ก้าวแรกสู่การผจญภัยครั้งใหม่ที่ผู้เล่นคือศูนย์กลาง

บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเมื่อสื่อเกมจากทั่วเอเชียรวมตัวกันเพื่อร่วมพูดคุยกับ ฮิโรฮิโตะ ซูซูกิ (Hirohito Suzuki) โปรดิวเซอร์ผู้ปลุกปั้น Octopath Traveler Zero ภาคปฐมบทของซีรีส์ JRPG ชื่อดังที่แฟน ๆ ทั่วโลกตั้งตารอ ด้วยเอกลักษณ์งานภาพ HD-2D และการเล่าเรื่องที่แตกต่าง ทีมงานของเรารวบรวมทุกคำตอบ ทุกมุมมอง และทุกแนวคิดจากซูซูกิ เพื่อให้คุณได้สัมผัสวิสัยทัศน์การสร้างเกมที่ทั้งท้าทายและเต็มไปด้วยความรัก
จุดกำเนิด “Zero”: จากมือถือสู่คอนโซลที่ไม่ใช่แค่การพอร์ต
คำถามแรกที่หลายคนสงสัยคือ Zero แตกต่างจาก Octopath Traveler: Champions of the Continent บนมือถืออย่างไร ซูซูกิเล่าว่าแม้จะหยิบแรงบันดาลใจบางส่วนมา แต่ตัวเกมถูกสร้างใหม่ทั้งหมด
นี่คือประสบการณ์ใหม่อย่างแท้จริง เราออกแบบเลเวลและสเกลของเกมใหม่เกือบทุกส่วน เพื่อให้ได้มาตรฐานคอนโซลเต็มรูปแบบในสไตล์ Octopath Traveler ภาคหลัก
สิ่งสำคัญที่สุดคือการตัดระบบ กาชา (Gacha) ออกโดยสิ้นเชิง เพื่อให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ Single-Player RPG ที่เข้มข้นและสมบูรณ์ 100% ไม่มีการสุ่ม ไม่มีการซื้อเสริมใด ๆ มีเพียงเรื่องราวและเกมเพลย์ที่ทีมพัฒนาตั้งใจมอบให้
คุณคือผู้กล้า: ตัวละครเอกที่คุณสร้างเอง

หนึ่งในความท้าทายที่ซูซูกิและทีมพัฒนาภูมิใจคือการให้ผู้เล่น สร้างตัวละครหลักของตนเอง ต่างจากภาคก่อนที่มีตัวละครหลัก 8 คนพร้อมเรื่องราวชัดเจน
“เราอยากให้ผู้เล่นรู้สึกว่า นี่คือการเดินทางของ คุณ จริง ๆ”
เรื่องราวเริ่มต้นจาก การสูญเสีย: เมืองอันสงบสุขถูกทำลายโดยศัตรูผู้โหดเหี้ยม คุณต้องลุกขึ้นเพื่อสองเป้าหมายใหญ่ การฟื้นฟูเมือง และ การล้างแค้น นี่คือแรงผลักดันทางอารมณ์ที่ทำให้แม้ตัวละครเอกจะพูดน้อย แต่ผู้เล่นจะผูกพันกับการเดินทางได้อย่างลึกซึ้ง
สมดุลทีมกว่า 30 ตัวละคร: ความท้าทายเชิงดีไซน์
Octopath Traveler Zero มาพร้อมตัวละครให้เลือกมากกว่า 30 ตัว การบาลานซ์คือหัวใจสำคัญ
“เราพัฒนาระบบ Select Ability ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นปรับสกิลตัวละครได้อิสระ ทำให้ทุกตัวมีศักยภาพจบเกมได้”
ผู้เล่นจึงสามารถสร้าง “ทีมในฝัน” ได้อย่างไม่จำกัด ทดลองกลยุทธ์และสไตล์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองอย่างเต็มที่
สานสัมพันธ์: มิตรภาพที่ลึกขึ้นกว่าเดิม

หนึ่งในเสียงวิจารณ์ของภาคแรกคือความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครยังไม่แน่นแฟ้นเท่าที่ควร ซูซูกิอธิบายว่าภาคนี้ใช้ ตัวละครผู้เล่น เป็นแกนกลาง และเชื่อมโยงตัวละครอื่น ๆ ผ่านหลายวิธี เช่น
เควสต์หลักและเหตุการณ์ระหว่างทาง ที่นำไปสู่การพบเจอตัวละครใหม่
ปฏิสัมพันธ์ในเมือง เมื่อชักชวนตัวละครมาอยู่ด้วย พวกเขาจะมีบทสนทนาพิเศษ เปลี่ยนไปตามพัฒนาการของเมือง
Party Chat ระบบสนทนาระหว่างตัวละครที่แฟน ๆ ชื่นชอบ กลับมาช่วยเผยเสน่ห์เฉพาะตัวในแต่ละสถานการณ์
ซูซูกิเปรียบผู้เล่นเป็น “ลำต้นของต้นไม้” และตัวละครอื่นคือ “กิ่งก้าน” ที่เติบโตและเชื่อมโยงกันอย่างเป็นธรรมชาติ
โลกกว้างและระบบสร้างเมือง: สนุกทั้งต่อสู้และสร้างสรรค์

ระบบ Field Command ยังคงเป็นหัวใจหลักของเกม แต่ภาคนี้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ “Invite” ที่ให้ผู้เล่นเชิญ NPC กว่า 100 คนมาพักในเมืองตนเองได้ การสร้างเมืองจึงไม่ใช่แค่ความสวยงาม แต่ส่งผลต่อเกมเพลย์โดยตรง เช่น
โรงเตี๊ยม ปลดล็อกเมนูทำอาหารเพื่อบัฟพิเศษ
ฟาร์ม/ทุ่งเลี้ยงสัตว์ สำหรับวัตถุดิบหายาก
ร้านเสริมสวย แก้ไขรูปลักษณ์ตัวละครเอก
ลานฝึกฝน ที่ช่วยเก็บเลเวลตัวละครสำรองโดยไม่ต้องลงสนาม
ระบบเหล่านี้ทำให้ผู้เล่นได้ผสมผสานการสำรวจ การสร้าง และการต่อสู้เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
จุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับมือใหม่
แม้จะเป็นภาคปฐมบท Zero ก็เต็มไปด้วยรายละเอียดที่ต้อนรับผู้เล่นใหม่
“เกมจะค่อย ๆ สอนระบบ ตั้งแต่ปาร์ตี้เล็ก 2-3 คน ไปจนถึงระบบซับซ้อน ทำให้ผู้เล่นใหม่ปรับตัวได้ง่าย”
ขณะเดียวกันแฟนเดิมจะได้เพลิดเพลินกับ การเชื่อมโยงเหตุการณ์ในทวีป Orsterra ก่อนเรื่องราวภาคหลัก เป็นประสบการณ์ที่มอบความสุขทั้งสองกลุ่ม
มุมมองส่วนตัวของโปรดิวเซอร์
เมื่อถามถึงความท้าทายระหว่างการพัฒนา ซูซูกิกล่าวว่า การรักษาเอกลักษณ์ภาพ HD-2D และดนตรีคือเรื่องสำคัญ ทีมงานใช้เวลามากกับการปรับโทนสี แสง และรายละเอียด เพื่อให้โลก Orsterra ในยุคแรกสื่ออารมณ์ทั้งความโศกเศร้าและความหวังได้อย่างชัดเจน
เราอยากให้ผู้เล่นรู้สึกว่าพวกเขาได้สัมผัสประวัติศาสตร์ของ Orsterra จริง ๆ เหมือนย้อนเวลากลับไปเห็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
เขายังยกย่องคอมโพสเซอร์ประจำซีรีส์ที่กลับมาสร้างสรรค์ดนตรีใหม่ ๆ ซึ่งจะพาผู้เล่นเข้าสู่บรรยากาศผจญภัยและดราม่าได้ทรงพลังยิ่งขึ้น
ฝากถึงแฟนเอเชีย และ “ความลับ” ที่ไม่ควรพลาด

ซูซูกิส่งข้อความถึงแฟน ๆ ชาวเอเชียด้วยรอยยิ้ม
“ผมดีใจที่ได้มอบเกมนี้ให้ทุกคน หวังว่าทุกคนจะสนุกกับการสร้างเมือง และแชร์ภาพเมืองสวย ๆ บนโซเชียล ผมรอชมอยู่ครับ”
นอกจากนี้ยังมีระบบเชื่อมต่อเซฟเกม สุดพิเศษ:
-เซฟ Octopath Traveler 1 รับรูปปั้นแมว Cait สีน้ำเงิน
-เซฟ Octopath Traveler 2 รับรูปปั้นปลาหมึก Octopuff
ของตกแต่งเหล่านี้เพิ่มอัตรา EXP และ JP ทำให้การเดินทางง่ายขึ้น ถือเป็นโบนัสสำหรับแฟนซีรีส์โดยแท้
บทสรุป

Octopath Traveler Zero ไม่ใช่เพียงภาคเสริมหรือภาคย้อนอดีตธรรมดา แต่คือ การเดินทางครั้งใหม่ที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและความใส่ใจ ตั้งแต่ระบบสร้างเมือง ตัวละครที่ลึกซึ้ง ไปจนถึงงานภาพและเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ สมกับเป็นก้าวสำคัญของหนึ่งในซีรีส์ JRPG ที่ดีที่สุดในยุคนี้

พร้อมออกเดินทางหรือยัง? โลก Orsterra ในอดีตกำลังรอให้คุณสร้างตำนานบทใหม่ด้วยมือของคุณเอง!