ปีนี้ OnePlus ฟิตมากครับ ก่อนหน้านี้ แบไต๋ได้รีวิว OnePlus Nord CE สมาร์ตโฟนราคาหมื่นต้นแสนเร้าใจกันไปแล้ว วันนี้ผมจัดรีวิว OnePlus Nord 2 5G รุ่นท็อปในตระกูล Nord กันต่อเลย ไม่ปล่อยให้ต้องรอกันนาน มาดูกันว่าสมาร์ตโฟนราคาต่ำกว่า 2 หมื่นรุ่นนี้จาก OnePlus เป็นยังไง เจาะลึกกันเลย

เริ่มกันตั้งแต่แกะกล่อง นี่เป็นกล่องใหญ่พิเศษเพื่อส่งให้สื่อดูว่า OnePlus Nord 2 5G มีอุปกรณ์เสริมอะไรที่น่าสนใจบ้าง ก็ตัวกล่องนั้นใช้สีเน้นเป็นสีฟ้าเอกลักษณ์ของตระกูล Nord นะครับ เปิดออกมาก็จะเห็นกล่องมือถือจริงๆ อยู่ตรงนี้ เวลาขายจริงก็จะได้กล่องแค่นี้นะครับ

ส่วนที่เสริมมาในกล่องใหญ่นี้คือเคส 3 แบบ ตั้งแต่แบบธรรมดาคือ Sandstone Bumper Case ที่มีมาโชว์ทั้งสีดำเก๋ๆ และสี Desert Mirage ที่เป็นสีส้มไล่ไปฟ้าเหมือนทะเลทราย แต่เคสที่แปลกตาที่สุดคือ Quantum Bumper Case ตัวนี้ครับ เป็นลาย Doodle ที่แยกเป็นเลเยอร์จากกราฟิกด้านหลัง ก็ดูดีเลยแหละ

ดีไซน์

มาดูกล่องของ OnePlus Nord 2 5G กันต่อ นอกจากตัวเครื่องแล้วก็มีเคสใสมาให้ ซึ่งก็มีดีไซน์ดีเลย แล้วก็สายชาร์จ USB-C พร้อมหัวชาร์จตัวใหญ่ที่เป็น Warp Charge 65 ซึ่งจ่ายไฟ 65 Watt ชาร์จเร็วแรงแน่นอน
เริ่มต้นจากดูดีไซน์ตัวเครื่องกันก่อน ผมชอบสมาร์ตโฟนจาก OnePlus ตรงไม่ทิ้ง DNA ในการออกแบบของแบรนด์เลย เห็นด้านหลังก็รู้มาแต่ไกลเลยว่านี่แหละคือ OnePlus ทั้งโลโก้ OnePlus ตรงกลางนี้ และชุดโมดูลกล้องเลนส์กลม ๆ ตรงมุมบนซ้าย

ซึ่ง OnePlus Nord 2 ถือเป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางค่อนบนของค่ายแล้ว วัสดุเลยจัดเต็มครับ ฝาหลังเป็นกระจกพ่นทรายให้สัมผัสที่แน่นหนาแบบของราคาแพงเลย แล้วตรงโลโก้ OnePlus นี้เป็นกระจกเรียบนะครับ เวลาเอานิ้วไปสัมผัสก็จะรู้สึกหนืดๆ มือตรงนี้ โดยรวมฝาหลังนี้ดูพรีเมี่ยมมากครับ ลายนิ้วมือไม่ค่อยติดด้วย

OnePlus Nord 2 มีขายในไทย 2 สีที่สเปกไม่เหมือนกันนะครับ สีที่ผมได้มารีวิวนี้คือสีเทา Gray Sierra ที่มาพร้อมแรม 12 GB และหน่วยความจำ 256 GB ส่วนอีกสีคือสีฟ้า-เขียว Blue Haze ถ้าเป็นสีนี้จะมีแรม 8 GB และหน่วยความจำ 128 GB ครับ

OnePlus Nord 2 5G นั้นใช้ซีพียูไม่ธรรมดา เพราะร่วมพัฒนาซีพียูกับผู้ผลิตโดยตรง ออกมาเป็น MediaTek Dimensity 1200 AI ชิปรุ่นพิเศษที่เร่งประสิทธิภาพของปัญญาประดิษฐ์เป็นพิเศษ และ OnePlus เป็นแบรนด์เดียวที่ใช้ชิป Dimensity 1200 รหัสลงท้าย AI ตัวนี้ได้

