วันนี้ผมอยู่กับ HUAWEI MateBook 14s โน้ตบุ๊กยุคใหม่ ที่ใช้ซีพียู Intel Core™ i5 และ Core™ i7 เจนเนอเรชั่น 11 ในรหัส H-Series แบบเดียวกับโน้ตบุ๊กเกมมิง ส่วนหน้าจอก็ทั้งคมชัดและนุ่มตา ด้วยจอ 2.5K ที่ 90Hz ที่สำคัญลงแอปมือถือ และเชื่อมต่อกับจักรวาลอุปกรณ์ HUAWEI ได้ด้วยนะ น่าสนใจแบบนี้ เดี๋ยวผม #beartai เล่าให้ฟังกันครับ

ต้องเล่าก่อนว่า ปีที่แล้วผมได้จับโน้ตบุ๊ก HUAWEI MateBook Series ประมาณ 3 รุ่น ซึ่งก็ประทับใจกับการออกแบบที่ดูพรีเมียม ซึ่งใน HUAWEI MateBook 14s รุ่นนี้ก็ดูหรูไม่ต่างกันเลยครับ เอาจริง ๆ ผมว่าดูเหมือนกับ MateBook X Pro ตัวท็อปเลยนะ

ดีไซน์

สำหรับวัสดุตัวเครื่องเอง ก็ทำจาก Aluminium-Alloy (อะลูมิเนียม-อัลลอย) ที่แข็งแรงแต่มีน้ำหนักเบา ส่วนพื้นผิวก็ให้สัมผัสที่เนียน ๆ ไม่สากนิ้วครับ

ต่อกันที่เรื่องของสี ปกติแล้ว MateBook Series มักมีแค่ สีเทา Space Gray (อ่านว่า สเปส-เกรย์) สีเดียวครับ หลายคนมองว่าสีน้อยไปหน่อย ทาง HUAWEI ก็จัดสีใหม่มาให้เลยครับ คือ สีเขียว Spruce Green ผมว่าดูดีไปอีกแบบนะ!

และอีกหนึ่งเรื่องที่ข้ามไม่ได้ก็คือความบางและเบาครับ เดี๋ยวผมลองชั่งให้ดูครับ ตัวเครื่องเปล่า ๆ น้ำหนักอยู่ที่ 1.43 กิโลกรัม พอรวมอะแดปเตอร์ เข้าไปก็จะอยู่ที่ 1.59 กก. ผมว่าไม่ได้หนักไป และก็ไม่ได้เบาไป น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์กลาง ๆ

โดยขนาดตัวเครื่องก็ใกล้เคียงกับกระดาษ A4 (เอากระดาษมาเทียบ) สำหรับความหนาอยู่ที่ 1.67 ซม. ดูกะทัดรัดอยู่นะ การพกพาเนี่ยก็จัดว่าสะดวกเลยครับ

มาดูเรื่องพอร์ตกันบ้าง ที่ฝั่งขวา (ชี้ที่พอร์ต) จะมี USB-A หนึ่งช่องครับ ส่วนฝั่งซ้ายก็จะมี USB-C อีกหนึ่งช่อง

ถัดมาที่มีสัญลักษณ์สายฟ้านี้ ก็คือ Thunderbolt 4 พอร์ตครอบจักรวาล ที่ทำได้ทั้ง โอนถ่ายข้อมูล แชร์แบตไปชาร์จอุปกรณ์อื่น และชาร์จไฟเข้า รวมถึงต่อหน้าจอแยกได้ถึงระดับ 8K

ในขณะที่ช่องเสียบ HDMI ก็ยังคงมีมาให้ครับ สุดท้ายก็คือช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. สำหรับพอร์ต LAN อันนี้เขาไม่มีมาให้เพราะ รุ่นนี้เป็น Wi-Fi 6 แล้วครับ ความเร็วก็ไปแตะ 1000 Mbps (เม-กะ-บิท) ได้หายห่วงเลยครับ

หน้าจอ

ดูต่อกันที่หน้าจอ HUAWEI MateBook 14s ก็มีขนาด 14.2 นิ้ว ที่พร้อมความละเอียดก็เป็นแบบ 2.5K ทำให้ตัวอักษรคมชัดอย่างที่เห็น นอกจากนี้เป็นจอนุ่มแบบ 90Hz ด้วยนะ และจุดที่น่าสนใจคือเราสามารถสลับเป็น 60Hz ได้ด้วยปุ่ม Fn+R (ลองกด) เพื่อลดการใช้แบต อันนี้ผมว่าดี

ในขณะเดียวกันจอนี้ก็ยังทัชได้ด้วยนะครับ แตะได้ง่าย ๆ แบบนี้เลย แต่น่าเสียดายยังไม่รองรับปากกาในการวาดเขียนครับ

ด้านขอบเขตการแสดงสี หรือ Colour Gamut ก็เป็นแบบ 100% sRGB ซึ่งเพียงพอกับการใช้ทำภาพกราฟิกลงออนไลน์เลยล่ะครับ นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland เรื่องการลดแสงสีฟ้า Low Blue Light ช่วยถนอมสายตา และลดการกะพริบจอ Flicker Free ที่ช่วยลดอาการตาล้าด้วยครับ

สำหรับอัตราส่วนของหน้าจอ ก็เป็นแบบ 3:2 ข้อดีคือเวลาตัดต่อก็จะเห็นแถบ Timeline เยอะกว่า (Ins. แถบตัดต่อ) หรือถ้าเอาไปเขียนบทความก็จะมีบรรทัดที่เยอะกว่าครับ

ส่วนขอบจอก็บางอยู่นะครับ ทำให้จอนั้นกว้างถึง 90% ของตัวเครื่องเลยล่ะครับ และถ้ายังจำกันได้ MateBook รุ่นเก่า ๆ เขาจะใส่กล้องมาให้ตรงคีย์บอร์ด ซึ่งซ่อนกล้องได้ดีนะครับ แต่มุมกล้องมันเสยคาง ทำให้เห็นเหนียง แต่รุ่นนี้เขาก็ปรับปรุงเอากลับมาใส่ที่ขอบจอด้านบนเหมือนปกติครับ

กล้อง Webcam

โดยกล้อง Webcam ที่ให้มาก็มีความละเอียด 720p พร้อมเซ็นเซอร์ IR ในตัว ทำให้ปลดล็อกใบหน้าได้ และในขณะเดียวกันก็ยังปลดล็อกด้วยนิ้วมือผ่านเซ็นเซอร์ตรงปุ่ม Power ได้ด้วยครับ การปลดล็อกก็ทำได้ดีนะ

ไมโครโฟนและเสียง

และสำหรับไมโครโฟนรุ่นนี้ก็ให้มาถึง 4 ตัว โดยตำแหน่งอยู่ทางด้านหน้าของเครื่องครับ ซึ่งทาง HUAWEI เคลมว่าสามารถรับเสียงได้ 360 องศา ไกล 5 เมตร แถมยังมี AI Noise Cancellation ช่วยตัดเสียงรบกวนด้วยครับ ซึ่งคุณภาพก็เป็นอย่างที่คุณผู้ชมกำลังได้ยินอยู่ก็คือเสียงจากไมค์ทั้ง 4 ของ HUAWEI MateBook 14s

พูดถึงเสียงขาเข้าไปแล้ว มาดูเรื่องขาออกกันบ้าง ลำโพงในเครื่องนี้เป็นระบบเสียง HUAWEI Sound ที่มีอยู่ด้วยกัน 4 ลำโพงครับ คุณภาพเสียงเดี๋ยวผมเปิดให้ฟังผ่าน Artlist.io กันเลย

คุณภาพเสียงลำโพงก็ถือว่าดีเลยนะครับ แม้จะเปิดเสียงดังรายละเอียดก็ยังคงชัดอยู่ ไม่อู้อี้ ส่วนเบสอันนี้ก็จับสัมผัสได้เลยครับ

คีย์บอร์ด

ส่วนคีย์บอร์ดที่เห็นว่าเป็นภาษาอังกฤษอย่างเดียว เป็นเพราะเป็นเครื่องสื่อที่ทาง HUAWEI รีบส่งมาให้รีวิวก่อนครับ สำหรับตัวที่วางขายจริงจะเป็นคีย์ไทยนะ สัมผัสการกดก็แน่น พิมพ์มันส์ครับ

ถัดลงมาที่ทัชแพดอันนี้ก็มีขนาดที่ใหญ่กำลังดี ให้สัมผัสที่ลื่นนิ้วดีครับ และที่ด้านข้างกันนี้ ก็จะมีสติกเกอร์ Intel Evo Core i7 แปะมาเพื่อการันตีคุณภาพว่าเป็นที่สุดของโน้ตบุ๊กยุคนี้ครับ

สเปก

ดูภายนอกกันไปหมดแล้ว ก็มาดูสเปกภายในกันบ้างครับ สำหรับ HUAWEI MateBook 14s นั้นมีให้เลือกสองโมเดลครับ คือตัวเริ่มต้น ซีพียู Intel® Core™ i5-11300H รหัส H หรือ High Performance แบบเดียวกับในโน้ตบุ๊กเกมมิงเลยครับ พร้อมการ์ดจอ Intel® Iris® Xe รวมถึงแรม 8GB และหน่วยความจำ 512GB ครับ

แต่สำหรับรุ่นที่เรารีวิวนี้จะเป็นโมเดลตัวท็อปที่มาพร้อมกับซีพียู Intel® Core™ i7-11370H โดยการ์ดจอจะเป็นตัวเดียวกันคือ Intel® Iris® Xe ส่วนแรมจะให้มามากกว่าอยู่ที่ 16GB และหน่วยความจำที่สูงถึง 1TB เลยครับ

ด้านประสิทธิภาพกองบรรณาธิการแบไต๋ ก็ทำการทดสอบประสิทธิภาพซีพียูด้วยโปรแกรม GeekBench 5 ผลคะแนนแบบ Single Core อยู่ที่ 1507 คะแนน และ Multi-Core อยู่ที่ 5915 คะแนน ถ้าเอาไปเทียบกับโน้ตบุ๊กเกมมิงที่ใช้ซีพียู Intel® Core™ i7-11375H ต้องบอกว่าคะแนนไล่เลี่ยกันเลยครับ

โดยการ์ดจอที่เป็น Intel® Iris® Xe ก็มีการทดสอบเหมือนกันโดยใช้ 3DMark Time Spy ก็สามารถทำคะแนนได้ไปถึง 1863 คะแนนซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงเลยนะ สำหรับโน้ตบุ๊กสายทำงาน

สุดท้ายเป็นทดสอบด้วย CrystalDiskmark ซึ่งก็ทำความเร็วในการอ่านข้อมูลอยู่ที่ 3426 MB/s และเขียนข้อมูล 2657 MB/s เลยครับ

ในภาพรวมผมมองว่าสเปกแบบนี้เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป ๆ แล้วครับ จะแท็บเว็บเยอะ ๆ ก็ไม่มีอาการหน่วงให้เห็นเลยครับ

HUAWEI Mobile App Engine

และเราก็จะมาพูดถึงของใหม่ที่เพิ่งมาพร้อมกับ HUAWEI MateBook 14s อย่าง HUAWEI Mobile App Engine ที่ทำให้เราสามารถในการติดตั้งและใช้แอปพลิเคชันจาก HUAWEI AppGallery ได้ทันที แบบไม่ต้องง้อมือถือ หรือโปรแกรม Emulator จำลองระบบ Android เลยครับ

แต่ต้องบอกก่อนว่า ฟีเจอร์นี้ยังเป็นเวอร์ชันเบต้า ยังใช้ไม่สมบูรณ์ 100% ทำให้แอปยังมีค่อนข้างน้อยครับ ซึ่งตอนนี้แอปที่ใช้ได้ก็มี TikTok เท่าที่ลองกดดูก็ใช้งานได้เหมือนกับมือถือเลย ส่วนเกมอย่าง FreeFire ก็เล่นได้เหมือนกันครับ ซึ่งเราสามารถใช้การทัชสกรีนหน้าจอได้เหมือนกับมือถือเลย ตรงนี้ผมมองว่าในอนาคตโน้ตบุ๊กหลาย ๆ รุ่นน่าจะทำแบบนี้ได้ครับ

นอกจากติดตั้งแอปมือถือได้แล้ว HUAWEI MateBook 14s ยังอัปเกรด HUAWEI Share ให้แจ่มขึ้นด้วยครับ การเชื่อมต่อก็ยังง่าย ๆ เหมือนเดิมด้วยการเอามือถือ HUAWEI ไปแตะตรงทัชแพดครับ โดยตรงนี้จะเป็นการ Mirror หรือสะท้อนภาพขึ้นหน้าจอครับ และที่อัปเกรดมาคือเราสามารถแยกได้ถึง 3 หน้าต่าง แบบนี้เลยครับ (เปิดแอปแล้วคลิกไอค่อน + มุมซ้ายบน) อันนี้สะดวกกับคนที่ทำงานแบบ Multi-task

นอกจากนี้เรายังเชื่อมต่อกับแท็บเล็ตได้ด้วยนะครับ จะทำเป็นหน้าจอแยกที่สะท้อนภาพเหมือนกันก็ได้ หรือจะเปลี่ยนให้เป็นหน้าจอที่สองก็ดี หรือจะเชื่อมต่อกันแบบ Collaborate เพื่อเพิ่มความสะดวกในการควบคุมแท็บเล็ตจากโน้ตบุ๊ก หรือการโอนไฟล์ระหว่างกันก็ดูเข้าเท่าไม่น้อยเลย

โดยการส่งไฟล์หากันก็ทำได้ง่ายมาก ๆ แค่ลากไฟล์นั้นข้ามจอไปวางที่อีกฝั่งได้เลยครับ ง่ายไหมครับ! อันนี้ก็ต้องชมการสร้าง Ecosystem ของ HUAWEI เลยครับ

ใครที่มีอุปกรณ์ HUAWEI อยู่แล้วถือว่าได้เปรียบมากในการใช้งาน ยกตัวอย่างผมมี HUAWEI Bluetooth Mouse อยู่ถ้าต้องการใช้ ก็แค่เอามาตั้งไว้ใกล้ ๆ ก็จะมีป็อปอัพโชว์ขึ้นมาให้เชื่อมต่อทันที ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ

แบตเตอรี่

มาพูดถึงเรื่องแบตเตอรี่กันบ้าง สำหรับ HUAWEI MateBook 14s ก็ให้มาเป็นแบบ 60Wh ครับ ซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะหากเทียบกับโน้ตบุ๊กทั่วไปที่จะให้มาราว ๆ 45Wh เท่านั้นครับ นั่นทำให้โน้ตบุ๊กเครื่องนี้สามารถใช้กับงานทั่วไปในโหมด 60Hz ได้ยาว ๆ ถึง 11 ชั่วโมงเลยครับ

นอกจากนี้ยังรองรับ SuperCharge 65W ด้วยนะครับ และที่ดีงามมาก ๆ คือสามารถเอาไปชาร์จมือถือหรือแท็บเล็ตของ HUAWEI ได้แบบเต็มประสิทธิภาพด้วยนะ เห็นไหมขึ้น MAX 50W เลย (เสียบกับมือถือ) พกอันเดียวพอ!

ข้อสังเกต

พูดถึงข้อดีไปเยอะแล้ว ทีนี้มาพูดถึงข้อสังเกตกันบ้างครับ จากที่กองบรรณาธิการแบไต๋ ทดลองใช้งาน HUAWEI MateBook 14s อยู่สามวัน ก็พบว่าการดูหนัง 16:9 แบบเต็มจอ หน้าจอแบบ 3:2 จะมีขอบดำที่ด้านบนและด้านล่างครับ ใหม่ ๆ อาจจะขัดใจสักหน่อย แต่ถ้าใช้ไปสักพักก็น่าจะชินครับ

รีวิวที่ดีต้องมีราคา

สำหรับ HUAWEI MateBook 14s ที่จำหน่ายในไทย มีอยู่สองโมเดลครับ คือตัวท็อปที่เรากำลังรีวิวอยู่ สเปก Intel® Core™ i7-11370H แรม 16GB หน่วยความจำ 1TB ในสี Space Gray ราคาจะอยู่ที่ 55,990 บาท

แต่ถ้าใครอยากได้รุ่นที่ราคาย่อมเยาลงมา ก็มีตัวสเปก Intel® Core™ i5-11300H แรม 8GB และหน่วยความจำ 512GB ในราคา 40,990 บาทครับ โดยในรุ่นพอร์ตจะเป็น USB-C สองพอร์ต และมีให้เลือกสองสีคือ สีเทาและสีเขียวสีใหม่ครับครับ

เอาเป็นว่าใครที่สนใจ และอยากพรีออเดอร์ไว้ ทาง HUAWEI เขาก็จะแถมหูฟังหัวเว่ย Freebuds Pro มูลค่า 5,499 บาท ให้ฟรี ๆ โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องพรีออเดอร์ผ่าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ ได้ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม – 12 พฤศจิกายน 2564

พรีออเดอร์ได้ที่ลิงก์นี้ https://bit.ly/3vHfu0b , https://bit.ly/3madxq4

หรือถ้าใครอยากได้โปรโมชันสินค้าอื่น ๆ เนื่องในโอกาส HUAWEI Experience store ครบรอบ 10 ปี ก็ไปติดตามข่าวสารที่แฟนเพจ HUAWEI Mobile ใน Facebook ได้เลยครับ