วันนี้ผมอยู่กับ GRAM โน้ตบุ๊กจอใหญ่ยักษ์ จาก LG ที่มีน้ำหนักเบากว่าใคร แถมถึกทน เผลอทำตกได้ ไม่เป็นไร จะน่าสนใจแค่ไหน เดี๋ยววันนี้ผม #beartai ให้ดูครับ

ดีไซน์

ในที่สุดผมก็ได้รีวิวโน้ตบุ๊ก LG gram สักที! หลังจากที่เห็นในงาน CES มาหลายปี ก็ต้องบอกว่า LG gram ในต่างประเทศคนให้ความสนใจค่อนข้างเยอะ เพราะมีดีไซน์ที่ดูดี บวกกับมีน้ำหนักที่เบากว่าในขนาดไซซ์จอเดียวกันครับ อย่างที่เขาส่งมาให้ผมสัมผัสก็มีตัว 16 นิ้วและ 17 นิ้วครับ โดยตัว 16 นิ้วถือเป็นโน้ตบุ๊กที่เบาที่สุดในโลก แถมมีการบันทึกโดย Guinness world record ด้วยนะครับ แต่วันนี่ที่เราจะมารีวิวกันคือตัว 17 นิ้ว

ปกติแล้วโน้ตบุ๊กไซซ์จอ 17 นิ้วส่วนใหญ่จะเป็นเกมมิงโน้ตบุ๊ก จะมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ราว ๆ 2.5 กก. แต่ถ้าเป็นโน้ตบุ๊กธรรมดาน้ำหนักจะอยู่ราว ๆ 1.7 กก. ครับ ว่ากันตามตรงโน้ตบุ๊กไซซ์นี้หาซื้อได้ยาก เนื่องจากน้ำหนักเยอะ คนเลยไม่นิยมใช้ครับ

แต่ถ้าเป็น LG gram 17 จะเบากว่า เบาแค่ 1.33 กก. เท่านั้นเองครับ ซึ่งพอรวมอะแดปเตอร์ไปแล้ว น้ำหนักจะอยู่ที่ 1.7 กก.

ความลับที่ทำให้ LG gram เบาได้ขนาดนี้ ก็เพราะวัสดุตัวเครื่องทั้งหมดเป็นโลหะแมกนีเซียมอัลลอย ไม่ใช่พลาสติกอย่างที่ทุกคนเข้าใจนะครับ ซึ่งแมกนีเซียมอัลลอยจะเบากว่าอะลูมิเนียมราว ๆ 33% อีกทั้งยังมีความคงทนมากกว่าในระดับหนึ่งเลยครับ

เรื่องความคงทนเนี่ย LG gram เขาก็ชูเป็นจุดเด่นด้วยเหมือนกัน ว่าผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810G ที่ใช้ทางการทหาร ซึ่งตอนรับเครื่องมาทาง LG บอกว่าทดสอบได้ตามสบายเลย

แหม่! เข้าทางสิครับ เดี๋ยวจัดแบบโหด ๆ ให้ครับ เอาเป็นความสูงระดับโต๊ะ 70 ซม. นี้เลย ผลักโน้ตบุ๊กลงพื้น 5 รอบแล้วยังรอดอยู่ แค่นี้ก็น่าจะพอบอกได้แล้วว่าทนขนาดไหน

ส่วนขนาดความกว้างของตัวเครื่องเมื่อเทียบกับกระดาษ A4 แล้วก็ตามที่เห็นเลยครับ ในขณะที่ความหนาของตัวเครื่องก็อยู่ที่ 1.77 ซม. ซึ่งก็ไม่ได้หนาสักเท่าไรครับ

หน้าจอ

มาดูเรื่องสเปกหน้าจอกันบ้างครับ LG gram ที่ผมได้มารีวิวตัวนี้เป็นรุ่น gram 17 ซึ่งมีหน้าจอขนาด 17 นิ้วครับ ถือว่ากว้างเต็มตา ในขณะที่สัดส่วนก็เป็นแบบ 16:10 มีพื้นที่ใช้งานแนวตั้งกว้างเยอะกว่าจอทั่วไปครับ ข้อดีคือเวลาอ่านบทความ หรือเขียนงานก็จะเห็นพารากราฟมากกว่า แต่ถ้าเอาไปตัดต่อก็จะเห็นแถบ Timeline เยอะกว่าครับ

สำหรับพาแนลของหน้าจอจะเป็นแบบ IPS ข้อดีคือมองมุมไหนสีก็ไม่ดรอปครับ ส่วนขอบเขตการแสดงสีก็กว้างถึง 99% DCI-P3 ทำให้แสดงสีได้อย่างเที่ยงตรง ซึ่งจะเหมาะกับคนที่ทำงานสายตัดต่อ และแต่งภาพครับ หรือถ้าเป็นสายดูหนังก็จะได้สีสันที่สดใสสมจริงครับ

ด้านความละเอียดของจอก็เป็นแบบ WQXGA (2560×1600) ซึ่งมีจะมีความละเอียดมากกว่าจอ 2K อยู่ในระดับหนึ่งครับ แต่ไม่ถึงกับเท่า 4K ครับ แต่ด้วยความคมระดับนี้ก็ทำให้เรามองเห็นตัวอักษรได้ชัดกว่า FullHD แล้วครับ

ส่วนขอบจอก็ถือว่ามีความบางในระดับหนึ่งเลย จากขอบถึงจอจะอยู่ที่ 6 มม. และขอบบนจะอยู่ที่ 8.7 มม. ครับ

แม้ขอบจอจะบางแต่ก็ยังคงใส่กล้อง Webcam ความละเอียด 720p มาให้พร้อมกับไมโครโฟนรับเสียงสองตัวใกล้ ๆ กัน คุณภาพของภาพและเสียงก็เป็นอย่างที่ทุกคนได้ยินเลยครับ ผมว่าก็เพียงพอกับการใช้ประชุมออนไลน์นะ

คุยต่อกันต่อที่เรื่องคุณภาพของลำโพงกันบ้างครับ LG gram 17 รุ่นนี้มาพร้อมกับลำโพงที่ปรับจูนด้วย DTS:X Ultra พร้อมระบบเสียง 3D Audio ที่ไม่ว่าจะหันเครื่องไปทางไหน ก็ได้ยินเสียงในระดับที่ใกล้เคียงกันครับ (หันเครื่องลำโพง) จุดนี้ดีกับการใช้ในการประชุมที่ต้องมีคนฟังรอบ ๆ ครับ แต่ถ้าเราเอาไปฟังเพลงอันนี้ก็ต้องยอมรับว่า เสียงเบสไม่ได้ตึบตับมากมายนัก ที่จะเด่นคือเสียงกลางและแหลมครับ

ดูต่อกันที่พอร์ตครับ สำหรับโน้ตบุ๊กเครื่องนี้ก็ให้พอร์ตมาค่อนข้างครบนะ มีช่องอ่าน Micro-SD, USB-A 3.2 Gen 2 (สองช่อง), ช่องใส่อุปกรณ์ล็อกป้องกันการขโมยครับ

ด้านอีกฝั่งก็จะมีพอร์ต HDMI ไว้ต่อหน้าจอแยก และสองช่องนี้คือ Thunderbolt 4 ที่รองรับการส่งข้อมูลระดับ 40 Gbps รองรับการชาร์จแบตและแชร์แบต รวมถึงสามารถการต่อหน้าจอแยก 4k 60Hz ได้สองหน้าจอครับ สุดท้ายเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ครับ โดยรวมก็ให้มาครบนะครับ ขาดก็แต่พอร์ตแลน แต่เอาจริงๆ เดี๋ยวนี้เขาใช้ WiFi กันหมดแล้ว ซึ่งรุ่นนี้ก็ให้มาเป็น WiFi 6 เลย

สำหรับคีย์บอร์ดที่เห็นอยู่นี้ ก็ต้องบอกว่ามีขนาดไม่ต่างคีย์บอร์ดบนคอมตั้งโต๊ะเลยครับ ระยะห่างของแต่ละปุ่มใกล้เคียงกัน ทำให้เวลาพิมพ์ค่อนข้างแม่นยำครับ ส่วนสัมผัสการกดก็ถือว่านุ่มนวล และไม่ค่อยมีเสียงรบกวน นอกจากนี้ยังมีแสงใต้ปุ่มเวลาใช้งานกลางคืนด้วยนะครับ

และถ้าสังเกตที่มุมนี้ ก็จะเจอปุ่ม Power ที่ฝังเซนเซอร์สแกนนิ้วไว้ด้านใต้ครับ แค่เราเอานิ้วไปแตะเครื่องก็จะปลดล็อกให้เร็วแบบนี้เลยครับ

พูดถึงเรื่อง Touchpad ก็ต้องชมว่าเขาให้มาใหญ่มาก ขนาดอยู่ที่ 6 นิ้วซึ่งก็มีสัดส่วนแบบ 16:10 เท่ากับหน้าจอครับ เพื่อความสะดวกในการควบคุม เอาจริง ๆ ผมว่าแทบจะไม่ต้องใช้เมาส์เลยนะครับ ด้านสัมผัสก็ให้ความรู้สึกลื่นนิ้วมาก ๆ เวลากดคลิกก็แน่นนิ้วดีครับ

สเปก

มาพูดถึงเรื่องสเปกกันบ้างครับ สำหรับ LG gram 17 ที่เราได้มารีวิวเป็นตัวสเปกรองท็อปที่ใช้ซีพียู Intel Core i7-1195G7 รุ่นประหยัดพลังงาน ที่มาพร้อมกับชิปกราฟิก Intel Iris Xe ในตัวครับ ส่วนแรมที่ให้มาก็อยู่ที่ 16GB ในขณะที่หน่วยความจำตัวเครื่อง ก็ให้มาเป็นแบบ SSD NVMe M.2 ขนาด 512GB ซึ่งสามารถอัปเกรดเพิ่มได้อีกหนึ่งช่องครับ

ด้านประสิทธิภาพกองบรรณาธิการแบไต๋ก็ได้ทดสอบซีพียูด้วย Geekbench 5 ผลคะแนนแบบ Single Core ออกมาอยู่ที่ 1468 คะแนน ส่วน Multi-Core อยู่ที่ 4818 คะแนนครับ จัดว่าค่อนข้างสูงสำหรับโน้ตบุ๊กสายพกพา

ส่วนด้านกราฟิกเราก็ทดสอบด้วย 3DMark Time Spy ผลคะแนนที่ออกมาอยู่ที่ 1644 คะแนนครับ ถือว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป เช่น พิมพ์งาน ประชุม เล่นเว็บ ดูหนัง ไปจนถึงการแต่งภาพ และตัดต่อนิดหน่อยที่ความละเอียด 1080p ครับ

สุดท้ายเป็นการทดสอบความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลของ SSD ที่ทดสอบด้วย CrytalDiskMark ผลความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 3455 MB/s และ การเขียนอยู่ที่ 2987 MB/s ซึ่งถือว่าเร็วตามมาตรฐานโน้ตบุ๊กยุคนี้ครับ

อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องพูดถึงเวลารีวิวโน้ตบุ๊กก็คือแบตเตอรี่ครับ LG gram 17 ตัวนี้มีแบตอยู่ที่ 80Wh ตามสเปกถือว่าเยอะ แต่ยังไงก็ต้องใช้จริงก่อนถึงจะรู้ครับ จากการถือใช้งานของกองบรรณาธิการแบไต๋ราว ๆ 4 วันก็พบว่าแบต 100% จะสามารถใช้ได้ประมาณ 10 ชั่วโมง (เปิดกราฟให้ดูว่าลดลงชมละ 10%) ก็ถือว่าเพียงพอกับชั่วโมงทำงานในแต่ละวันครับ

นอกจากนี้ LG gram ในทุกรุ่นก็ยังมีฟีเจอร์ Virtoo ที่เอาไว้เชื่อมต่อกับมือถือสมาร์ตโฟน เพื่อรับการแจ้งเตือน อ่านข้อความ โทรศัพท์ เปิดดูไฟล์ต่าง ๆ ในเครื่อง รวมถึงแชร์ภาพหน้าจอขึ้นคอมด้วยครับ ถือว่าเป็นแอปที่ค่อนข้างสะดวกเลย ทำให้เราไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาดูบ่อย ๆ

ข้อสังเกต

ฟังข้อดีกันไปเยอะแล้ว ทีนี้มาพูดถึงข้อสังเกตกันบ้างครับ จากการถือใช้งานโดยกองบรรณาธิการแบไต๋ราว ๆ 4 วัน ก็พบว่าหน้าจอกระจกแบบนี้ ให้ความคมชัดดี ให้แสงสีที่สวย แต่การใช้งานกลางแจ้ง หรือในออฟฟิศ จะเจอปัญหาเงาสะท้อน ซึ่งรบกวนการมองเห็นครับ ถ้าจะให้ดีควรมีตัวเลือกจอด้านมาให้เลือกด้วยครับ ส่วนอีกเรื่องคือความร้อนสะสมบริเวณปุ่ม F5-12 ถ้าเอามือไปจับก็จะรู้สึกได้เลย แต่ก็ไม่ได้กระทบกับการใช้งานนะครับ

รีวิวที่ดีต้องมีราคา

  • สำหรับ LG gram ซีรีย์ ตัว 15 นิ้ว จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 53,900 บาท โดยจะได้สเปกเป็น Core i5 แรม 16GB ความจุ 512GB
  • ส่วน LG gram 17 สเปกรองท็อป Core i7 แรม 16GB ความจุ 512GB มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 77,900 บาท โอ้โห 78,000 มีทอน
  • แต่ถ้าใครอยากได้ตัวท็อปสุดก็มีตัว Core i7 แรม 32GB ความจุ 1TB ในราคา 85,900 บาท

สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.lg.com/th/laptops

สั่งซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายด้านล่าง