% ใช้เวลาราว ๆ 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่เอาเข้าจริงจากแบตที่มีให้ผม
ว่า 1 วันนี่ใช้งานได้เหลือ ๆ เลยละ

หลังจากที่รีวิวมาถึงตรงนี้ เมื่อดูจากความสามารถและราคา ก็ต้องบอกเลยว่าคุ้มค่ามากจริงๆ สนใจสั่งซื้อหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติม รุ่น 64+4 https://cutt.ly/Onuxt4j รุ่น 128+6 https://cutt.ly/pnuxskn