พอการประมวลผล AI ถูกเร่งขึ้น OnePlus เลยเอาความแรงนี้ไปใช้กับหลายอย่างเลยครับ ผมเริ่มที่เรื่องจอและการแสดงผลก่อนเลย

หน้าจอ

หน้าจอของ OnePlus Nord 2 5G นั้นมีขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พร้อมเป็นจอ Fluid AMOLED 90 Hz ให้การเคลื่อนไหวที่นุ่มนวล สีสันภาพสดใสดีเลยครับ อย่างเวลาเปิดเฟซบุ๊กหรือเปิดเว็บก็สามารถเลื่อนหน้าจอได้เนียนตามาก ๆ แล้วพอเป็นจอ AMOLED ก็สามารถใส่เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้แบบนี้

หน้าจอนี้รองรับการแสดงผล HDR ของ Youtube นะครับ ซึ่งก็ให้ภาพที่สดใสมาก ส่วน Netflix นั้นรองรับการแสดงผลในระดับ Full HD แต่ไม่รองรับ HDR นะ แล้วชิป MediaTek Dimensity 1200 AI มาช่วยเรื่องหน้าจอยังไง ดูใน Settings -> Display แล้วเลื่อนลงมาด้านล่างจะมีตัวเลือก 2 ตัวในกลุ่ม Video Enhancement Engine คือ A.I. resolution boost ตัวเลือกแรกนี้คือใช้ A.I. ประมวลผลพิเศษเพื่อเพิ่มความคมชัดให้วิดีโอ ส่วนอีกตัวเลือกหนึ่งคือ A.I. color boost เพื่อใช้ A.I. วิเคราะห์ภาพและปรับสีของวิดีโอให้สดใสแบบยังดูเป็นธรรมชาติอยู่

ผมทดสอบการเปิด-ปิดการปรับแต่งวิดีโอกับ Youtube โดยใช้ปุ่มลัด Video Enhancement Engine จากบาร์ด้านบน จะเห็นว่าหลังจากเปิดการปรับแต่งวิดีโอด้วย A.I. แล้ว จะมีกราฟิกปาดหน้าจอแสดงการเริ่มใช้งาน ซึ่งภาพในวิดีโอก็จะชัดเจนขึ้น และมีสีสันที่เข้มขึ้น

ทดลองความสามารถนี้ด้วยคลิปวิดีโอเมื่อ 16 ปีที่แล้วดีกว่า ซึ่งเมื่อเปิดการปรับแต่งวิดีโอด้วย A.I. จะเห็นว่าระบบพยายามอัปสเกลภาพขึ้นมาจากคลิปต้นฉบับ 240p ให้ได้ภาพที่ชัดเจนขึ้น สีสันดีขึ้น

กล้อง

แน่นอนว่าประสิทธิภาพของ A.I. ก็ต้องเอาไปใช้กับกล้องด้วยครับ กล้องหลังของ OnePlus Nord 2 นั้นมี 3 เลนส์ประกอบไปด้วย

  • ตัวบนสุดคือเลนส์หลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.88 เซนเซอร์ Sony IMX766 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS
  • ตัวกลางเป็นเลนส์ Ultra-Wide มุมภาพ 120 องศา 8 ล้านพิกเซล f/2.25
  • ตัวเล็กล่างสุด เลนส์ Mono เพื่อสนับสนุนการถ่าย

กล้อง A.I. ของ OnePlus Nord 2 5G นั้นถ่ายง่ายครับ ระบบสามารถแยกลักษณะภาพได้ 22 แบบ ถ่ายต้นไม้ก็ปรับให้สีเขียวสดใสขึ้น เจอท้องฟ้าก็ปรับแสงให้ท้องฟ้ามีรายละเอียดได้ คือกล้องพร้อมจะปรับแต่งให้ทันทีเมื่อ A.I. ตรวจสอบได้ว่าวัตถุในภาพคืออะไร

นอกจากนี้ OnePlus Nord 2 5G ยังถ่ายสนุกด้วยช่วงซูมตั้งแต่ 0.6 เท่า ที่ให้ภาพมุมกว้าง 120 องศา เก็บองค์ประกอบภาพได้กว้าง ๆ ไปจนถึงซูมดิจิตอลสูงสุด 10 เท่า แต่ต้องเข้าใจว่าสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ไม่มีเลนส์ซูมโดยเฉพาะนะครับ การซูมทั้งหมดจะใช้เลนส์หลักมาขยายทั้งหมด ซึ่งช่วงซูม 2 เท่านั้นให้ผลงานที่ดีไม่แตกต่างจากการใช้เลนส์ซูม ส่วนเมื่อซูมไปถึง 5 เท่าจะเห็นร่องรอยการขยายในภาพแล้ว แต่ก็ยังให้ภาพที่มีรายละเอียดดีอยู่ครับ แล้วถ้าซูมมากกว่านี้ไปเรื่อยๆ ริ้วรอยในภาพมากขึ้น

การถ่ายภาพในยามค่ำคืนก็ออกมาดูดีครับ ถ้าแสงไม่น้อยมาก เราใช้กล้องอัตโนมัติถ่ายได้เลย เดี๋ยว A.I. จูนให้ แต่ถ้าแสงน้อยจริง ๆ เราสลับไปใช้ Night Mode ที่เปิดหน้ากล้องนานขึ้นได้ ซึ่งถ้าใช้กล้องหลักนั้นได้ผลงานดูดีเลย เก็บแสงได้มากกว่าโหมดถ่ายปกติขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ส่วนถ้าเป็นกล้องมุมกว้างมาก Night Mode ก็ช่วยได้บ้างครับ แต่ไม่ได้สว่างชัดเจนแบบกล้องหลัก

แต่เนื่องจากชุดกล้องของ OnePlus Nord 2 5G นั้นไม่มีเลนส์ที่มีคุณสมบัติถ่ายมาโครโดยเฉพาะ เราจึงไม่สามารถเอากล้องไปส่องวัตถุใกล้ ๆ แล้วถ่ายได้นะครับ ก็ต้องใช้เลนส์หลักถ่ายในระยะห่างหน่อยที่ยังโฟกัสได้ แล้วซูมหรือครอปภาพเอาครับ

OnePlus Nord 2 5G ถ่ายวิดีโอได้สูงสุดในระดับ 4K 30 fps นะคะ ซึ่งด้วยความที่เลนส์หลักนั้นมี OIS ด้วย ก็ทำให้การถ่ายนั้นนิ่งในระดับหนึ่งแบบนี้เลย ส่วนถ้าลดความละเอียดลงเหลือ 1080p จะสามารถถ่ายได้ที่ 60 fps
การถ่ายวิดีโอของมือถือรุ่นนี้มีโหมดพิเศษคือ A.I. Video Enhancement ที่ A.I. วิเคราะห์ภาพอัตโนมัติ ถ้ามีความแตกต่างของแสงมาก ก็จะถ่ายในโหมด Live HDR แบบที่เห็นอยู่ในคลิปนี้ เพื่อเก็บรายละเอียดส่วนมืดและสว่าง

ส่วนถ้าถ่ายในที่แสงน้อย A.I. จะเลือกโหมด Night ให้อัตโนมัติ เพื่อให้ถ่ายวิดีโอแล้วเก็บแสงได้ดีขึ้น แต่โหมดวิดีโอ A.I. นี้สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียด 1080p 30 fps เท่านั้นนะ ซึ่งที่ความละเอียด 1080p 30fps นั้นเราสามารถใช้เลนส์มุมกว้างมากถ่ายวิดีโอได้ด้วย แต่ไม่สามารถสลับเลนส์ไปใช้เลนส์หลักระหว่างถ่ายได้นะ ต้องหยุดคลิปก่อนแล้วค่อยสลับเลนส์

ฟังก์ชัน A.I. Video Enhancement นี่เราเห็นครั้งแรกในมือถือของ OPPO ซึ่งการที่ OnePlus มีฟังก์ชันนี้ด้วย ก็ตอกย้ำว่า 2 แบรนด์นี้มีการร่วมพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกัน

มาที่กล้องหน้าของ OnePlus Nord 2 5G อยู่ตรงมุมบนซ้ายของหน้าจอนี้นะครับ มีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.45 แบบ Fixed Focus ซึ่งกล้องหน้าตัวนี้มีฟีเจอร์ Group Shots 2.0 สามารถตรวจจับใบหน้าได้สูงสุด 5 คนในเฟรมเดียว เพื่อปรับแต่งใบหน้าของทุกคนให้สวยงาม โหมด Portrait ก็สามารถถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้แบบนี้ ก็ดูเป็นการเบลอฉากหลังที่เป็นธรรมชาติเลย

สามารถถ่ายวิดีโอ 1080p จากกล้องหน้าของ OnePlus Nord 2 5G ได้ด้วยนะ เปิดโหมดวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอไว้ ก็จะได้วิดีโอฉากหลังเบลอ แต่ฟีเจอร์นี้สามารถตรวจสอบใบหน้าได้แค่คนเดียว

วิดีโอจากโหมด A.I. Video Enhancement ซึ่งนอกจากที่หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 1200 AI จะช่วยให้การทำงานของ A.I. รวดเร็วขึ้นจนใช้ช่วยประมวลผลกล้องและการแสดงผลวิดีโอได้แล้ว ประสิทธิภาพของชิปตัวนี้ยังดีอีกด้วย

การทดสอบประสิทธิภาพ

ผลการทดสอบประสิทธิภาพด้วย Geekbench 5 ก็ได้คะแนนแบบ Multicore ไป 2636 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนพอ ๆ กับ Snapdragon 855 และสูงกว่า OnePlus Nord ปีที่แล้วอยู่ราว ๆ 700 คะแนน ส่วนถ้าเปิด High Performance Mode จะอัดคะแนนไปได้ถึง 3402 คะแนน ซึ่งขึ้นไปใกล้เคียงกับ Snapdragon 888 เลย เพียงแต่จะกินแบตมากขึ้น และเครื่องร้อนเร็วขึ้น

ส่วนการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย 3Dmark ชุด Wild Life Stress Test ก็ได้คะแนนสูงสุดที่ 4169 ซึ่งคะแนนนิ่งราว ๆ นี้อยู่ 13 รอบการทดสอบ ก่อนที่คะแนนจะลดลงเพราะความร้อนจนรอบที่ต่ำสุดอยู่ที่ 2895 คะแนน ซึ่งก็ถือเป็นคะแนนที่ดีเลย สามารถเล่นเกมในปัจจุบันได้สบาย ๆ ครับ ส่วนถ้าเปิด High Performance Mode คะแนนสูงสุดเพิ่มขึ้นนิดหน่อยเป็น 4281 คะแนน แต่เครื่องจะร้อนเร็วมาก ประสิทธิภาพจะลดลงเหลือราว 2500 ตั้งแต่รอบการทดสอบที่ 6 เลย

ซึ่งเราทดสอบกับ Genshin Impact โดยเปิดคุณภาพกราฟิกสูงสุดและเปิดใช้ 60 fps ก็พบว่าสามารถเล่นได้ลื่นในระดับหนึ่งเลย ซึ่งตัวเครื่องรายงานว่าสามารถทำเฟรมเรตในการเล่นจริงได้ราว ๆ 50 fps ซึ่งก็ให้ภาพได้ลื่นไหลเลยระหว่างเล่นครับ

สรุปว่าประสิทธิภาพของ OnePlus Nord 2 5G นั้นดีเลย ใช้งานในชีวิตประจำวันก็ลื่นด้วยจอ 90 Hz เล่นเกมก็พริ้วด้วยความแรงของชิปครับ

มาดูรอบเครื่องกันบ้างครับ OnePlus Nord 2 5G ยังมี Alert Slider เหมือน OnePlus Nord ทำให้เราสามารถเลื่อนโหมดว่าจะให้มีเสียง โหมดสั่น หรือปิดเงียบไม่สั่นได้เลยจากสวิทซ์เลื่อนตัวนี้ ส่วนเรื่องพอร์ต 3.5 mm ก็เหมือนรุ่นพี่เช่นกันคือไม่มี และไม่แถมหัวแปลง USB-C เป็นพอร์ต 3.5 mm ให้ด้วยครับ OnePlus Nord 2 5G อัปเกรดระบบชาร์จไฟไปอีกระดับจาก Nord รุ่นแรก คือมาพร้อม Warp Charge 65 ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh ของเครื่องแค่ 15 นาทีก็ได้ความจุราวๆ 60% แล้ว ชาร์จไม่ถึงชั่วโมงเครื่องก็มีแบตเต็ม 100% พร้อมใช้งานไปตลอดวัน

แต่รุ่นนี้ไม่รองรับชาร์จไร้สาย เสียบสายชาร์จอย่างเดียว ส่วนลำโพงก็อัปเกรดเป็นลำโพงสเตอริโอแล้ว จาก Nord รุ่นแรกที่เป็นลำโพงโมโน ทำให้ลำโพงของ OnePlus Nord 2 5G นั้นให้เสียงดังและมีมิติมากกว่าเดิม ซึ่งก็ดีพอสำหรับการใช้งานในปัจจุบันแล้วครับ

นอกจากนี้ยังมีระบบสั่น Haptic 2.0 ซึ่งเป็นการสั่นแบบผู้ดี สั่นสั้น ๆ กระชับระหว่างการใช้งานต่าง ๆ ทำให้ความรู้สึกในการใช้นั้นพรีเมี่ยมมากขึ้นด้วย

และถาดใส่ซิมนั้นรองรับซิม 5G ทั้ง 2 ถาด แต่ไม่สามารถเพิ่ม MicroSD ได้ ซื้อความจุเท่าไหนก็ใช้เท่านั้นเลย
เป็นมือถือ OnePlus ก็ต้องใช้ระบบปฏิบัติการ OxygenOS 11 ที่มีพื้นฐานจาก Android 11 ครับ ซึ่งเป็น OS ที่ออกแบบได้เนี๊ยบและใช้งานได้ลื่นไหล มีความสามารถครบเครื่องที่สุดตัวหนึ่งเลย อย่างเวลาเล่นเกมก็สามารถลากที่มุมจอด้านบนซ้ายหรือขวา เพื่อดึงเครื่องมือสนับสนุนการเล่นเกมออกมาได้ หรือหน้า Always On Display ก็มีให้เลือกหลายแบบอย่างสวยงาม

โดย OnePlus การันตีการอัปเดตซอฟต์แวร์ให้ 2 ปี และอัปเดตความปลอดภัยให้ต่อเนื่อง 3 ปี เทียบกับสมาร์ตโฟนระดับเรือธงของค่าย

ข้อสังเกต

ส่วนข้อสังเกตของ OnePlus Nord 2 5G เราว่าตัว Video Enhancement Engine นั้นยังรองรับแอปไม่เยอะครับ และ OnePlus ก็ไม่ได้บอกเราด้วยว่าแอปอะไรที่รองรับบ้าง ที่เรารู้ตอนนี้คือใช้ได้แต่ Youtube ส่วน Netflix ใช้ไม่ได้ ซึ่งก็น่าจะมีการปรับปรุงให้ให้รองรับแอปวิดีโอมากขึ้นต่อไป อย่างน้อยก็ควรใช้กับ facebook ได้ด้วยนะ

รีวิวที่ดีต้องมีราคา

OnePlus Nord 2 5G เปิดตัวในไทย 2 สี 2 สเปก 2 ราคาคือ

  • สีฟ้า Blue Haze : RAM 8 GB หน่วยความจำ 128GB – 16,990 บาท
  • สีเทา Gray Sierra : RAM 12 GB หน่วยความจำ 256GB – 18,990 บาท

ส่วนใครที่ยังกังวลเรื่องศูนย์บริการ ตอนนี้ OnePlus จับมือกับ OPPO เพื่อให้บริการหลังการขายดีขึ้น คือถ้าเครื่องมีปัญหา นอกจากที่เราจะติดต่อศูนย์ OnePlus Service Center ที่ MBK ชั้น 5 ได้แล้ว ยังสามารถติดต่อผ่านศูนย์บริการของ OPPO ทั่วประเทศได้เลยครับ ใกล้ที่ไหน ไปที่นั้นได้เลย