สิ่งที่ดีที่สุดบน ‘Final Fantasy 7 Rebirth’ คือฉากกว้าง ๆ แบบโลกอิสระ ที่นอกจากความกว้างแล้วยังมีความหลากหลายอย่างเหลือเชื่อ ที่มีภูมิประเทศที่แตกต่างมากมายแถมยังเป็นแผนที่เดียวแบบไร้รอยต่อโดยสิ้นเชิง โดยไม่มีการโหลดแม้แต่ครั้งเดียวทำให้เวลาผู้เล่นเดินทางไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทำได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด

โดยสาเหตุที่สามารถสร้างโลกที่ใหญ่และลื่นไหลได้ขนาดนี้ผู้สร้างหลักอย่าง โยชิโนริ คิตาเสะ (Yoshinori Kitase) ผู้จัดการแบรนด์ Final Fantasy และโปรดิวเซอร์ภาค ‘Rebirth’ ได้บอกว่าโลกแบบ Openworld ในภาคนี้จะไม่สามารถทำได้ลื่นไหลแบบนี้หากไม่ได้พัฒนาลงบนคอนโซลเพียงเครื่องเดียว (PS5)

ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในบทสัมภาษณ์กับ The Washington Post ที่เขาได้อธิบายเพิ่มเติมว่าการที่ ‘Final Fantasy 7 Rebirth’ สร้างบนแพลตฟอร์มเพียงเครื่องเดียวคือ PS5 ทำให้ทีมงานสามารถสร้างโลกกว้าง ๆ ที่ไร้รอยต่อออกมาได้ เพราะหากทีมงานต้องโฟกัสไปทำหลายเครื่องเกมมันจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการออกแบบเกม

นอกจากนี้ฟีเจอร์สำคัญของ PlayStation 5 คือการมี SSD ความเร็วสูง ทำให้เกมสามารถดำเนินไปได้โดยไม่ต้องจังหวะหยุดพักโหลด ซึ่งมันยากมากที่จะสร้างเกมที่ไม่มีการโหลดระหว่างเล่นเกมถ้ายังอยู่บนเครื่องเกมที่ใช้ Harddisk เป็นหลัก

เกม ‘Final Fantasy 7 Rebirth’ ออกวางขายแล้ววันนี้บน PS5 เท่านั้น