วันนี้ต้าร์อยู่กับโน้ตบุ๊กเกมมิงระดับเรือธง ที่เรียกได้ว่าแรงที่สุด ณ ช่วงท้ายปี 2021 แล้วครับ นี่คือ ROG Zephyrus S17 GX703 โน้ตบุ๊กตัวโหดจาก Republic of gamers ที่อัดสเปกมาแบบจุก ๆ! ซีพียูตัวโหด Intel® Core™ i9-11900H, การ์ดจอตัวแรง RTX 3080, หน้าจอ 17 นิ้ว 4K 120Hz, แถมคีย์บอร์ด RGB ตรงนี้ก็ยังเป็นสวิตซ์แบบ Optical Mechanical กดแล้วมีเสียงคลิก ๆ แบบนี้ บอกเลยว่าสุดจัด แต่จะน่าจัดแค่ไหน เดี๋ยวต้าร์ #beartai ให้ดูครับ

ก่อนอื่นเลย ต้าร์อยากให้ทุกคนดูกล่องที่เขาใส่เครื่องมาก่อนครับ นี่เลย อย่างเจ๋ง! เวลาเปิดกล่องก็ไม่เหมือนกับใครเขา แถมอีกส่วนยังเอามาใช้เป็นแท่นรองเครืองได้ด้วยนะ

แต่ที่เด็ดกว่านั้น คือ ROG Zephyrus S17 GX703 ให้อะแดปเตอร์มา 2 แบบครับ แบบแรกคือ DC-in 280W ที่ค่อนข้างหนัก ๆ หน่อย อันนี้เอาไว้เสียบเวลาจะเร่งเครื่อง เร่งประสิทธิภาพให้ทำงานสูงสุดครับ

ส่วนอีกอันเป็น อะแดปเตอร์ Type C 100W แบบพกพา น้ำหนักจะเบามากครับ ซึ่งก็ใช้จ่ายไฟให้เครื่องได้ แต่เครื่องจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพในส่วนของการ์ดจอ เหมาะสำหรับการใช้งานเบาๆ ทั่วไป ถือว่ายังเป็นรองอะแดปเตอร์ DC-in ครับ แต่ในทางกลับกัน ก็มีข้อดีอยู่นะเอาไว้ชาร์จอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ด้วยนะ

ดีไซน์

มาคุยกันถึงเรื่องดีไซน์กันบ้างครับ ก็ต้องบอกว่าซีรีส์ Zephyrus ที่ผมได้จับ ๆ มาจะมีเอกลักษณ์ที่เหมือนกันอย่างหนึ่งเลย คือมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา โดยรุ่นนี้มีน้ำหนักอยู่ที่ 2.80 กก. พอรวมอะแดปเตอร์ไปแล้วก็จะอยู่ที่ 3.8 กก.

หลายคนอาจจะคิดว่ารุ่นนี้มันหนัก แต่ต้าร์คิดว่ามันก็หนักจริง ๆ ประเด็นเรื่องน้ำหนัก ต้าร์มองแบบนี้ ถ้าเอาน้ำหนักมาเทียบกับสเปกที่แรงสุดในปีนี้ มันก็ดูสมน้ำสมเนื้อนะ และปกติ 17.3 นิ้ว ส่วนใหญ่ที่หนัก 2.9 – 3.1 กก. ก็เรียกได้ว่ามีน้ำหนักน้อยกว่าเล็กน้อย แต่เอาจริง ๆ คนที่จะซื้อโน้ตบุ๊กระดับนี้คงนั่งทำอยู่กับที่ซะเป็นส่วนใหญ่ และพกออกไปใช้บ้างในบางโอกาสครับ คุณผู้ชมคิดว่ายังไง ลองคอมเมนต์มาคุยกันได้นะครับ

สำหรับบอดีของ ROG Zephyrus S17 GX703 ก็ทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยครับ โดยจะมีโลโก้ ROG อยู่ตรงนี้ครับ เป็นแบบกระจกเงา ไม่ใช่ไฟ RGB วิบวับ ๆ (เหมือนกับรุ่น ROG Sticx Scar 17 ที่ต้าร์เคยรีวิวไปเมื่อต้นปีครับ ส่วนอีกด้านก็เป็นดีไซน์แบบ Dot matrix เอกลักษณ์ประจำค่าย สัมผัสของฝาหลังก็จะสากนิ้วนิด ๆ แต่ที่สังเกตเห็นได้ชัด คือติดรอยนิ้วมือค่อนข้างง่าย แต่ก็สามารถเช็ดออกได้ครับ

ขนาดเครื่องถ้าเทียบกับขนาด A4 แล้วก็อยู่ที่ประมาณนี้เลยครับ ส่วนความหนาตัวเครื่องอย่างเดียว ไม่รวมฐานก็อยู่ที่ 1.99 ซม. ต้าร์มองว่าไม่ได้หนาสักเท่าไรครับ

แวะมาดูพอร์ตรอบเครื่องกันต่อเลย ROG Zephyrus S17 GX703 พกพอร์ตมาพรึบเลยนะ! ที่ฝั่งซ้ายจะมี USB-A 3.2 Gen 2 สองช่อง และที่เซอร์ไพส์คือมีช่องอ่าน SD-Card ที่รองรับ UHS-II ความเร็ว 312MB/s ด้วยนะ ซ่อนอยู่ใต้ขอบเครื่องตรงนี้เลย อันนี้สายโปรดักชันน่าจะชอบกัน

ถัดมาอีกฝั่งก็จะเป็นช่องเสียบอะแดปเตอร์ DC-in และข้าง ๆ นี้ก็จะเป็น HDMI 2.0b ครับ ถัดมาเป็นช่องเสียบ LAN RJ45 และ USB-A 3.2 gen 2 อีกหนึ่งพอร์ต, ถัดมาเป็น Thunderbolt™4 และ USB-C 3.2 Gen 2 ที่รองรับการต่อจอแยก DisplayPort™ 1.4 การชาร์จแบบ PD 3.0 เหมือนกัน, สุดท้ายเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ครับ

หน้าจอ

ทีนี้มาพูดถึงเรื่องหน้าจอกันบ้าง ปกติแล้วเราจะเห็นเกมมิงโน้ตบุ๊กมากับจอ FullHD ไม่ก็ 2K แต่ ROG Zephyrus S17 GX703 เหนือกว่า เพราะเป็นจอ 17.3 นิ้ว 4K 120Hz ครับ เรื่องภาพนี่คมกริบ ส่วนเรื่องสีก็หายห่วง เพราะมีขอบเขตการแสดงสีแบบ 100% DCI-P3 ค่าเดียวกับที่ใช้สร้างหนังจอเงิน และยังได้รับรองการปรับเทียบสีจากทาง Pantone อีกด้วย ทำให้เราเอาไปใช้ตัดต่องาน หรือแต่งภาพระดับมืออาชีพได้เลย นอกจากนี้ยังมี Dolby VISION สำหรับการดูหนังด้วยนะ เพลินเลยล่ะครับ

ส่วนอัตรารีเฟรชเรต 120Hz กับการตอบสนองระดับ 3ms (มิลลิเซค) ก็ถือว่าลื่นไหลและตอบสนองได้ดีนะครับเวลาเล่นเกม แต่ก็ต้องยอมรับว่าสู้พวกจอ 360Hz ไม่ได้ ซึ่งใครเป็นสาย FPS ที่เสพติดค่า Hz สูง ๆ อาจต้องมองเรื่องนี้ดี ๆ ครับ ส่วนใครที่จะเอาไปต่อหน้าจอแยกอันนี้เขาก็มี Adaptive-Sync ที่ปรับรีเฟรชเรตให้ตรงกับสเปกจอ ช่วยลดอาการภาพฉีกขาดเวลาหันเมาส์เร็ว ๆ ได้ครับ

ถ้าให้ต้าร์สรุปเรื่องจอของ ROG Zephyrus S17 GX703 ก็ต้องบอกว่าเล่นเกมก็เหมาะ หรือจะเอาไว้ทำงานจริงจังก็สบาย ๆ ครับ

กล้องเว็บแคม ไมโครโฟน และลำโพง

พูดถึงเรื่องกล้องเว็บแคม ไมโครโฟน และลำโพงกันต่อเลย เรื่องกล้องรุ่นนี้เขาก็ให้มาเป็นแบบ 720p ที่มีเทคโนโลยี 3DNR (3D Noise Reduction) ช่วยนอยส์หรือจุดขาว ๆ บนภาพเวลาอยู่ที่แสงน้อยครับ คุณภาพก็เป็นอย่างที่ทุกคนกำลังเห็นอยู่เลย ส่วนไมโครโฟนก็อยู่ใกล้ ๆ กับกล้องเป็นแบบ 3D เหมือนกันครับ เลือกรับเสียงได้หลายทิศทาง รวมถึงมีระบบ Two-Way AI Noise Cancelation ที่ตัดเสียงรบกวนทั้งขาเข้า และขาออกครับ ทั้งหมดนี้สามารถเข้าไปปรับได้ที่ Armory Crate เลยครับ

ด้านเสียง ก็ต้องบอกว่า ROG Zephyrus S17 GX703 มากับระบบลำโพงที่ดีที่สุดของโน้ตบุ๊กเกมมิงครับ เพราะมีลำโพงอยู่ด้วยกันถึง 6 ตัว พร้อมกับระบบเสียง Dolby Atmos ครับ เสียงเบสตึบดีนะครับ ฟังมีน้ำมีเนื้อ มิติเสียงถือว่าโอเคเลย แยกซ้ายขวาได้ดี

ถ้าใครตามซีรีส์ Zephyrus ก็คงคุ้นตาว่ามันมี 2 จอใช่ไหมครับ แต่ในรุ่นนี้ไม่มีครับ เพราะเป็นตัวรหัส S17 ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีกลไกยกแผงคีย์บอร์ดขึ้น 5 องศา เพื่อให้มีช่องรับอากาศเย็นเยอะขึ้น ทำให้ความร้อนสะสมลดลง โดยจะมีลมเย็นเข้าจากทั้งช่องนี้ และใต้เครื่อง แล้วระบายออก 4 ช่องทั้งด้านข้างและด้านหลังครับ เรียกว่าเป็นการออกแบบเพื่อให้ตัวเครื่องไม่หนาจนเกินไปแต่ยังระบายความร้อนได้ดีเหมือนโน้ตบุ๊กตัวใหญ่ ๆ นั่นเองครับ

ระบบระบายความร้อน

พูดถึงระบบระบายความร้อน ROG Zephyrus S17 GX703 ในรุ่นนี้ก็ยังคงใช้โลหะเหลวของ Thermal Grizzly ที่ช่วยลดอุณหภูมิของ CPU ดีกว่าซิลิโคนทั่ว ๆ ไปครับถึง 10 องศาเซลเซียส ซึ่งจากที่ผมลองใช้ดู ถ้าไม่ได้ทำงานหนักมาก ๆ ก็แทบไม่ได้ยินเสียงพัดลมเลยครับ แต่ถ้าหนักเมื่อไรเสียงก็เริ่มมา ดังพอสมควรเลยครับ แต่ถ้าไม่อยากให้เสียงดังมาก ก็กด Fn + F5 ปรับโปรไฟล์พัดลมได้ 3 โหมด

คีย์บอร์ด

ทีนี้มาพูดถึงคีย์บอร์ดกันบ้าง สายเกมเมอร์อย่างเรา ๆ เวลามาจับโน้ตบุ๊กเกมมิงธรรมดา ๆ น่าจะรู้สึกคิดถึงเสียงแกร๊ก ๆ ของคีย์บอร์ด Mechanical ใช่ไหมครับ

รุ่นนี้ให้ความรู้สึกแบบนั้นเลยครับ เพราะนี่คือ Optical Mechanical Keyboard แบบ Full Size ที่มีขนาดเท่า ๆ กับคีย์บอร์ดปกติ บอกเลยว่าให้ความรู้สึกใกล้เคียงกันมาก ทั้งฟิลลิ่งการกด เสียงกด และความมันส์ครับ ด้านเรื่องไฟ RGB วิบวับ ๆ อันนี้ก็ปรับแต่งได้แบบรายปุ่มได้เลย เพราะเป็นแบบ RGB per Key ครับ หรือจะเลือกเป็น Preset ก็ได้ครับ

มีอีกจุดที่ผมอยากให้ดูครับ นี่คือ Multiwheel แบบเดียวกับที่มีอยู่ในคีย์บอร์ด Mechanical แพง ๆ หลายตัวครับ ซึ่งเลือกปรับได้ตามใจเลยครับ จะเอาไว้ปรับเสียงลำโพง หรือเสียงไมค์ก็ได้ครับ ส่วนอีกจุดที่ตอนแรกผมก็ไม่รู้คือ ใต้ปุ่ม Power เขามีเซนเซอร์สแกนนิ้วด้วย สามารถแตะนิ้วปลดล็อกเครื่องได้ครับ เร็วด้วยนะ!

ดูต่อกันที่ทัชแพด วัดขนาดแล้วได้อยู่ที่ 6 นิ้ว ถือว่าใหญ่กว่าโน้ตบุ๊กทั่วไปเยอะเลย สัมผัสที่ได้ก็นุ่มนิ้วไม่สากครับ ส่วนที่รองมือก็เป็นแบบ Soft Touch ที่ให้ความสัมผัสที่นุ่ม ๆ แต่ติดรอยนิ้วมือง่ายครับ ต้องหมั่นเช็ดบ่อย ๆ

ส่วนทางด้านขวามืออันนี้เป็นสติกเกอร์ Intel Core i9 Gen 11 และการ์ดจอ RTX ครับ รวมถึงมี QR Code บอกรายละเอียดประกัน ใครสงสัยสแกนเข้าไปอ่านได้ครับ

สเปก

เอาล่ะครับ มาพูดถึงส่วนที่เกมเมอร์น่าจะอยากรู้ที่สุดนั่นก็คือ สเปกของ ROG Zephyrus S17 GX703 ครับ อย่างที่ผมบอกไปว่ารุ่นนี้มีซีพียูตัวโหด อย่าง Intel® Core™ i9-11900H ที่มาพร้อมกับ 8 Core 16 Thread และความเร็ว 2.5 Ghz ถึง (จิกะเฮิรตซ์) ที่บูสต์ได้ถึง 4.9 GHz จึงทำให้ผลทดสอบจาก Geekbench 5 แบบ Single Core มีคะแนนสูงถึง 1379 คะแนน ส่วน Multi-Core ก็อยู่ที่ 7874 คะแนนครับ ซึ่งถือว่าเป็นแชมป์ในฝั่ง Intel เลยครับ ถ้าจะแรงกว่านี้ก็ต้องรอ Intel Gen 12 ในปีหน้าละครับ

ส่วนการ์ดจอก็จับคู่มากับ RTX 3080 รุ่น 140W ซึ่งก็แรงพอที่จะทำคะแนนจาก 3DMark Timespy ไปได้ 10,765 คะแนน และส่วนแบบ Extreme ที่รันแบบ 4K ก็ทำไปได้ 5622 คะแนน ถือว่าทำลายสถิติของ #beartai เลยนะเนี่ย

ด้านหน่วยความจำก็ให้มา 32GB เป็น DDR4 Bus 3200 ซึ่งเพียงพอกับการเล่นเกมทุกเกมในยุคนี้แล้วครับ ส่วนหน่วยเก็บข้อมูลก็เป็น SSD NVMe PCIe 4.0 แบบ 3 ช่องครับ ซึ่งสามารถทำ RAID0 ได้ทำให้มีความเร็วสูงขึ้นมากครับ จากการทดสอบด้วย CrystalDiskMark ก็ทำให้ผมตาค้าง เพราะความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 10415 MB/s และการเขียนอยู่ที่ 9501 MB/s

ถามว่าตัวเลขนี้เร็วแค่ไหน ก็เร็วพอที่จะกอปปี้ไฟล์ขนาด 28 GB ไปวางอีกที่ในไดรฟ์เดียวกันในเวลาประมาณ 15 วินาทีครับ อันนี้ก็ดีสำหรับสายตัดต่อ ที่ต้องโยกฟุตในเครื่องบ่อย ๆ ครับ!

แบตเตอรี่

สำหรับแบตเตอรี่เครื่องนี้ก็ให้มาเป็นแบบ 90Wh ซึ่งถามว่าพอไหมกับสเปกระดับนี้ก็ต้องบอกว่าไม่พอครับ ถอดปลั๊กออกแบตลดฮวบ ๆ อันนี้ไม่แปลกครับ เอาเป็นว่าเสียบอะแดปเตอร์ไว้จะดีที่สุดครับ โดยการชาร์จรุ่นนี้ก็จะระบบชาร์จเร็วด้วยนะ 0% ไป 50% ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีครับ

ส่วน Windows 10 ที่ติดมากับเครื่องก็สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้ครับผมเช็กมาแล้ว

ทดลองเล่นเกม

พูดสเปกกับคะแนนไปหมดแล้ว เดี๋ยวเรามาลองเล่นเกมกันจริง ๆ เลยว่า ROG Zephyrus S17 GX703 จะทำ FPS ได้อยู่ที่เท่าไร เริ่มจากเกมที่มีข่าวหนาหูมาตลอดปีอย่าง Cyber พัง เอ้ย CyberPunk 2077 ที่เขาออกแพทแก้บัคมาเยอะแล้ว สำหรับ Settings ต้าร์จะปรับเป็นสูงสุดทุกอย่างเท่าที่จะปรับได้ บวกกับเปิด Raytracing บนความละเอียด 4K ค่า FPS ที่ทำได้จะอยู่ที่ 70 ต้าร์ถือว่าผ่านนะ

ส่วนอีกเกมที่จะทดสอบคือ Cities Skyline เห็นเกมดูมุ้งมิ้งแบบนี้ แต่ใช้ CPU โหดใช่ย่อยเลยนะครับ เดี๋ยวผมจะเปิดให้ดูว่าใช้ CPU ไป 30% ถือว่ายังเหลือ ๆ นะครับ ส่วน FPS ที่ทำได้ก็อยู่ที่ 30-40 ครับเล่นได้สบาย ๆ เลยครับ สำหรับการเล่นเกมต้าร์ขอทดสอบประมาณนี้ครับ ช่วงถัดไปต้าจะลองเอาไปตัดต่อดู

Export Video

วิดีโอความละเอียด 4K ที่ตัดต่อผ่าน Premiere Pro ลองดูสิครับว่า Playback แบบเต็มความละเอียดได้แบบไม่หน่วงเลย เวลาใส่เอฟเฟกต์ก็ค่อนข้างเร็ว ส่วนการ Export Video ก็ใช้เวลาอยู่ที่ 6.30 ถือว่าใกล้เคียงกับ Realtime เลยครับ

โดยสรุปนะครับเรื่องการเล่นเกมต้าร์ให้ 3 ผ่าน ส่วนการตัดต่อก็ให้ 3 ผ่านเช่นกันครับ นอกจาก 3 ผ่านแล้ว เรื่องการรับประกันเครื่องนี้ก็ยังรับประกันแบบ onsite service 3 ปีพร้อมประกันอุบัติเหตุ Perfect Warranty ในหนึ่งปีแรกอีกด้วยครับ

ข้อสังเกต

ก่อนจะไปพูดถึงราคา ต้าร์ขอให้ข้อสังเกตของ ROG Zephyrus S17 GX703 ไว้หนึ่งเรื่อง คือเวลาเราปิดฝา ต้องเช็กให้ดีก่อนว่าไม่มีอะไรมาขัดตรงช่องว่าง ถ้ามีอาจทำให้กลไกยกคีย์บอร์ดเสียหายได้ พวกสายชาร์จ Type-c ต้องระวังเลยครับ

ราคา

และเราก็จะมาพูดถึงเรื่องราคาที่หลายคนน่าจะอยากรู้ว่าสเปกแรงขนาดนี้ ราคาจะขนาดไหน ต้าร์ประกาศเลยละกัน ROG Zephyrus S17 GX703 มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 129,990 บาทครับ ต้าร์ว่าสเปกระดับเรือธงจริง ๆ ของหลาย ๆ ค่ายก็ราคาก็ราว ๆ นี้แหล่ะครับ ส่วนคุณผู้ชมล่ะ คิดว่าคุ้มไหม ลองคอมเมนต์มาคุยกันดูนะครับ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส