เรารู้กันดีว่าแบตเตอรี่เป็นอะไหล่สิ้นเปลืองของสมาร์ตโฟนนะครับ ใช้เครื่องไปสัก 2-3 ปี แบตก็เสื่อม เก็บไฟได้น้อยลง ซึ่งสำหรับ iPhone ไม่ใช่แค่ทำให้แบตหมดเร็วขึ้นอย่างเดียวนะ ประสิทธิภาพเครื่องก็ลดลงด้วย อย่าง iPhone X เครื่องนี้ มีประสิทธิภาพแบตเตอรี่แค่ 80% อย่างนี้ไม่ดีแล้ว ก็ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่สิ

ทำไมถึงต้องเปลี่ยนแบต

แล้วทำไมอายุของแบตเตอรี่ถึงส่งผลต่อประสิทธิภาพของ iPhone ด้วย เรื่องนี้แอปเปิ้ลอธิบายว่า เมื่อแบตเตอรี่ Li-ion มีอายุมากขึ้น นอกจากความสามารถในการเก็บประจุจะลดลงแล้ว ในบางจังหวะกำลังไฟสูงสุดที่ดึงได้จากแบตเตอรี่ก็ลดลงด้วย ตามความต้านทานไฟฟ้าของแบตเตอรี่ที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อแบตเตอรี่มีอายุมากขึ้น ซึ่งในจังหวะที่ iPhone ต้องดึงกระแสไฟเยอะ แต่แบตเตอรี่จ่ายให้ไม่ไหว เครื่องจะดับเองเพื่อป้องกันความเสียหายครับ 

ทำให้เมื่อแบตเตอรี่เสื่อมถึงระดับหนึ่ง แอปเปิ้ลจึงมีการจำกัดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องเพื่อป้องกันไม่ให้มีการโหลดกระแสเยอะจนเครื่องดับครับ ซึ่งปัญหานี้จะเกิดเยอะเมื่อใช้เครื่องในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำ แม้ในไทยจะแทบไม่มีสภาพแวดล้อมอุณหภูมิต่ำเลยก็เถอะ แต่เราก็โดนจำกัดประสิทธิภาพไปด้วย

เลยเป็นเรื่องตลกว่าถ้าเราเปลี่ยนภูมิภาคของ iPhone เป็นฝรั่งเศสจะไม่มีประเด็นเรื่องเครื่องเก่าถูกลดประสิทธิภาพครับ เพราะมีการฟ้องร้องกันที่นั่น และแอปเปิ้ลแพ้คดีเลยต้องไม่มีการควบคุมประสิทธิภาพเครื่องแบบนี้ในฝรั่งเศส แต่ก็ไม่มีรายงานนะครับว่าชาวฝรั่งเศสหงุดหงิดกับอาการเครื่องดับบ้างหรือไม่

ฟังมาทั้งหมดนี้ก็คงรู้แล้วใช่ไหมครับว่าต้นเหตุของปัญหา iPhone ทำงานช้าลง เครื่องดับ หรือแบตหมดระหว่างวันคือแบตเสื่อมนั้นเอง งั้นเรามาเปลี่ยนแบตเตอรี่กันครับ

ทางเลือกการเปลี่ยนแบต

การเปลี่ยนแบตเตอรี่ iPhone เรามีทางเลือก 3 ทางคือ

1.เปลี่ยนกับศูนย์บริการของแอปเปิ้ลหรือ Apple Authorized Service Provider (AASP) ซึ่งสำหรับ iPhone X ขึ้นไป หรือกลุ่ม iPhone ที่ไม่มีปุ่มโฮมนี้ ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่อยู่ที่ 2,300 บาทครับ

2 คือเปลี่ยนกับร้านภายนอกครับ ราคาก็จะเหลือแค่หลักพัน แพนแนะนำว่าให้เลือกร้านที่ใช้แบตเตอรี่ดี ๆ ต้องผ่านมาตรฐาน มอก. แล้วก็มีประกันแบตเตอรี่ชัดเจน ซึ่งแพนแนะนำ TM Battery โลโก้แบบนี้นะครับ ได้ มอก. ชัดเจน เสียภาษีถูกต้อง รับประกัน 18 เดือน ก็ทำให้ร้านซ่อมมือถือหลาย ๆ ร้านเลือกใช้แบตของ TM ครับ เพราะซ่อมไปแล้วก็สบายใจ ให้ประกันกับลูกค้าไปได้เต็ม ๆ ปีครึ่ง สร้างความมั่นใจกับคนมาเปลี่ยนแบต แล้วถ้าซื้อหลายก้อน ทาง ™ Battery ก็มีราคาขายส่งให้ร้านซ่อมด้วยนะครับ

แถมเป็นแบรนด์แรกในไทยที่ให้ความจุแบตเตอรี่มากกว่าแบตเดิมที่มากับเครื่องในขนาดแบตเตอรี่เท่าเดิมก้อนเดิมอย่าง iPhone X ปกติมี 2716 mAh แต่ TM Battery ให้แบตความจุสูงเป็น 3060 mAh หรือจุเพิ่มขึ้นประมาณ 13% ซึ่งก็มีแบตหลายรุ่นที่เพิ่มความจุได้เยอะมาก เช่น iPhone6 จาก 1810 mAh เพิ่มเป็น 2310 mAh หรือ 27% หรือที่เพิ่มเยอะคือ iPhone 6s+ จาก 2750 mAh เพิ่มเป็น 3680 mAh ให้แบตมากกว่าเดิมเกือบ 1,000 mAh หรือ 34% ก็ทำให้ใช้งานต่อวันได้นานขึ้นกว่าเดิม

ส่วนทางเลือกที่ 3 สำหรับใครที่มีความสามารถระดับ Advance ขึ้นมานิดนึง ก็สามารถซื้อมาเปลี่ยนเองได้นะครับ ประหยัดที่สุดคือซื้อแบตเตอรี่ของ TM มาเปลี่ยนเองครับ สั่งออนไลน์มาเลย ก็จะประหยัดค่าแรงของร้านซ่อมไปได้ TM Battery มีเเบตหลายรุ่นด้วยกัน 

เริ่มตั้งเเต่ ไอโฟน 5 – ไอโฟน 11 โปร Max นอกจากไอโฟนเเล้วยังมี เเบตเตอรี่อีกหลายยี่ห้อเลย ราคาจะมีตั้งเเต่ 500 บาท – 1XXX บาท นอกจากนั้นเเล้ว TM battery ยังมีราคาส่งสำหรับร้านมือถือ อีกด้วย 

โดย TM Battery นะครับเขาก็มีแบตเตอรี่หลายรุ่นด้วยกัน ตั้งแต่ iPhone 5 จนถึง iPhone 11 Pro Max นอกจากไอโฟนแล้วก็ยังมีแบตเตอรี่ของยี่ห้ออื่นอีก ราคาก็จะมีตั้งแต่ 500 ถึง พันกว่าบาท

ก่อนแกะเปลี่ยนแบตเรามาดูสุขภาพของแบตเตอรี่กันก่อนแล้วกัน โดย iPhone X เครื่องนี้มีอายุการใช้งาน 3 ปีด้วยกันนะครับ ประสิทธิภาพแบตเตอรี่คือ 80% แล้วตอนนี่แพนต่อกับโปรแกรม 3utools ซึ่งเป็นโปรแกรมของ Window ผลที่ได้คือแบตเตอรี่ตอนนี้มีความจุ 84% เดี๋ยวเราจะมาเปลี่ยนแบตกันแล้วดูกันอีกทีครับว่ามีความจุอยู่ที่เท่าไหร่ครับ

วิธีเปลี่ยนแบต iPhone

  1. ปิดเครื่องและแกะถาดซิมออก
  2. แตะมือที่โลหะรอบ ๆ ตัวเพื่อไล่ไฟฟ้าสถิตออกจากร่างกาย
  3. ไขน็อตเครื่องที่ท้ายเครื่องด้วยไขควงหัวพิเศษที่ให้มา
  4. ติดที่แปะกระจกแล้วค่อย ๆ เอาปิ๊กพลาสติกและแท่งพลาสติกบางแซะรอบเครื่องออกมา
  5. ถ้าแกะยาก ให้เอาไดร์เป่าผมเป่ารอบเครื่องให้กาวอ่อนลงก่อน
  6. ตรงแถว ๆ ปุ่ม Power ต้องระวังอย่าแซะเข้าไปมากเกินไป เพราะมีการเชื่อมต่ออยู่
  7. เสร็จแล้วค่อย ๆ เปิดเหมือนเปิดประตู โดยเปิดจากด้านหน้าจอ จากด้านซ้ายมาด้านขวา
  8. ระหว่างที่เปิดหน้าจอออกจะเห็นซีลยางลอกออกมาด้วย ก็ลอกออกไปให้หมดครับ เดี๋ยวเราต้องเปลี่ยนซีลใหม่อยู่แล้ว
  9. ไขน็อตที่อยู่ตรงโลหะข้าง ๆ แบตเตอรี่ออก ซึ่งน็อตแต่ละตัวจะไม่เหมือนกัน ก็ต้องเก็บแยกและจำด้วยว่าตัวไหนมาจากช่องไหน
  10. เสร็จแล้วถอดเอา connector ของแบตเตอรี่และจอออก
  11. รอบ ๆ connector ต่าง ๆ จะเห็นว่ามีซิลิโคนดำ ๆ ล้อมเหมือนเป็นกำแพงอยู่ ตรงนี้คือปราการด่านสุดท้ายไม่ให้น้ำหรือฝุ่นเข้ามาถึง connector ต่าง ๆ ได้ ก็ระวังอย่าทำพัง
  12. ค่อย ๆ แกะแบตเตอรี่ โดยดึงกาวจากขอบให้ค่อย ๆ หลุดออกมา จะดีกว่าการแงะแบตออก
  13. ถอดแบตออกมา
  14. เอา TM Battery มาติดกับแผ่นกาวซิลิโคนก่อนแล้วแปะกลับเข้าไป นี่ความจุมากขึ้น แต่ขนาดเท่าเดิมเลยเห็นไหม
  15. เสร็จแล้วก็ทำย้อนกลับขั้นตอนการแกะ
  16. เสียบคอนเน็กเตอร์กลับไปให้เหมือนเดิม และปิดแผ่นเหล็ก ขันน็อต
  17. เสร็จแล้วแปะซีลยางที่ขอบเครื่องให้สมบูรณ์
  18. แล้วประกอบกลับให้เหมือนเดิม

ปกติแล้วชุดเปลี่ยนแบตเตอรี่จะไม่ได้ให้ซีลยางที่ขอบเครื่องมาด้วยนะครับ เพราะถือเป็นอะไหล่ของเครื่องไม่ใช่อะไหล่ของแบตเตอรี่ แพนเลยไปสั่งมาเพิ่ม ถามว่าไม่มีซีลยางตัวนี้แล้วเครื่องจะมีปัญหาไหม ก็ยังใช้ได้ปกติครับ เพียงแต่ว่าการกันน้ำจะลดลง ก็ต้องใช้ระวังมากขึ้นครับ

ส่วนถ้าเราไปเปลี่ยนที่ร้าน ก็ลองถามร้านให้มั่นใจว่ามีเปลี่ยนซีลยางตัวนี้ด้วยหรือเปล่านะครับ

หลังจากที่เปลี่ยนแบตแล้วนะครับก็มาเช็กกัน ตอนนี้ความจุสูงสุดของแบตเตอรี่อยู่ที่ 100% นะครับ เดี๋ยวเราลองไปเสียบกับแอป 3utools กันว่ากี่ mAh เพราะจะบอกได้มากกว่าในไอโฟน โดยหน้ากล่องระบุไว้ว่า 3060 mAh แล้วเมื่อมาเช็ดในแอปนี้บอกว่ามีทั้งหมด 3262 mAh ซึ่งเยอะเกินคาด

ซึ่ง TM ก็ขายแบตเตอรี่ของสมาร์ตโฟนยอดนิยมหลายรุ่น หลากแบรนด์ครับ นอกจากนี้ยังมีอะไหล่สมาร์ตโฟนจำหน่ายด้วย เช่นที่แพนเอามาให้ดูนี้เป็นอะไหล่หน้าจอของ iPhone ครับ แต่ของแบรนด์อื่นเช่น Samsung OPPO ViVO Huawei ก็มีจำหน่ายมากมายหลายรุ่นเเช่นกัน มาทั้งกระจกและหน้าจอด้านในเลย ซึ่งเราสั่งมาเปลี่ยนเองก็ได้ หรือจะขอให้ร้านเลือกอะไหล่จาก TM มาซ่อมมือถือเราก็ได้นะครับ

อย่างน้อยแบตเตอรี่หรืออะไหล่ที่รู้ที่มาที่ไป รู้ว่าใครนำเข้ามาจัดจำหน่าย ได้มาตรฐานมอก. และเสียภาษีถูกต้อง เราก็อุ่นใจว่าถ้าเกิดใช้ไปแล้วมีปัญหา ก็ติดต่อ TM เพื่อจัดการได้

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส