จะซื้อโน้ตบุ๊กใหม่ในปี 2022 ต้องดูอะไรบ้าง แล้วเลือกแบบไหนถึงจะเหมาะ เดี๋ยววันนี้แพนมา #beartai ให้ฟังแบบละเอียด ต้องบอกคุณผู้ชมก่อนว่า คลิปนี้ไม่มีสปอนเซอร์ ที่แพนมาแนะนำเพราะมีคนรอบตัวมาถามเยอะมาก ก็เลยตัดสินใจทำเป็นคลิปนี้ครับ

อย่างแรกเลย ถ้าจะซื้อโน้ตบุ๊กสักเครื่อง ต้องรู้ว่าเราจะเอาโน้ตบุ๊กมาใช้ทำอะไร?

คนที่เคยจับโน้ตบุ๊กอยู่น่าจะรู้ดี แต่ถ้าใครเป็นมือใหม่มาก ๆ อยากถอยโน้ตบุ๊กเครื่องแรกมาใช้ ถ้าให้จินตนาการคงยาก แพนก็เลยจะแบ่งเป็น 3 รูปแบบการใช้ และอิงหัวข้อจากเว็บขายโน้ตบุ๊กส่วนใหญ่ เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกซื้อครับ

  1. แบบแรกคือการ ใช้งานทั่วไป ทั่วไปที่ว่าคือ เอามาไว้พิมพ์เอกสาร Word, Excel, PowerPoint ใช้เรียนหรือประชุมออนไลน์ผ่าน Zoom หรือ Microsoft Team รวมไปถึงความบันเทิง อย่างการดูหนัง Netflix ฟังเพลง YouTube และการเล่นเฟสบุ๊กด้วย การใช้งานกลุ่มนี้จึงไม่ได้ต้องการสเปกที่สูงมากนัก ซึ่งถ้าเข้าไปหาในเว็บก็จะอยู่ในหัวข้อ Notebook ครับ
  2. ต่อมาคือการ ใช้งานรอบด้าน อันนี้การใช้งานและสเปกจะมีพื้นฐานคล้าย ๆ การใช้งานทั่วไป แต่จะใช้งานรอบด้านกว่า ตรงที่สามารถสัมผัสหน้าจอ และวาดเขียนด้วยปากกา แถมยังพับจอได้ 4 รูปแบบ จะใช้แบบโน้ตบุ๊ก หรือพับให้เหลือแต่จอเหมือนแท็บเล็ตก็ได้ ส่วนใหญ่จะหาได้จากหัวข้อ Notebook 2-in-1
  3. สุดท้ายเป็นการ ใช้งานหนัก ๆ อันนี้จะเป็นการใช้งานเฉพาะทาง เช่น การเล่นเกม ไลฟ์สตรีม ตัดต่อ หรือทำกราฟิก หรืองาน 3D ที่ต้องใช้ประสิทธิภาพแรง ๆ เพื่อให้การใช้งานลื่นไหลครับ ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในหัวข้อ Notebook Gaming

นอกจากนี้จะมีหัวข้อ Ultrathin ที่หมายถึงบางเบาสุด ๆ เพิ่มขึ้นมาสำหรับคนที่ต้องพกไปไหนมาไหนบ่อย ๆ ด้วยนะครับ

ดูเรื่องสเปก

พอรู้แล้วว่า เราอยากได้โน้ตบุ๊กไปใช้ทำอะไร ทีนี้ก็ต้องมาดูเรื่องสเปกภายในกันต่อ จุดแรกที่เราต้องพิจารณาเวลาจะซื้อโน้ตบุ๊กก็คือ ซีพียู ครับ

ปกติแล้ว ซีพียู จะมีให้เลือกอยู่สองแบรนด์ครับ คือ AMD และ Intel ซึ่งทั้งสองค่ายแพนว่าประสิทธิภาพไม่ต่างกันเท่าไรครับ แนะนำว่าถ้าใครจะใช้โน้ตบุ๊กทำงานทำเอกสาร ไม่ได้เอาไปตัดต่อหรือเล่นเกม ก็เลือกเป็นสเปก Core i3 หรือ Ryzen 3 ก็น่าจะเพียงพอ แต่ถ้าเมื่อไรที่ต้องใช้งานหนักขึ้นมาอีกนิด เล่นเกมบ้าง ตัดต่อบ้าง แต่งรูปบ้างก็เลือกเป็น Core i5 หรือ Ryzen 5 ได้เลยครับ

แต่ถ้ามีการเล่นเกมหนัก ๆ หรือต้องเอาไปตัดต่อก็มุ่งไปที่ Core i7 หรือ Ryzen 7 ไปเลย หรือถ้าต้องการประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่โน้ตบุ๊กเครื่องหนึ่งจะมีให้ ก็ต้องเลือกเป็น Core i9 และ Ryzen 9 แต่เรื่องราคาก็จะกระโดดขึ้นไปสูงมากครับ

นอกจากนี้แล้ว แพนแนะนำว่าให้ซื้อซีพียูที่เป็นเจนเนอเรชันใหม่ ๆ ครับ ถ้าเป็นค่าย Intel ก็ต้องเป็น Generation ที่ 12 ส่วนค่าย AMD ก็จะเป็น Ryzen เวอร์ชัน 6000 Series ขึ้นไปครับ แต่ในช่วงต้นปีแบบนี้อาจจะมีให้เลือกน้อยรุ่นครับ ถ้าใครรอไม่ไหวก็ซื้อเป็น Intel Generation 11 หรือ AMD Ryzen 5000 Series ก็ใช้ได้ แต่เรื่องประสิทธิภาพอาจจะไม่เท่ากับตัวใหม่ ๆ

แรม

สิ่งที่ต้องดูถัดมาคือแรมครับ ตรงนี้หลายคนเข้าใจว่าแรมยิ่งเยอะ เครื่องก็จะยิ่งแรง อันนี้เป็นความเชื่อที่ผิดนะครับ แรมยิ่งเยอะก็จะทำให้คุณสามารถเปิดเว็บได้ทีละเยอะ ๆ หรือเปิดได้ทีละหลาย ๆ โปรแกรมพร้อมกันโดยไม่กระตุกครับ เอาตามมาตรฐานโน้ตบุ๊กยุคนี้ ผมแนะนำให้เลือกเป็น 8GB ขึ้นไปครับ แต่ถ้าจะเอามาเล่นเกม อันนี้แนะนำเป็น 16GB ครับสุดท้ายถ้าจะตัดต่อหรือต้องเปิดโปรแกรมเยอะ ๆ มาก ๆ 32GB ถึงจะเหมาะ

ด้านหน่วยเก็บข้อมูล หรือ SSD อันนี้แพนว่าขั้นต่ำคือ 256GB ส่วนที่แนะนำคือ 512GB ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้มีพื้นที่เหลือไว้สำหรับเก็บข้อมูล หรือลงโปรแกรมต่าง ๆ ไว้ใช้งานครับ แต่ถ้าเป็นสายเล่นเกม หรือตัดต่อ แพนแนะนำเป็น 1TB กำลังดี เพราะไฟล์ค่อนข้างใหญ่ แนะนำว่าให้ดูเสริมด้วยว่า สามารถเพิ่มได้อีกหรือไม่ ถ้ามีจะดีที่สุดครับ แต่ถ้ารุ่นไหนที่ยังให้หน่วยเก็บข้อมูลมาเป็น Hardisk แบบจานหมุน อันนี้ให้มองหารุ่นอื่นได้เลยครับ เพราะอ่านข้อมูลได้ช้ามากครับ

เรื่องหน้าจอ

ต่อกันที่เรื่องหน้าจอครับ ทุกวันนี้ Panel หน้าจอส่วนใหญ่จะเป็น IPS ที่มีข้อดีคือสีตรงค่า sRGB จะอยู่ที่ 100% และมีมุมมองที่กว้าง แต่ก็มีอีกหน้าจอหนึ่งอย่าง OLED ที่เริ่มเห็นในหลาย ๆ รุ่นแล้วครับ โดยข้อดีของจอ OLED จะให้ค่าสีที่เที่ยงตรงกว่าจอ IPS ครับ เป็นค่าสี DCI-P3 ที่ส่วนใหญ่ก็จะเป็น 100% ซึ่งค่านี้จะถูกใช้ในวงการภาพยนตร์ครับ ด้านความละเอียดแนะนำเป็น Full HD ขึ้นไปครับ ถ้าเอาให้ภาพคมหน่อยก็ต้องเป็น 2K หรือไม่ก็ 4K ครับ ส่วนใครที่คิดจะซื้อโน้ตบุ๊กสำหรับเล่นเกม อันนี้ก็ต้องดูที่ค่า Refresh Rate ครับ ยิ่งสูงก็ยิ่งลื่นครับ แนะนำว่าเป็น 120Hz ขึ้นไป ส่วนกับการทำงานเอกสารแพนว่า 60Hz ก็เพียงพอแล้วครับ

การ์ดจอ

ถัดมาเป็นเรื่องของการ์ดจอหรือชิปกราฟิกครับ ปกติแล้วถ้าเป็นโน้ตบุ๊กธรรมดาที่ราคาไม่ได้สูงมา จะมีการ์ดจอติดมากับซีพียูให้ครับ ซึ่งเพียงพอกับการใช้งานทั่วไป แต่ถ้าต้องใช้ทำงานหรือเล่นเกม อันนี้ก็ต้องใช้การ์ดจอแยก โดยจะมีให้เลือกสองแบรนด์ครับ คือ AMD และ Nvidia ประสิทธิภาพก็ใกล้เคียงกันครับ แล้วถ้าอยากจะรู้ว่าอันไหนแรงกว่ากัน ก็ให้ดูที่เลขรุ่นด้านหลัง เลขเยอะกว่าก็จะแรงกว่า เช่น RX 5500m และ RX 6500m แต่การเทียบแบบนี้มีเงื่อนไขอยู่นะครับ ตัวอักษรรุ่นด้านหน้าต้องเหมือนกัน เช่น RX ก็ต้องเทียบกับ RX จะเอา RX ไปเทียบกับ RTX ไม่ได้ครับ

ดีไซน์

สุดท้ายสิ่งที่ต้องดูคือดีไซน์ ขนาด ความหนา และน้ำหนักครับ เรื่องดีไซน์อันนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลยครับ ส่วนที่แพนอยากจะให้ดูคือเรื่องขนาด ความหนา และน้ำหนักครับ เราซื้อโน้ตบุ๊กมาก็ต้องมีการพกพาใช่ไหมครับ เรื่องนี้ก็เลยสำคัญ บางและเบา ยังไงก็พกง่ายกว่าหนาและหนักครับ แพนมีทริกครับ ถ้าอยากรู้ว่าโน้ตบุ๊กน้ำหนัก 1.5 กก. หนักแค่ไหน ก็ซื้อน้ำขวด 1.5 ลิตรมาใส่กระเป๋าดูครับว่าพกไหวไหม

สำหรับเรื่องแบตเตอรี่จากที่แพนรีวิวมาหลายรุ่น แม้จะมีตัวเลขที่สูง แต่ก็ต้องดูจากการใช้งานจริงครับ เพราะมีหลายปัจจัยที่ทำให้แบตหมดช้า-ไวไม่เท่ากันครับ

สำหรับเรื่องประกันอันนี้ก็ต้องดูเหมือนกันครับว่า เป็นแบบประกันแบบ On-site service หรือไม่ ถ้าเป็นอันนี้เวลาเครื่องมีปัญหาเขาก็จะมาซ่อมให้ถึงบ้าน และอีกเรื่องที่ต้องดูก็คือมีประกันอุบัติเหตุให้มาไหมครับ กรณีที่เราเผลอทำโน้ตบุ๊กตกแตก ตกน้ำ หรือไฟไหม้ อันนี้ก็จะเคลมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จากที่แพนรีวิวโน้ตบุ๊กมาหลายค่าย ประกันส่วนใหญ่ก็จะมีให้เหมือน ๆ กันนะครับ
ส่วนเรื่องงบประมาณอันนี้ก็ต้องบอกว่ามีให้เลือกหลากหลายเลยครับ เริ่มตั้งแต่ 10000 ไปจนถึงหลัก 100000 เลยครับ โดยแต่ละช่วงราคาก็จะมีประสิทธิภาพไม่เท่ากันครับ สำหรับราคา 10000 – 20000 ส่วนใหญ่ก็จะเพียงพอกับการใช้งานทั่วไปครับ

แต่ถ้าราคา 20000-40000 ขึ้นไปก็จะเป็นโน้ตบุ๊กสำหรับทำงานที่สเปกแรงขึ้นมาหน่อย ถ้าราคาที่แพงขึ้นมาหน่อย 30000-50000 จะเหมาะกับการใช้เล่นเกมกับตัดต่อ แต่ถ้าเป็นสเปกแรง ๆ ราคาก็จะเพิ่มเป็น 50000 ขึ้นไปจนถึง 100000 เลยครับ
เป็นอย่างไรบ้างครับกับ วิธีเลือกโน้ตบุ๊กปี 2022 หวังว่าจะเป็นข้อมูลที่ช่วยในการตัดสินใจของหลาย ๆ คนได้นะครับ แต่ถึงอย่างนั้น แพนก็แนะนำว่าให้ลองไปจับตัวเครื่องจริงที่หน้าร้านดีกว่าครับ จะได้รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบ